กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
11 พฤศจิกายน 2024, 02:47:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง  (อ่าน 39207 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 ธันวาคม 2011, 11:03:AM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #20 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 11:03:AM »
ชุมชนชุมชน

ต้นมะลื่น   ผลดก   หล่นตกพื้น
เด็กยิ้มรื่น   ยามผ่า   หมากกะบก
ใช้มีดพร้า   ผ่าครึ่ง   สับหนึ่ง“ป๊ก”
แล้วหยิบยก เคี้ยวกินกัน กรอบมันเอย !ฯ

                               อริญชย์
                      7/6/2553


<iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src="
<a href="http://www.youtube.com/v/OOfR_nzlRUQ&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/OOfR_nzlRUQ&amp;rel=0&amp;fs=1</a>
" frameborder="0"></iframe>



เมล็ดกะบกคั่ว
http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%94+%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%81+%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7&um=1&hl=th&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=slxszESKMxOoCM:&imgrefurl=http://www.bansuanporpeang.com/node/2794&docid=fpGP1CnjPxnmvM&imgurl=http://www.bansuanporpeang.com/files/images/user1048/DSC02289.jpg&w=420&h=315&ei=CCrkTtqXHs7nrAfroPD2Bw&zoom=1&iact=hc&vpx=458&vpy=223&dur=94&hovh=194&hovw=259&tx=167&ty=83&sig=114725656472240134159&page=1&tbnh=169&tbnw=238&start=0&ndsp=10&ved=1t:429,r:1,s:0


 
 
     

กะบก (Irvingia malayana Oliv. ex Benn.)
พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดร้อยเอ็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์ Irvingia malayana Oliv. ex Benn.
วงศ์ IRVINGIACEAE
ชื่ออื่น  หมากบก มะมื่น มะลื่น หลักกลาย
ไม้ต้น  ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 30 เมตร ผลัดใบ 
เปลือก  สีเทาอ่อนปนน้ำตาลค่อนข้างเรียบบางทีแตกเป็นสะเก็ด เรือนยอดเป็นพุ่มแน่นทึบ กลมรี 
ใบ  ใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปมนแกมรูปขอบขนานจนถึงรูปหอก กว้าง 2.5 - 9 เซนติเมตร ยาว 8 - 20 เซนติเมตร ผิวใบเกลี้ยง เนื้อหนา โคนใบมนปลายใบทู่ถึงแหลม หูใบโค้ง ม้วนหุ้มยอดอ่อน ยาวถึง 3 เซนติเมตร 
ดอก  ดอกเล็กสีขาวปนเขียวอ่อน 
ผล  กลมรีเมื่อสุกสีเหลือง   เมล็ดแข็ง เนื้อในเมล็ดขาวมีรสมัน
นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว
ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน
ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด
ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก   ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้ เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนก
   นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว
ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน
ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด
ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก   ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้
เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนก

http://www.dnp.go.th/EPAC/province_plant/roied.htm




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, Prapacarn ❀, บูรพาท่าพระจันทร์, masapaer, ...สียะตรา.., พิมพ์วาส, sunthornvit, รพีกาญจน์, Thammada, บ้านริมโขง, ลมหนาว, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, สุนันยา, พี.พูนสุข, ♥หทัยกาญจน์♥, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
11 ธันวาคม 2011, 11:15:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #21 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 11:15:AM »
ชุมชนชุมชน

 
ไปเที่ยวกันดีกว่า ไปเที่ยวกันดีกว่า

จากบ้านมา ความหลัง ยังจำได้
ต้นหว้าใหญ่ ผลดก นะอกเอ๋ย
สีม่วงม่วง กินที ติดลิ้นเลย
แต่ไม่เคย ลืมเลือน ย้ำเตือนใจ
พันทอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, masapaer, อริญชย์, ...สียะตรา.., พิมพ์วาส, sunthornvit, รพีกาญจน์, Thammada, บ้านริมโขง, ลมหนาว, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, เพรางาย, สุนันยา, พี.พูนสุข, ..กุสุมา.., คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 ธันวาคม 2011, 12:16:PM
...สียะตรา..
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 396
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,049


.


« ตอบ #22 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 12:16:PM »
ชุมชนชุมชน




 ยิ้มให้จ้ะ








ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิมพ์วาส, sunthornvit, อริญชย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, บ้านริมโขง, ลมหนาว, บูรพาท่าพระจันทร์, ไม่รู้ใจ, รัตนาวดี, เพรางาย, สุนันยา, พี.พูนสุข, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 ธันวาคม 2011, 02:56:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #23 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2011, 02:56:PM »
ชุมชนชุมชน

หว้าต้นใหญ่สูงเด่นมองเห็นง่าย
เป็นต้นไม้ล้ำค่ายิ่ง แผ่กิ่งกว้าง
ผลสุกดำรสหวานพอปานกลาง
พบทุกทางป่าเขาลำเนาไพร ฯ
   
                    อริญชย์
    


(บทความต่อไปนี้ก๊อบมาจากเวบอื่นฮะ ตามลิงค์ข้างล่างเน้อ)



ลูกหว้ามีประโยชน์อย่างไร?
หว้าอินเดียออกลูกใหญ่มาก ดกเต็มต้นเลยค่ะ เหมือนจะอร่อย แต่พอทานไปเหนียวๆฝาดๆในปากเหมือนกัน อยากทราบว่าลูกหว้ามีสรรพคุณเป็นประโยชน์และโทษอย่างไร นอกจากหยิบลูกมาใส่ปากทานแล้ว เอาไปทำอย่างอื่น หรือ แปรรูปอย่างไรได้อีกบ้าง และคุณสมบัติ ของลูกห้า ใกล้เคียงกับลูกชำมะเลียงหรือเปล่า เพราะที่บ้านมีต้นชำมะเลียงออกลูกเช่นกันค่ะ
•   3 ปี ผ่านไป
•   แจ้งลบ
 by Aragon
เป็นสมาชิกตั้งแต่:
07 สิงหาคม 2008
คะแนนรวม:
3,208 (ระดับ 4)
•   เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อ
•   บล็อค
คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเจ้าของคำถาม
ลูกหว้า น ำมากินสดๆ ทำไวน์ ทำน้ำส้ม น่าจะทำแยมได้ด้วย(แบบแบลคเบอรี่)

“หว้า” ชาวฮินดูเรียกว่า “จามาน” หรือ “จามูน”
“หว้า” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า จัมโบลาน (Jambolan) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ซีสส์จิอัม คูมินิ (Syzygium cumini (L.) Skeels) จัดอยู่ในวงศ์ ไมร์ทาซีอี้ (Myrtaceae) "หว้า" เป็นพันธุ์ไม้พวก ชมพู่ คือสกุล (Genus Syzygium) ในวงศ์ (Family Myrtaceae) มีมากทั้งในอินเดีย พม่า ไทย และมาเลเซีย ตลอดจนฟิลิปปินส์ โดยมากหว้ามีลูกเล็กสีม่วงดำ แต่ในบางแห่ง
เช่น ในฟิลิปปินส์มีลูกโตเท่าไข่นกพิราบ หว้ามีกิ่งก้านมาก แข็งแรง ปลายกิ่งห้อยย้อยลง ใบดกหนา ทำให้เกิดเป็นพุ่มทรงรูปไข่ แน่นทึบ ใบอ่อนจะแตกสีแดงเรื่อ ๆ แม่ค้าที่ขายลูกหว้าเขาจะพรมน้ำเกลือเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาดให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ผล หว้ามีขนาดยาว 1 – 2.5 ซม. และโตประมาณ 1 ซม. น้ำจากผลหว้าก็เป็น 1 ใน 8 น้ำปานะที่พระพุทธองค์ทรงมีพุทธานุญาตแก่พระภิกษุ เมล็ดลดน้ำตาลในเลือด แก้ท้องเสีย และใช้ถอนพิษ ในพม่านั้น ต้นหว้าถือเป็นไม้มงคลในเรื่องความสำเร็จและชัยชนะ ด้วยชื่อว่าชมพูทวีป หรือดินแดนแห่งไม้หว้านั้น เป็นแผ่นดินอันเป็นแดนกำเนิดของพระพุทธศาสนาและพระบรมศาสดานั่นเอง

“หว้า” มีคุณค่าทางโภชนาการคือ ในผลหว้าจะประกอบด้วย น้ำตาล วิตามินซี มีแคลเซียม(สูง) และเหล็ก ส่วนในเมล็ดหว้าจะมีสารอัลคาลอยด์ น้ำมันหอมระเหย ฟอสฟอรัส และแคลเซียม

สรรพคุณของหว้าและวิธีใช้
เปลือกและใบหว้า ใช้ทำยาอม ยากวาดคอ แก้ปากเปื่อย ลิ้นและคอมีเม็ด

ใบและเมล็ดหว้า ใช้แก้บิด มูกเลือด ท้องเสีย นำใบและเมล็ดหว้ามาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ในการชะล้างแผลเน่าเปื่อย หรือนำใบและเมล็ดหว้ามาตำแล้วใช้ทาแก้โรคผิวหนัง

เมล็ดหว้า เมล็ดหว้าเมื่อนำมาต้มหรือบด แล้วนำมารับประทาน มีสรรพคุณใช้แก้เบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วงได้

"ผลหว้าสุก" จะลักษณะสีม่วงดำ และมีรสเปรี้ยวฝาดอมหวาน จึงสามารถนำมาใช้ในการทำไวน์ได้ดี ส่วนยอดอ่อนของหว้า สามารถใช้รับประทานเป็นผักสด

สำหรับในประเทศไทย ต้นหว้าเป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลประจำจังหวัดเพชรบุรี

ส่วนชำมะเลียง หรือลูกชุมเรียง(ภาคใต้) ลูกกินได้ รสฝาดๆหวานๆ ไม่อร่อย แต่เด็กๆชอบใบของมันมาก เพราะนิยมนำมาใช้ทำธนบัตรเวลาเล่นขายของกัน..สนุก



ที่มา


http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20090423165318AA4S8qD

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิมพ์วาส, Prapacarn ❀, ลมหนาว, Thammada, panthong.kh, บูรพาท่าพระจันทร์, ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, สล่าผิน, รัตนาวดี, ...สียะตรา.., สุนันยา, พี.พูนสุข, บ้านริมโขง, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
19 ธันวาคม 2011, 07:39:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #24 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2011, 07:39:PM »
ชุมชนชุมชน

แมงมุมพิษดักซุ่มรอตัวต่อร้าย
หวังจะได้กินเพราะเห็นว่าเป็นต่อ
เมื่อต่อมา จึงโจมตีไม่รีรอ
เกมพลิกต่อพิษแรงฆ่าแมงมุม !ฯ
      
                  อริญชย์




 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, ลมหนาว, พี.พูนสุข, บูรพาท่าพระจันทร์, รัตนาวดี, บ้านริมโขง, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง..

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
19 ธันวาคม 2011, 08:12:PM
บูรพาท่าพระจันทร์
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 848
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,717


ผู้นิยม..ชมรส..บทกานท์กลอน./


« ตอบ #25 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2011, 08:12:PM »
ชุมชนชุมชน

แมงมุมพิษดักซุ่มรอตัวต่อร้าย
หวังจะได้กินเพราะเห็นว่าเป็นต่อ
เมื่อต่อมา จึงโจมตีไม่รีรอ
เกมพลิกต่อพิษแรงฆ่าแมงมุม !ฯ
      
                  อริญชย์




 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล



ดั่งเสือร้าย หมายลิ้ม เข้าชิมหมู
วางท่าดู ขู่คำราม ตามขยุ้ม
เจ้าหมูใหญ่ ใจกล้า พาพวกรุม
ร่วมประชุม ถ้วนหน้า หมูป่าดง.../

บูรพาท่าพระจันทร์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, Thammada, อริญชย์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, panthong.kh, บ้านริมโขง, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง.., ลมหนาว

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"สั้น-ตรงเป้า-เร้าใจ"
21 ธันวาคม 2011, 08:59:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #26 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2011, 08:59:PM »
ชุมชนชุมชน

“อ้น” เป็นสัตว์ชอบอยู่ในรูลึก
ตามพงพฤกษ์ลำเนาเทือกเขาใหญ่
ฟันแทะเคี้ยวอาหารสำราญใจ
แมว  หมาใน นกเค้า งู ศัตรูเอย ฯ

                          อริญชย์
                     

อ้ น : g r o u n d h o g

" อ้น เป็นสัตว์สี่เท้าเลี้ยงลูกด้วยนม อาศัยอยู่ใต้ดิน มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหนูพุกตัวอ้วน มีฟันหน้าคู่ใหญ่เป็นพิเศษคู่หนึ่ง สำหรับเมืองไทยมีอ้นอยู่ 3 ชนิดคือ อ้นใหญ่ อ้นกลาง และ อ้นเล็ก "



 
ลั ก ษ ณ ะ เ ด่ น
ลักษณะเด่นที่สุดของอ้นคือ ฟันคู่หน้าใหญ่หนึ่งคู่ ฟันนี้มีสีเหลือง สีน้ำตาลอ่อน บางครั้งก็อาจจะเป็นสีส้ม อ้นใช้ฟันคู่นี้ขุดอุโมงค์ กัดดิน รากไม้ และเป็นอาวุธป้องกันตัว อ้นมีหัวมน ก้นมน คอสั้น ขากรรไกรกว้าง ตาเล็ก หูเล็ก ไม่มีใบหูยื่นยาวเหมือนกับสัตว์อื่นๆ
 
นิ สั ย - พ ฤ ติ ก ร ร ม
อ้น เป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตแบบเดี่ยว คือ อ้นจะอยู่ลำพังเพียงตัวเดียวใน 1 รัง นอกจากเวลาผสมพันธุ์จึงจะอยู่ด้วยกันกับคู่ของมัน อ้นตัวผู้จะอยู่กับตัวเมีย จนกว่าตัวเมียจะคลอดลูกออกมาแล้วจึงออกไป
 
อ า ห า ร
อ้นทั้งสามชนิดนี้ กินอาหารต่างกัน อ้นใหญ่จะกินแต่รากไผ่เป็นอาหารเท่านั้น ส่วนอ้นกลางและอ้นเล็กกินไม่เลือก ขอให้เป็นรากไม้ หักเครือเถาใดๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นไม้ไผ่เหมือนอ้นใหญ่
ศั ต รู ข อ ง อ้ น
ศัตรูของอ้น ซึ่งมักมาดักกินอ้น ขณะออกจากรัง คือ พวกเสือดาว แมวดาว หมาไน บางทีก็โดนนกฮูก นกเค้าแมวจับกินด้วย
 
ที่ อ ยู่ อ า ศั ย
อ้น เป็นสัตว์ที่มีการระวังสูง จึงชอบขุดเจาะท่อทางเดินให้มีขนาดเฉพาะเท่ากับลำตัวเท่านั้น ความลึกจากผิวดินก็อยู่ในระดับเดียวกับรากเหง้าและหัวรากไม้ต่างๆ วิธีขุด อ้นจะใช้ปากกัดดิน และใช้เท้าตะกุยส่งผ่านใต้ท้อง และใช้ขาหลังถีบดินกองไว้ข้างหลัง เมื่อดินกองใหญ่พอสมควร อ้นจะกลับตัวแล้วใช้ส่วนหัวของมันดันกองดินขึ้นมาบนผิวดินเป็นระยะๆ

http://www.reocities.com/taooop/vers3/groundhog.html






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, panthong.kh, บ้านริมโขง, Thammada, รัตนาวดี, ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, ไม่รู้ใจ, สุนันยา, ..กุสุมา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง.., ลมหนาว

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
23 ธันวาคม 2011, 07:06:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #27 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2011, 07:06:PM »
ชุมชนชุมชน

    “ตะขาบทุ่งอหังการ”

นกตะขาบทุ่งผดุงถิ่น
โบยบินไปมาตามป่าเขา
อหังการหัวใจไม่เบา
ค่ำ-เช้า หากินในถิ่นตน

หนาวลมฝนแดดแผดร้อน
ยังจรบินไปตามไพรสณฑ์
ยึดความพอเพียงเลี้ยงตน
อดทนยินดีเท่าที่เป็น

รู้ตัวศักดิ์น้อยต้อยต่ำ
ไม่ถลำอวดอ้างวางเด่น
เพียงป่าน่าชม สายลมเย็น
ก็บินเล่นสุขสมอารมณ์เอย ฯ

“อริญชย์:คำนึงถึงบ้าน”
๑๕/๑๐/๒๕๕๔

นกตะขาบทุ่ง


http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87&hl=th&sa=X&biw=1280&bih=578&tbm=isch&prmd=imvns&tbnid=bHIXWhp24sKCnM:&imgrefurl=http://www.bloggang.com/viewblog.php%3Fid%3Dboutiquehome%26group%3D8&docid=zXxB_yhQyUNskM&imgurl=http://www.bloggang.com/data/boutiquehome/picture/1292850783.jpg&w=640&h=480&ei=WG70TpKgHor5rQeUye3hDw&zoom=1&iact=hc&vpx=974&vpy=265&dur=1453&hovh=194&hovw=259&tx=222&ty=81&sig=115096443240734541600&page=1&tbnh=114&tbnw=159&start=0&ndsp=19&ved=1t:429,r:18,s:0



 เคารพรัก ยิ้มให้จ้ะ เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไม่รู้ใจ, Thammada, สุนันยา, พี.พูนสุข, ..กุสุมา.., บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, ยามพระอาทิตย์อัสดง, คนกันเอง.., ลมหนาว

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
25 ธันวาคม 2011, 04:24:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #28 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2011, 04:24:PM »
ชุมชนชุมชน




“แย้” ผลุบโผล่หัวอยู่ ในรูแย้
ดูให้แน่  ประเดี๋ยว   มีเหยี่ยวไล่
คือละคร  หรรษา  แห่งป่าไพร
แย้ว่องไวเอาตัวรอดเป็นยอดดี!ฯ
             
                           อริญชย์

         


            
<a href="http://www.youtube.com/v/8Qrifnb0r-E&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/8Qrifnb0r-E&amp;rel=0&amp;fs=1</a>





"แย้ " ในโครงการพระราชดำริ "สมเด็จพระเทพฯ"

คนอะไรหน้าตายังกะแย้"
"ตาคนนั้น นอกจากไม่หล่อแล้วหุ่นยังเหมือนแย้อีกต่างหาก"
"แย้ปิ้งยังดูดีกว่าเธอเลย"
สารพัดคำพูด คำเหน็บแนม รวมไปถึงถ้อยคำหยอกล้อระหว่างเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกัน หรือการกล่าววาจาเปรียบเปรยกับบุคคลที่ตัวเองรู้สึกหมั่นไส้ โดยนำคนๆ นั้นไปเปรียบเทียบกับ "แย้"
แต่จะมีสักกี่คนที่ใช้คำพูดเหล่านั้นรู้จักหน้าค่าตา เจ้าสัตว์ชนิดนี้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมือง

ผู้เขียนเองก็ไม่คุ้นกับเจ้าสัตว์ชนิดนี้เท่าไร กระทั่งสะดุดตากับเอกสารวาระงานแสดงนิทรรศการ และประชุมวิชาการเพื่อเทิดพระเกียรติและสนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง "ทรัพยากรไทย ธรรมชาติแห่งชีวิต" ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 9-15 พฤษภาคม ที่สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า ในงานดังกล่าวมีการเสนองานวิจัยเรื่อง "การศึกษาความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการของแย้จากพื้นที่ต่างๆ" การศึกษาเรื่องนี้อยู่ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดย ผศ.ผุสตี ปริยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นหัวหน้าและนักวิจัยประจำโครงการ
อ.ผุสตี ทำให้เรารู้จักกับสัตว์ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น
"ในแง่นิเวศวิทยา แย้เป็นเพียงสัตว์ชนิดหนึ่งที่ทำให้ระบบในธรรมชาติสมดุลเพราะเขาจะกินแมลงที่เป็นศัตรูพืช และเป็นอาหารให้สัตว์ชนิดอื่น เช่น งู แต่หน้าที่เล็กๆ ดังกล่าว ก็เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้สิ่งแวดล้อมมีความสมบูรณ์" อ.ผุสตีบอก

"แย้" เป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกเดียวกันกับกิ้งก่า แต่มีขนาดตัวโตกว่า และสีผิวปรับเปลี่ยนไม่ได้เหมือนกิ้งก่า ลำตัววัดจากปลายปากโดยตลอดยาวประมาณ 11.5 เซนติเมตร(ซ.ม.) หางยาวประมาณ 23.8 ซ.ม. ตัวแบนหางราบ โคนหางแบนและแผ่บานออก สีข้างแผ่ขยาย ไม่มีแผงหนามที่สันหลัง ช่องหูใหญ่ เยื่อหูจมใต้ผิวหนัง หนังข้างคอมีรอยพับตามขวาง รอบลำตัวมีเกล็ดประมาณ 40 แถว หัวและหลังสีมะกอก โดยมีจุดเหลืองขอบดำเรียงเป็นแนวข้างตัว มีแถบดำสลับเหลืองคอมีลวดลายร่างแหดำ ประกอบสีครีม ท้องและอกสีส้มสด ตัวผู้จะมีพังผืดด้านข้าง และสวยกว่าตัวเมีย อาศัยอยู่เกือบทุกภูมิภาคของประเทศ พบมากตามพื้นทรายที่ดอนในป่าเสม็ดใกล้ทะเล
ที่อยู่ของแย้เป็นรู ลึกประมาณ 1 ฟุต เป็นโพรงข้างใน สามารถกลับตัวได้ ที่ปากรูจะมีรอยของหางแย้ เป็นรอยยาวๆ และจะมีรูพิเศษอีกรูหนึ่ง ที่ใช้ป้องกันตัว เมื่อถูกศัตรูรุกรานเข้ารูด้านหนึ่ง แย้สามารถหลบรอดออกไปอีกรูหนึ่งได้อย่างแยบยล เรียกรูนี้ว่า "แปว"
อ.ผุสตีเล่าถึงโครงการนี้ว่า เป็นการศึกษาในแง่พันธุศาสตร์ที่สัมพันธ์กับระบบนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม โดยเข้าไปสำรวจในเกาะ ซึ่งอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ เช่น เกาะไผ่ เกาะคราม เกาะแรด เกาะแสมสาร เป็นต้น โดยตั้งข้อสงสัยว่าปกติแล้วแย้จะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ทำไมบนเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะที่มีชายหาด และไม่มีผู้คนพลุก พล่านมากนัก จึงมีสัตว์ชนิดนี้อาศัยอยู่มาก เมื่อ ศึกษาจึงทราบว่าบริเวณเกาะที่มีประชากรแย้อาศัยอยู่นั้นในสมัยดึกดำบรรพ์เคยเป็นพื้นดินมาก่อน
"แย้จึงเป็นสัตว์รุ่นเก่า ที่อาศัยอยู่ดั้งเดิม และอยู่ตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้"
เกี่ยวกับสถานภาพของเผ่าพันธุ์แย้ในเวลานี้ อ.ผุสตีบอกว่า ยังไม่ถือว่าเป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์เหมือนสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่นๆ แต่ถ้าเทียบแง่ปริมาณระหว่างอดีตกับปัจจุบันพบว่าลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย เพราะทุกวันนี้แย้ถูกรุกรานจากมนุษย์จำนวนมาก รวมทั้งบางคนยังชอบออกล่าสัตว์ชนิดนี้มาเป็นอาหารอีกด้วย โดยเฉพาะในภาคอีสาน ปริมาณประชากรแย้ลดลงอย่างรวดเร็ว

กับข้อสงสัยที่ว่าทำไมหลายคนจึงนิยมรับประทานกัน อ.ผุสตีแจงว่า คนที่เคยกินมาแล้วบอกว่า รสชาติคล้ายเนื้อไก่ และเนื่องจากแย้มีเนื้อน้อย การนำมาปรุงอาหารต้องใช้หลายๆ ตัว เมนูเด็ดที่ใช้เนื้อแย้มาปรุง เช่น ลาบแย้ แย้ปิ้ง เป็นต้น

ด้วยความวิตกว่า ในอนาคตประเทศไทยจะไม่เหลือสัตว์ชนิดนี้เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูกันอีกแล้ว ทีมงานของ อ.ผุสตี จึงมีโครงการเพาะเลี้ยงแย้ เพื่อการอนุรักษ์ ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี

"ความจริงเวลานี้เด็กๆ รุ่นใหม่หลายคน โดยเฉพาะเด็กในเมือง แทบจะไม่รู้จักหน้าค่าตาของเจ้าสัตว์ชนิดนี้เลย จึงคิดกันว่าควรจะเร่งขยายพันธุ์ เพื่อเพิ่มปริมาณในธรรมชาติให้มีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเกาะที่ทางกองทัพเรือดูแลอยู่ เพราะไม่ค่อยมีใครเข้าไปรบกวน ในอนาคตอาจจะผลักดันให้แย้กลายเป็นสัตว์ประจำเกาะ เพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม เหมือนต่างประเทศ เช่น หากไปเที่ยวเกาะกาลาปากอส จะเจอตัวอีกัวน่า และถ้ามาเที่ยวเกาะในไทยจะได้เห็นแย้ ซึ่งน่าดูไม่แพ้อีกัวน่าเลย"

หากโครงการนี้สำเร็จ นอกจากจะสร้างความสมดุลของระบบนิเวศให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ต่อไปแย้ก็จะออกมาปรากฏโฉมให้ผู้คนรู้จักหน้าตากันมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงสัตว์ที่อยู่ในจินตนาการอีกต่อไป

ถึงตอนนั้นคนที่เคยถูกล้อว่าหน้าตาเหมือนแย้ จะได้รู้เสียทีว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี

โดย ชุติมา นุ่นมัน
หนังสือพิมพ์มติชน ประจำวันที่  8 พฤษภาคม พ.ศ. 2546   
เพิ่มเติม :   แย้เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งที่มีลักษ๕ณะคล้ายกิ้งก่า แย้จัดอยู่ในครอบครัว Agamidae และสกุล Leiolepis  แย้ทั่วโลกพบเพียง 9 ชนิด เท่านั้น
แต่ในประเทศไทยพบเพียง 4 ชนิด  คือ Leiolepis belliana,  Leiolepis  ocellata,  Leiolepis  reevesii rubritaeniata  และ  Leiolepis  boehmei
แย้ตัวผู้จะมีลวดลายและแถบสีด้านข้างลำตัวเข้มกว่าตัวเมีย การแพร่กระจายของแย้ก็จะแตกต่างกัน เช่น แย้ชนิด L. belliana  พบทุกภาคของประเทศไทย รวมทั้งบนเกาะ ขณะที่แย้ชนิด  L. reevesii rubritaeniata พบทั่วไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และแย้ชนิด  L. boehmei  พบเฉพาะบริเวณเขตจังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช และเป็นแย้ชนิดเดียวที่พบในประเทศไทยที่มีเพศเดียวคือเพศเมีย

 
 http://www.rspg.org/yae/yae.htm



ขอบคุณภาพประกอบจาก www.google.com
         




 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เต้นบัลเลย์ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, Prapacarn ❀, ลมหนาว, ♥หทัยกาญจน์♥, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, Thammada, ไม่รู้ใจ, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
15 กุมภาพันธ์ 2012, 08:34:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« ตอบ #29 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2012, 08:34:PM »
ชุมชนชุมชน


  ๐ดังฟังโทรศัพท์๐

๐ทุย
“สวัสดี...วิหคเพื่อนนกเอี้ยง
ไยส่งเสียงซึมเศร้าปวดร้าวแสน
เราอำลาท้องถิ่นทิ้งพิณแคน
มาอยู่แมนเมืองฟ้านภาลัย”
๐เอี้ยง
“สวัสดี...เพื่อนทุยมิ่งสหาย
ยังสบายดีอยู่....หรือมิใช่
ตั้งแต่เพื่อนจากเขาลำเนาไพร
เราก็เหงาฤทัยอยู่หนักหนา”
๐ทุย
“ทวนความหลังของเราครั้งเก่าก่อน
เพื่อนเคยอ้อนเกาะหลังเราเล็มหญ้า
สองเราเที่ยวสุขใจตามไร่นา
ชมพฤกษาหญ้าเขียวและเคียวรุ้ง”
๐เอี้ยง
“ดีเหมือนกันได้หวนทวนความเก่า
ครั้งสองเราพบพานอยู่บ้านทุ่ง
เพื่อนพาลุยนาหนองริมคลองคุ้ง
สูดกลิ่นฟุ้งธรรมชาติอากาศดี”
๐ทุย
“เราไถนา เช้า-เย็น ลำเค็ญแสน
ฟังเพลงแคนกล่อมทุ่งตามวิถี
ฟังกบเขียดหยอกเอินเพลินฤดี
ฟังดนตรีเรไรกล่อมใบข้าว”
๐เอี้ยง      
“ฟังเสียงตุ๊กแกร้องดังก้องป่า
เหนือท้องนาเสียงกู่...สะนูว่าว
ลมกรากตาลฟ้าวเฟี้ยว...นกเกรียวกราว
เมฆสีขาวตั้งเค้าหม่นโปรยฝนพรำ”
๐ทุย
“ฟ้าคำรามดังลั่นสนั่นทุ่ง
เอี้ยงสะดุ้งพลาดท่าหัวคะมำ
ช่างเป็นภาพงามงดชวนจดจำ
เรานึกขำตั้งแต่นั้นถึงวันนี้”
๐เอี้ยง
“เราเองก็นึกขำ...เจ้าเพื่อนทุย
ที่เดินดุ่ยเล็มหญ้าใกล้ป่าขี้
เหม็นขนาด เพื่อนยังเดิน...เพลินฤดี
เราแอบหนีสหายตั้งหลายวัน”
๐ทุย
“เฮ้ย !!! ไอ้นี่...ตะเบ็งพูดเก่งจัง
เรื่องความหลังหลายอย่างก็สร้างสรรค์
เรื่องป่าขี้พูดไปทำไมกัน
มันน่าขันตรงไหนวะ...ไอ้นี่”
๐เอี้ยง
“อ้าว.....ก็นาย..ตะแบงเล่นแรงก่อน
เราก็ย้อนเพื่อนให้เป็นไรพี่
หากเพื่อนจะคิดโกรธก็โทษที
เราไม่มีเจตนาจะว่าแรง”
๐ทุย
“โทรศัพท์เติมเงินเราใกล้หมด
เราขอ-งดเจรจาถ้อยแถลง
เราไม่โกรธเพื่อนหรอกที่หยอกแรง
เราก็แกล้งให้เพื่อนโกรธ ขอโทษที”
เอี้ยง
“เออ....วันนี้...เอาไว้...แค่นี้ก่อน
เพื่อนลาจรอยู่เมืองฟ้าคงสุขี
ส่วนเราอยู่เมืองมนุษย์สบายดี,
อเวจี...บ๊าย  บาย....สหายรัก”


๐ตั๊กแตน(ผู้ดักฟัง)

“เครื่องดักฟังเครื่องนี้ช่างมีค่า
บอกราคาอย่างน้อยแปดร้อยล้าน
ความจริงตั้งงบเกินประมาณการ
สามสิบล้านเท่านั้นแหละ... ฟันธง! ฯ(ไม่ฮา)


                อริญชย์
                 ๑๕/๒/๒๕๕๕

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.google.com






 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล อายจัง สาวน้อยเซย์ ฮาโหล




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : amika29, Thammada, ช่วงนี้ไม่ว่าง, รพีกาญจน์, ไม่รู้ใจ, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s