Re: ฟังสิ!เสียงคร่ำครวญโหยหวนไห้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 พฤษภาคม 2024, 04:11:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟังสิ!เสียงคร่ำครวญโหยหวนไห้  (อ่าน 5142 ครั้ง)
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 10:43:AM »



" ดาวน้ำค้าง "

ก่อนฟ้ารุ่ง ลมหนาว ดาวน้ำค้าง
คล้ายทุกอย่าง เย็นยะเยียบ และเงียบเหงา
แสงดาวเดือน เหมือนหม่น บนฟ้าเทา
คือความเศร้า ความขมขื่น ของคืนวัน

ซึ่งความงาม น้ำกับฟ้า เคยปรากฏ
บัดนี้ลด แรมร้าง ทางคนฝัน
เหลือร่องรอย คอยคืน เคยตื้นตัน
ก็ยังสั่น ซบเศร้า เท่าธุลี

ลอยคว้าง กลางโพยม ห่มห้วงหนาว
ประหนึ่งร้าว โรยแรง ร้างแสงสี
เหลือแต่ตัว หัวใจ เหมือนไม่มี
หวั่นวิถี ท้อทาง จะย่างยืน

ดั่งโลกร้าง วางหวั่น ไว้ตรงตัก
ซึ่งชะงัก เงื้อมเงา มิเฝ้าฝืน
หล่นลงจม ถมทับ กับกล้ำกลืน
เหมือนเป็นอื่น อ้างว้าง กลางเวลา

ผู้หลับใหล ลืมคำ เคยพร่ำพจน์
ยากกำหนด ทิศทาง วางค้นหา
อาจจำนน ทนท้อ รอระอา
เสมือนฟ้า มืดห้วง แห่งดวงจันทร์

ยิ่งลำธาร แห้งหาย เป็นทรายดิน
นกหลงถิ่น ก็ท้อ ต่อความฝัน
จะเหลือหล้า ฟ้าไหน ในรำพัน
จึงหวาดหวั่น เหลือเกิน นักเดินทาง


" ขออนุญาตไม่สัมผัสนะครับ "
ธรรมดา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

Prapacarn ❀, จารุทัส, รพีกาญจน์, Shumbala, กังวาน, D, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ดาว อาชาไนย, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, Moo Dum, ลมหนาว, ไร้นวล^^, MASAPAER, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กุมภาพันธ์ 2013, 12:41:AM โดย Thammada » บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s