ถ้าสมมุติว่ามีคนอยู่คนหนึ่งเอาแต่ชวนคุยอย่างเดียว โดยไม่ค่อยจะแต่งกลอนพวกคุณจะสน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
31 พฤษภาคม 2024, 10:03:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าสมมุติว่ามีคนอยู่คนหนึ่งเอาแต่ชวนคุยอย่างเดียว โดยไม่ค่อยจะแต่งกลอนพวกคุณจะสน  (อ่าน 14514 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
07 พฤษภาคม 2013, 10:23:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2013, 10:23:PM »
ชุมชนชุมชน



ถ้าสมมุติว่ามีคนอยู่คนหนึ่งเอาแต่ชวนคุยอย่างเดียว โดยไม่ค่อยจะแต่งกลอนพวกคุณจะสนใจเขาไหม
หรือว่าจะสนใจเฉพาะคนที่มีกลอนอย่างเดียวเท่านั้น   ยิ้มให้จ้ะ

"มีโคลงก็นับเป็นน้อง  มีกลอนก็นับเป็นพี่
โคลง-กลอนไม่มี  ทั้งน้องทั้งพี่ไม่สนใจ"


ในสังคมกวีนี่จะเป็นอย่างนี้หรือเปล่า   ถ้ามีโคลงกลอนมานำเสนอก็พอคุยกันได้
ถ้าไม่มีโคลงกลอนมาด้วยเอ็งไปไกลๆ  ดูๆแล้วเหมือนคนที่คบกันเพราะทรัพย์สมบัติเลยเนาะ
พอไม่มีทรัพย์สินติดตัวแล้วก็หมดค่า    มันเป็นแบบนั้นใช่หรือเปล่า  หือม์...ชาวกวี  ยิ้มให้จ้ะ
ถ้าเป็นแบบนี้จริงผมจะได้ร้องเพลงตัดใจลาซะ....





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, ชลนา ทิชากร, choy, ~ขลุ่ยกันแสง~, สายใย, Charlie, รัตนาวดี, Moo Dum, พี.พูนสุข, จารุทัส, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
07 พฤษภาคม 2013, 10:30:PM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #1 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2013, 10:30:PM »
ชุมชนชุมชน

ท่านพี่ถามก็ดีแล้วค่ะ..
แซมก็สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ...
 งง....

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, choy, ~ขลุ่ยกันแสง~, สายใย, Charlie, รัตนาวดี, พยัญเสมอ, Moo Dum, พี.พูนสุข, จารุทัส, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
07 พฤษภาคม 2013, 10:51:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #2 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2013, 10:51:PM »
ชุมชนชุมชน

   ข้าฯ ผู้น้อยเพิ่งเข้าบ้านกลอนฯ ไม่ถึงครึ่งปี พรรษายังต่ำมากเมื่อเทียบกับท่านพี่อื่นๆ มีเรื่องจะเล่าให้ฟังสองเรื่อง
 
   เรื่องแรกมีอยู่ว่า
   ครั้งหนึ่งอดีตพระเอก น็อต นุติ เขมะโยธิน เขาเป็นผู้หนึ่งที่หลงใหลดนตรีและเล่นกีตาร์ได้ในระดับเทพ ได้เดินทางไปที่สหรัฐฯ และมีโอกาสพบกับ แหลม มอริสัน หนึ่งในเทพแห่งกีตาร์ เมื่อน็อตเข้าทักทายแนะนำตัวเสร็จ คำแรกที่แหลม มอริสันพูดก็คือ "เราจะพูดคุยกันแต่เรื่องดนตรีกับกีตาร์เท่านั้น" และนั่นคือกฎเกณฑ์ที่น็อตยอมรับและพูดคุยเฉพาะสองเรื่องนี้เท่านั้น

   เรื่องที่สอง
   มีสโมสรแห่งหนึ่งติดป้ายไว้ว่า "เฉพาะสำหรับผู้ที่ชมชอบดื่มและพูดคุยแต่เรื่องไวน์เท่านั้น"
   มีนักการเมืองคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องกฎหมายที่เขาเสนอญัตติเข้าสู่สภา จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
   
   มีตำรวจคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องคดีที่เขาทำแล้วเจอตอ จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเขาเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

   มีอาจารย์คนหนึ่ง เครียดจากเรื่องนักศึกษาที่เขาสอนอยู่ที่ไม่สนใจเรียน จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

   มีนายธนาคารคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องทำเป้าเงินฝากและเงินกู้ที่เขาทำไม่เข้าเป้า จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

    มีพ่อค้าเพชรพลอย.................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
    มีนัก..................................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
    มีนัก..................................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
   .......................... ...ฯลฯ


   สองเรื่องนี้เป็นคำถามเปิด...ช่วยตอบที
 
   ด้วยจิตคารวะ
 
   สนอง เสาทอง
  (รักษาการแทน choy)
   เนื่องจากเธอไม่ถนัดเรื่องดังกล่าวนี้

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, พิมพ์วาส, สายใย, Charlie, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, พยัญเสมอ, ~ขลุ่ยกันแสง~, Moo Dum, พี.พูนสุข, จารุทัส, คอนพูธน, รพีกาญจน์, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, panthong.kh, Shumbala

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤษภาคม 2013, 11:08:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2013, 11:08:PM »
ชุมชนชุมชน


ห้องนั่งเล่น
คุยได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องกลอนก็ได้ อะไรน่าสนใจก็โพสคุยกันจ้าา

ที่บ้านกลอนแห่งนี้ มีมากมายหลายห้อง และมีห้องหนึ่งคือ ห้องนั่งเล่น ใครจะคุยเรื่องอะไรก็ได้(แต่คงไม่เหมาะที่จะพูดคุยเรื่องการเมือง ถ้าใครถนัดก็เชิญไปสนุกให้เต็มเหนี่ยวตามเวบการเมืองนั้นเถิด)
การพูดคุยกันให้สนุกสนาน ก็คือทั้งคนพูดและคนที่จะเข้าไปสนทนาด้วยนั้น เขาก็ต้องดูก่อนว่า จะไปคุยด้วยดีไหม? จะคุยกันถูกคอหรือเปล่า? หรือถ้าคุยกันแล้ว ก็จะทำให้เพิ่มความหงุดหงิดรำคาญ เขาก็จะไม่เข้าไปใกล้ อยู่ห่างๆเข้าไว้ดีกว่า แต่ถ้าสนทนากันอย่างออกรสชาด พูดคุยกันด้วยความถูกคอ เหมือนกับคนรสนิยมไปด้วยกันได้ ก็จะเพิ่มความสุขสนุกสนาน สมกับการเข้ามาพักผ่อน จึงอยู่ที่ดุลย์พินิจของแต่ละคนนั่นเอง ไม่ใช่ว่า ไม่มีโคลงไม่มีกลอนเข้าก็จะไม่คุยด้วย ท่านใดมีอะไรดีๆมาเล่าสู่กันฟังก็เชิญเลยนะครับ จะได้ไม่ต้องเคร่งเครียด เคร่งครัดกับการเขียนกลอนต่างๆที่จะต้องให้ถูกฉันทลักษณ์หรือถูกกับกฏเกณฑ์ของกลบทนั้นๆ

ลุงไพร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิมพ์วาส, สายใย, choy, Charlie, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, พยัญเสมอ, ~ขลุ่ยกันแสง~, Moo Dum, พี.พูนสุข, จารุทัส, รพีกาญจน์, คอนพูธน, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, panthong.kh, Shumbala

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 พฤษภาคม 2013, 11:23:PM
พิมพ์วาส
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 422
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


Pretending is the beginning of changes.


profile.php?id=100002905344846
« ตอบ #4 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2013, 11:23:PM »
ชุมชนชุมชน



เหมือนกับที่คุณช้อยบอก (ไม่ทราบอ่านว่าอ่านถูกไหมต้องขออภัยค่ะ ส่วนตัวไม่นิยมเขียนภาษาไทยปนภาษาอังกฤษค่ะ)
เรื่องที่อ่านจากคุณช้อย สำหรับตัวเองแล้วตีประเด็นออกมาได้ว่า 'เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม'
ก็เหมือนกับเมื่อเจอสังคมกลอนก็ย่อมจะคุยสนทนาทักทายกันเป็นกลอนเป็นธรรมดา

สุภาษิตข้างตนหมายความว่า "ที่แห่งใดเขาประพฤติตามเขาไปด้วย  อย่าไปประพฤติขัดแย้งกับเขา"
ดังนั้นเมื่อเราขึ้นชื่อว่า 'บ้านกลอนไทย' ก็ย่อมเป็นนักเขียนกลอนอยู่แล้ว
แต่ในบ้านกลอนไทยก็มีหมวดต่างๆให้เลือกว่าจะเขียนกลอนแนวไหน จะทำอะไรก็มีที่ให้สนทนากัน
หรือเข้าห้อง สนทนา ไปคุยกันเลยก็ได้ ทางเว็บก็มีให้

ส่วนตัวจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะที่ไม่เกี่ยวกับการรำพึงเพ้อพบ พรรณนาเพ้อพร่ำต่างๆ ไม่เป็นเรื่อง
ที่อ่านแล้วงงมึน ตีความสุดฤทธิ์ก็ยังงง (ไม่รวมแคนโต้ เก็บเซนริวนะคะ)
เพราะตัวเองก็ทำได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องเล่า เรื่องสั้น นิยาย นวนิยาย ความรู้รอบๆตัว
ส่วนตัวเองแล้วก็ชอบที่จะอ่านนะคะ (เลือกนิดหนึ่ง)

ที่ว่ารำพึงรำพันไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นเพราะเราคิดไม่ถึงเช่น (เขียนเองงงเอง ของเก่าค่ะ ไม่เคยลง)

เธอสวยเหมือนดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ใช่! ใช่!
นั่นแสง ไม่ๆๆๆ ฉันเป็นดอกไม้เธอเป็นแสง เธอให้ความอบอุ่นฉัน ฉันจะบานให้เธอดู

--- ก็เข้าใจนะคะที่เขียน เขียนแบบไม่รู้เรื่อง เอ่อ...แบบไหน แบบนี้หรือเปล่า

'ฉันรักเธอเหลือเกินแม่ดอกไม้ริมทาง ฉันจะคว้าเธอมาเพื่อเชยชมก็แสนง่าย
แต่ฉันจะไม่ทำเช่นนั้นเพราะฉันรักเธอ ถ้าหากฉันเด็ดเธอมาเชยชมประเดี๋ยวเพียงชั่วครู่ชั่วยามเธอก็จะจากฉันไป
แต่ถ้าเธออยู่ที่ริมทางนั้น ฉันก็จะได้เชยชมเธอไปได้อีกนานกว่าเธอจะโรย เธอถามว่าฉันเป็นใครฉันเป็นสายลมของเธอ'

ย้ากกกกกกกกกกกก เขียนไม่เป็น ขออภัยค่ะ นอกประเด็นไปไกล ประเด็นของตัวเองอยู่ด้านบนค่ะ

ป.ล. พิมพ์นานไปสักหน่อยสมาชิกหลายท่านแซงต่อกระทู้ก่อนเสียแล้ว สุดเศร้าใจ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, สายใย, choy, Charlie, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, พยัญเสมอ, ~ขลุ่ยกันแสง~, Moo Dum, พี.พูนสุข, จารุทัส, รพีกาญจน์, คอนพูธน, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, Shumbala

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความผกผันของเวลา  เฉือนเจตนาของอารมณ์
07 พฤษภาคม 2013, 11:45:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,699


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2013, 11:45:PM »
ชุมชนชุมชน



ถ้าสมมุติว่ามีคนอยู่คนหนึ่งเอาแต่ชวนคุยอย่างเดียว โดยไม่ค่อยจะแต่งกลอนพวกคุณจะสนใจเขาไหม
หรือว่าจะสนใจเฉพาะคนที่มีกลอนอย่างเดียวเท่านั้น   ยิ้มให้จ้ะ

"มีโคลงก็นับเป็นน้อง  มีกลอนก็นับเป็นพี่
โคลง-กลอนไม่มี  ทั้งน้องทั้งพี่ไม่สนใจ"


ในสังคมกวีนี่จะเป็นอย่างนี้หรือเปล่า   ถ้ามีโคลงกลอนมานำเสนอก็พอคุยกันได้
ถ้าไม่มีโคลงกลอนมาด้วยเอ็งไปไกลๆ  ดูๆแล้วเหมือนคนที่คบกันเพราะทรัพย์สมบัติเลยเนาะ
พอไม่มีทรัพย์สินติดตัวแล้วก็หมดค่า    มันเป็นแบบนั้นใช่หรือเปล่า  หือม์...ชาวกวี  ยิ้มให้จ้ะ
ถ้าเป็นแบบนี้จริงผมจะได้ร้องเพลงตัดใจลาซะ....








 
ขออนุญาต ถามครับว่า คุณมือขวาชอบแบบไหน และไม่ชอบแบบไหน
เพื่อว่า จะขอโอกาส เป็นมิตรกัน ครับ

ด้วยใจจริงครับ
สายใย


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : choy, พิมพ์วาส, Charlie, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, พยัญเสมอ, ~ขลุ่ยกันแสง~, Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, รพีกาญจน์, คอนพูธน, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
08 พฤษภาคม 2013, 02:07:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #6 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 02:07:AM »
ชุมชนชุมชน



ถ้าสมมุติว่ามีคนอยู่คนหนึ่งเอาแต่ชวนคุยอย่างเดียว โดยไม่ค่อยจะแต่งกลอนพวกคุณจะสนใจเขาไหม
หรือว่าจะสนใจเฉพาะคนที่มีกลอนอย่างเดียวเท่านั้น   ยิ้มให้จ้ะ

"มีโคลงก็นับเป็นน้อง  มีกลอนก็นับเป็นพี่
โคลง-กลอนไม่มี  ทั้งน้องทั้งพี่ไม่สนใจ"


ในสังคมกวีนี่จะเป็นอย่างนี้หรือเปล่า   ถ้ามีโคลงกลอนมานำเสนอก็พอคุยกันได้
ถ้าไม่มีโคลงกลอนมาด้วยเอ็งไปไกลๆ  ดูๆแล้วเหมือนคนที่คบกันเพราะทรัพย์สมบัติเลยเนาะ
พอไม่มีทรัพย์สินติดตัวแล้วก็หมดค่า    มันเป็นแบบนั้นใช่หรือเปล่า  หือม์...ชาวกวี  ยิ้มให้จ้ะ
ถ้าเป็นแบบนี้จริงผมจะได้ร้องเพลงตัดใจลาซะ....








 
ขออนุญาต ถามครับว่า คุณมือขวาชอบแบบไหน และไม่ชอบแบบไหน
เพื่อว่า จะขอโอกาส เป็นมิตรกัน ครับ

ด้วยใจจริงครับ
สายใย






ชอบแบบที่คุณสายใยเป็นนี่แหละครับ คืออันไหนที่อ่านแล้วก็กดก็กดปุ่มให้กำลังใจกับทุกคนไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
ไม่ชอบคนที่จริงจังกับปุ่มขอบคุณมากเกินไป  คือไปยึดติดซะมากเกินไปว่า  กระทู้นี้ไม่ใช่กลอนฉันยกนิ้วให้ไม่ได้
กลอนนี้แต่งไม่เลิศเลอเพอร์เฟคฉันยกนิ้วให้ไม่ได้  ฉันจะยกนิ้วให้เฉพาะกับคนที่แต่งได้ดีเลิศเท่านั้น
บอกตามตรงครับว่าคนเราทุกคนนั้นล้วนต้องการกำลังใจ  ไม่ว่าจะทำพูดสิ่งใดก็ล้วนต้องการให้คนมาสนใจ มารับรู้
รับทราบกันทั้งนั้นครับ  ถ้าเรื่องใดมันไม่ผิดพลาดหนักสาหัสจริงๆก็กดให้กำลังใจสักนิด  ถือว่าเป็นการบอกให้ผู้โพสต์
ได้รู้ว่าอ่านแล้ว  รับรู้รับทราบแล้ว  เท่านั้นแหละครับ
 ดังนั้นสิ่งที่คุณสายใยเป็นอยู่นี้  จึงเป็นสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว  ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรนะครับ

 เอ้อ..จริงว่ะ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, สายใย, ~ขลุ่ยกันแสง~, Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, choy, รพีกาญจน์, คอนพูธน, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
08 พฤษภาคม 2013, 02:15:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #7 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 02:15:AM »
ชุมชนชุมชน


ห้องนั่งเล่น
คุยได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องกลอนก็ได้ อะไรน่าสนใจก็โพสคุยกันจ้าา

ที่บ้านกลอนแห่งนี้ มีมากมายหลายห้อง และมีห้องหนึ่งคือ ห้องนั่งเล่น ใครจะคุยเรื่องอะไรก็ได้(แต่คงไม่เหมาะที่จะพูดคุยเรื่องการเมือง ถ้าใครถนัดก็เชิญไปสนุกให้เต็มเหนี่ยวตามเวบการเมืองนั้นเถิด)
การพูดคุยกันให้สนุกสนาน ก็คือทั้งคนพูดและคนที่จะเข้าไปสนทนาด้วยนั้น เขาก็ต้องดูก่อนว่า จะไปคุยด้วยดีไหม? จะคุยกันถูกคอหรือเปล่า? หรือถ้าคุยกันแล้ว ก็จะทำให้เพิ่มความหงุดหงิดรำคาญ เขาก็จะไม่เข้าไปใกล้ อยู่ห่างๆเข้าไว้ดีกว่า แต่ถ้าสนทนากันอย่างออกรสชาด พูดคุยกันด้วยความถูกคอ เหมือนกับคนรสนิยมไปด้วยกันได้ ก็จะเพิ่มความสุขสนุกสนาน สมกับการเข้ามาพักผ่อน จึงอยู่ที่ดุลย์พินิจของแต่ละคนนั่นเอง ไม่ใช่ว่า ไม่มีโคลงไม่มีกลอนเข้าก็จะไม่คุยด้วย ท่านใดมีอะไรดีๆมาเล่าสู่กันฟังก็เชิญเลยนะครับ จะได้ไม่ต้องเคร่งเครียด เคร่งครัดกับการเขียนกลอนต่างๆที่จะต้องให้ถูกฉันทลักษณ์หรือถูกกับกฏเกณฑ์ของกลบทนั้นๆ

ลุงไพร



ผมเข้าใจที่ลุงพูดทุกสิ่งทุกประการครับ


 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, สายใย, Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, choy, รพีกาญจน์, คอนพูธน, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
08 พฤษภาคม 2013, 02:33:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,699


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 02:33:AM »
ชุมชนชุมชน

เข้าใจละ แต่ถ้าไม่กดให้ ก็แปลว่า ไม่เข้าใจนะครับ อิ อิ  ชอบใจๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, พยัญเสมอ, Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, choy, รพีกาญจน์, คอนพูธน, panthong.kh, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
08 พฤษภาคม 2013, 02:42:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #9 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 02:42:AM »
ชุมชนชุมชน

   ข้าฯ ผู้น้อยเพิ่งเข้าบ้านกลอนฯ ไม่ถึงครึ่งปี พรรษายังต่ำมากเมื่อเทียบกับท่านพี่อื่นๆ มีเรื่องจะเล่าให้ฟังสองเรื่อง
 
   เรื่องแรกมีอยู่ว่า
   ครั้งหนึ่งอดีตพระเอก น็อต นุติ เขมะโยธิน เขาเป็นผู้หนึ่งที่หลงใหลดนตรีและเล่นกีตาร์ได้ในระดับเทพ ได้เดินทางไปที่สหรัฐฯ และมีโอกาสพบกับ แหลม มอริสัน หนึ่งในเทพแห่งกีตาร์ เมื่อน็อตเข้าทักทายแนะนำตัวเสร็จ คำแรกที่แหลม มอริสันพูดก็คือ "เราจะพูดคุยกันแต่เรื่องดนตรีกับกีตาร์เท่านั้น" และนั่นคือกฎเกณฑ์ที่น็อตยอมรับและพูดคุยเฉพาะสองเรื่องนี้เท่านั้น


   เรื่องที่สอง
   มีสโมสรแห่งหนึ่งติดป้ายไว้ว่า "เฉพาะสำหรับผู้ที่ชมชอบดื่มและพูดคุยแต่เรื่องไวน์เท่านั้น"
   มีนักการเมืองคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องกฎหมายที่เขาเสนอญัตติเข้าสู่สภา จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
   
   มีตำรวจคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องคดีที่เขาทำแล้วเจอตอ จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเขาเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

   มีอาจารย์คนหนึ่ง เครียดจากเรื่องนักศึกษาที่เขาสอนอยู่ที่ไม่สนใจเรียน จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

   มีนายธนาคารคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องทำเป้าเงินฝากและเงินกู้ที่เขาทำไม่เข้าเป้า จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

    มีพ่อค้าเพชรพลอย.................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
    มีนัก..................................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
    มีนัก..................................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
   .......................... ...ฯลฯ


   สองเรื่องนี้เป็นคำถามเปิด...ช่วยตอบที
 
   ด้วยจิตคารวะ
 
   สนอง เสาทอง
  (รักษาการแทน choy)
   เนื่องจากเธอไม่ถนัดเรื่องดังกล่าวนี้


                       สำหรับเรื่องของ น็อต  นุกติ เขมโยธิน  กับ  แหลม  มอริสัน  ที่คุณสนองได้นำมาเล่าให้ฟัง
อ่านครั้งแรกผมต้องยอมรับว่าอึ้งครับ  พูดอะไรไม่ออก  จำนนด้วยเหตุผล  แต่หลังจากมาคิดทบทวนดูดีๆแล้ว
ผมก็กลับมีความคิดว่า  ทั้งแหลม มอริสัน  ทั้งน็อต นั้น  เขาทั้งสอง  ไม่ใช่ญาติกัน  ไม่ใช่เพื่อน  ไม่ใช่คนรู้จัก
ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน  ทั้งสองกระทั่งเป็นคนชาติเดียวกันก็ยังไม่ใช่  ดังนั้นมันจะแปลกอะไรที่ แหลม มอริสัน
จะตั้งกติกากับ น็อต นุติ เขมโยธินแบบนั้น  กติกาที่ แหลมตั้งเป็นเขื่อนไขในการพูดคุยกับน็อต  จึงเป็นแค่  กติกา
ที่คนแปลกหน้าคนหนึ่งตั้งเป็นเงื่อนไขให้กับคนแปลกหน้าอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่แม้แต่คนชาติเดียวกัน
เพียงแต่บังเอิญ
มาชอบดนตรีเหมือนกันเท่านั้น   จะเอากฏกติกาแบบนั้นมาใช้กับสังคมคมออนไลน์อย่างบ้านกลอนไทยที่ถือคติว่า
อยู่กันอย่างเสมือนพี่เสมือนน้อง เสมือนเพื่อนได้อย่างไร   อย่างน้อยที่สุดสมาชิกบ้านกลอนไทย ก็เป็นคนไทยเหมือนๆกันคือเป็น
เพื่อนร่วมชาติ พูดภาษาเดียวกัน และเมื่อมาอยู่รวมกัน  ก็ต้องเจอกันทุกวันในเว็บ  อย่างน้อยก็ต้องคุ้นเคยกับชื่อเสียงนามกันบ้าง
จึงนับว่าไม่ใช่คนแปลกหน้า(แม้จริงๆแล้วจะไม่เคยพบกันมาก่อนก็ตามที)  จะเอาไปเปรียบกับการปฏิบัติตัวของ
 แหลม มอริสัน และ น็อต  นุติเขมโยธินไม่ได้หรอกนะครับ  มันต่างกันมาก
ถ้าหากจะยึดหลักปฏิบัติว่า ที่นี่คือเว็บกลอน  ดังนั้นจะพูดจะคุยกันก็ต้องเฉพาะในเรื่องกลอนตามชื่อเว็บเท่านั้น  
แบบนี้มันก็ไม่ใช่การอยู่กันแบบพี่แบบน้อง  แบบลุงป้าน้าอา  หรือแบบเพื่อน  จริงไหมครับ






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, choy, รพีกาญจน์, panthong.kh, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, Shumbala

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
08 พฤษภาคม 2013, 03:20:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #10 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 03:20:AM »
ชุมชนชุมชน




                  ที่นี้มาถึงเหตุผลที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาถามก็เนื่องมาจากว่าเห็นพฤตืกรรมของสมาชิกหลายคนที่ไปยึดมั่นถือมั่นกับปุ่มขอบคุณมากเกินไป
เพียงเพราะว่าปุ่มนี้เขียนว่า  ถูกใจใช่เลยหรือยอดเยี่ยม  ดังนั้นถ้ามันไม่ยอดเยี่ยมก็ไม่กดให้เอาซะเลย  ประมาณว่าถ้ากลอนไหนแต่งไม่
ดีฉันก็จะไม่กดให้นะ   มันก็เลยกลายเป็นเหมือนว่า ให้การยอมรับแต่เฉพาะคนที่แต่งเก่ง  แต่งดี เท่านั้น  ส่วนคนที่แต่งไม่เก่ง
หรือแต่งไม่ดี  ไม่เลิศเลอเพอร์เฟคก็ไม่ได้รับการยอมรับ  กลายเป็นนับถือ หรือยอมรับเฉพาะคนที่เก่งกว่า ส่วนคนที่ไม่เก่งก็ไม่ได้รับความสนใจ
ยิ่งไม่ต้องไปกล่าวถึงกระทู้ที่โพสต์เรื่องธรรมดาที่ไม่ใช่กลอน    ก็เลยมานึกว่า  ถ้าทุกคนพากันมีความคิดเห็นแบบนี้กันหมด ก็แสดงว่า
ทุกครั้งที่เราเข้าเว็บมา  ก็คงจะต้องมีโคลงกลอนดีๆที่ยอดเยี่ยมติดไม้ติดมือมาด้วยทุกครั้ง  เขาถึงจะสนใจใยดีเรา
ถ้าวันไหนเผื่อว่า เราไม่ได้มีกลอนที่ดีเลิศติดมาด้วย  เราก็คงไม่ต่างกับคนไร้ค่าคนหนึ่งที่ไม่มีใครเหลี่ยวแล  คิดขึ้นมาแล้วก็ให้สะท้อนอกสะท้อนใจ
(แต่ยังโชคดีที่มีสมาชิกส่วนหนึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับปุ่มกดที่มีคำว่ายอดเยี่ยมมากจนเกินไปนัก  ดังนั้นเราจึงได้เห็นกระทู้ที่
ผู้แต่งกลอนดีบ้างไม่ดีบ้าง มีคนมากดให้กำลังใจ  ให้คนแต่งได้รู้ว่ากลอนเขายังมีผู้อ่านอยู่)
                   คุณรู้ไหมว่า  เพราะกติกาที่นับถือแต่เฉพาะคนเก่ง  และเว็บกลอนต้องพูดเรื่องกลอนนี่แหละที่ทำให้หลายคนหมดกำลังใจ
และหายหน้าหายตากันไปเท่าไหร่แล้ว  เพราะใช่ทุกคนหรอกนะครับที่จะแต่งกลอนได้ดีและเก่ง  แม้แต่คนเก่งเองก็ใช่ว่าจะแต่งได้ทุกวัน
ของแบบนี้มันก็มีบางวันที่คิดไม่ออกบ้าง  บางคนกว่าจะคิดกลอนดีๆได้สักบทก็นานๆครั้ง  แล้วถ้าเรายังมีความคิดอยู่ว่า ต้องยกนิ้วให้เฉพาะ
คนที่แต่งดีเลิศเท่านั้น  แล้วคนที่คิดกลอนไม่ออก  หรือแต่งกลอนได้ไม่ดี จะมีหน้าโผล่เข้ามาในเว็บได้อย่างไร  เพราะเข้ามาก็เปรียบ
เสมือนเป็นส่วนเกิน  ไม่ได้รับความสนใจ เพราะไม่มีกลอนจะมาอวดต่อใครๆเขา
ผมจึงไดตั้งคำถามว่า สังคมกวีนี้ให้ความสนใจเฉพาะคนที่มีกลอนเท่านั้น  ส่วนคนไหนที่ไม่มีกลอนก็ไม่ให้ความสนใจหรืออย่างไร(โชคดีที่ไม่
ได้เป็นแบบนั้นทั้งหมด  ยังมีคนให้ความสนใจอยู่ แม้กลอนไม่ดีดลิศไม่หรูหรา)
ดังนั้นผมจึงได้แต่งเลียนเนื้อเพลงว่า "เราจะให้สังคมชาวกวีเป็นแบบ


"มีโคลงก็นับเป็นน้อง   มีกลอนก็นับเป็นพี่
โคลงกลอนไม่มี   ทั้งน้องทั้งพี่ไม่สนใจ"

คือถ้ามีโคลงกลอนมานำเสนอก็พอพูดคุยกันได้  ถ้าไม่มีโคลงกลอนติดมือมาก็เชิญไปให้ไกล  เพราะอยู่ไปก็ไม่มีใครสนใจหรอก"  หรืออย่างไร ??
จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไร  เพียงแต่มานึกเอนจอนาถใจตัวเองว่า  ถ้าวันหนึ่งเราไม่มีบทกลอนดีๆมานำเสนอ  เราก็คงเป็นแค่ไอ้หมาหัวเน่าตัวหนึ่ง  ยิ้มให้จ้ะ








ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, choy, รพีกาญจน์, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, รัตนาวดี, Shumbala

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
08 พฤษภาคม 2013, 03:57:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #11 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 03:57:AM »
ชุมชนชุมชน


 สาวน้อยหัวเราะ  โอ๊ย...พี่มือขวาคะ... ทะเลาะกับเมียมา หรือว่าโดนเมียทิ้งคะ

แหม..เห็นเหมือนว่าคุณกำลังน้อยใจ และกำลังเรียกร้องความเห็นใจ ถ้าเดาเฉียดไป ก็ขออภัยด้วยนะจ๊ะ!

ไม่มีอารมณ์แต่งกลอน ก็เข้ามาเม้าท์กัน หรือเล่าอะไรให้ฟังกัน หรือจะแบ่งปันความรู้ดีๆ ก็ไม่มีใครขัดนะ

จะลองจีบสาว หาเรื่องให้คนอื่นเขาหมั่นไส้บ้าง ก็แก้เซ็งได้ดีนะคะ   แว่นตาดำยิ้มแก๊ก

หากเครียดเวลาไหน ไม่มีที่ไป ก็เข้ามาปล่อยแก่บ้างก็ดี มิงั้น อัดอั้นใจตายโดยหาสาเหตุมิได้แน่ค่ะ ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

เพียงไม่แต่งกลอนก็เล่าเรื่องสู่กันฟังก็ดีค่ะ

รัตน์คิดว่า ตอนนี้ไม่มีผู้ใดที่ไม่ติดใจคุณหรอก.. ยิ้มกวนตีน

อย่าคิดมากและ อย่าเครียดนะ โลกนี้เป็นของข้า(ในบางคราต้องเข้าข้างตัวเองบ้างค่ะ) จ๊าก....กรูไม่อาว..

ก็เคยบอกมาแล้วว่า ...สามคนเขาไม่รักเรา แต่อีกสามสิบคนกำลังรักเรานะคะ

คุณทำได้ค่ะ   ยิ้มหน้าใส

ชอบใจคุณเป็นกำลังใจให้ตลอดเลย แม้บางครั้งลืมกดถูกใจใช่เลยให้  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ


ราตรีสวัสดิ์ก่อนนะคืนนี้


รัตน์ค่ะ หัวโขมย เธอนั่นแหละจ้ะ สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, ~ขลุ่ยกันแสง~, Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, choy, รพีกาญจน์, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, Shumbala

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
08 พฤษภาคม 2013, 04:41:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #12 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 04:41:AM »
ชุมชนชุมชน



เหมือนกับที่คุณช้อยบอก (ไม่ทราบอ่านว่าอ่านถูกไหมต้องขออภัยค่ะ ส่วนตัวไม่นิยมเขียนภาษาไทยปนภาษาอังกฤษค่ะ)
เรื่องที่อ่านจากคุณช้อย สำหรับตัวเองแล้วตีประเด็นออกมาได้ว่า 'เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม'
ก็เหมือนกับเมื่อเจอสังคมกลอนก็ย่อมจะคุยสนทนาทักทายกันเป็นกลอนเป็นธรรมดา

สุภาษิตข้างตนหมายความว่า "ที่แห่งใดเขาประพฤติตามเขาไปด้วย  อย่าไปประพฤติขัดแย้งกับเขา"
ดังนั้นเมื่อเราขึ้นชื่อว่า 'บ้านกลอนไทย' ก็ย่อมเป็นนักเขียนกลอนอยู่แล้ว
แต่ในบ้านกลอนไทยก็มีหมวดต่างๆให้เลือกว่าจะเขียนกลอนแนวไหน จะทำอะไรก็มีที่ให้สนทนากัน
หรือเข้าห้อง สนทนา ไปคุยกันเลยก็ได้ ทางเว็บก็มีให้

ส่วนตัวจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะที่ไม่เกี่ยวกับการรำพึงเพ้อพบ พรรณนาเพ้อพร่ำต่างๆ ไม่เป็นเรื่อง
ที่อ่านแล้วงงมึน ตีความสุดฤทธิ์ก็ยังงง (ไม่รวมแคนโต้ เก็บเซนริวนะคะ)
เพราะตัวเองก็ทำได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องเล่า เรื่องสั้น นิยาย นวนิยาย ความรู้รอบๆตัว
ส่วนตัวเองแล้วก็ชอบที่จะอ่านนะคะ (เลือกนิดหนึ่ง)

ที่ว่ารำพึงรำพันไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นเพราะเราคิดไม่ถึงเช่น (เขียนเองงงเอง ของเก่าค่ะ ไม่เคยลง)

เธอสวยเหมือนดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ใช่! ใช่!
นั่นแสง ไม่ๆๆๆ ฉันเป็นดอกไม้เธอเป็นแสง เธอให้ความอบอุ่นฉัน ฉันจะบานให้เธอดู

--- ก็เข้าใจนะคะที่เขียน เขียนแบบไม่รู้เรื่อง เอ่อ...แบบไหน แบบนี้หรือเปล่า

'ฉันรักเธอเหลือเกินแม่ดอกไม้ริมทาง ฉันจะคว้าเธอมาเพื่อเชยชมก็แสนง่าย
แต่ฉันจะไม่ทำเช่นนั้นเพราะฉันรักเธอ ถ้าหากฉันเด็ดเธอมาเชยชมประเดี๋ยวเพียงชั่วครู่ชั่วยามเธอก็จะจากฉันไป
แต่ถ้าเธออยู่ที่ริมทางนั้น ฉันก็จะได้เชยชมเธอไปได้อีกนานกว่าเธอจะโรย เธอถามว่าฉันเป็นใครฉันเป็นสายลมของเธอ'

ย้ากกกกกกกกกกกก เขียนไม่เป็น ขออภัยค่ะ นอกประเด็นไปไกล ประเด็นของตัวเองอยู่ด้านบนค่ะ

ป.ล. พิมพ์นานไปสักหน่อยสมาชิกหลายท่านแซงต่อกระทู้ก่อนเสียแล้ว สุดเศร้าใจ





                  พึ่งจะรู้ว่าคุณพิมพ์วาส ไม่ค่อยชอบกลอนแบบรำพึงรำพันที่ไม่มีเรื่องมีเรื่องราว
ก่อนอื่นอยากให้คุณทำความเข้าใจก่อนว่า สมาชิกส่วนมากไม่ได้เป็นนักเขียนมืออาชีพ
เป็นเพียงผู้มีใจรักในบทกลอนเท่านั้น  ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่นักถ่ายทอดเรื่องราว
หรือแต่งกลอนให้เป็นเรื่องเป็นราวแบบมืออาชีพได้  ดังนั้นเราจึงเห็นบทกลอนประเภท
รักนะ(แต่ไม่รู้รักใคร)  อกหักผิดหวัง(แต่ไม่รู้ว่าอกหักจากใคร  เรื่องอะไร  เมื่อไหร่ ที่ไหน)
ก็คนมันไม่ได้มีความรัก จะให้เขียนกลอนบอกรักได้ลึกซึ้งได้อย่างไร  แล้วกลอนอกหักนั่นก็อีก
ก็คนมันไม่ได้อยู่ในอารมณ์อกหัก  แล้วจะให้แต่งกลอนอกหักได้อย่างไร  มันจึงมีแต่กลอน
ที่บอกรัก  ว่าอกหัก ว่าเจ็บปวดรวดร้าว(แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร)อยู่แค่นั้น
คนที่จะเขียนผูกเรื่องให้มันดูสมจริงทั้งๆที่ตนเองไม่ได้เป็นจึงมีแต่นักเขียนมืออาชีพเท่านั้นถึงทำได้
                อนึ่งควรทราบว่ากลอนก็คือคำพูดชนิดหนึ่งเท่านั้น ก็เมื่อนเมื่อกลอนคือคำพูด
ดังนั้นมันจึงมีทั้งกลอนที่เพราะและไม่เพราะ  วันไหนคนแต่งอารมณ์ดีก็พูดรู้เรื่อง กลอนที่แต่งก็เพราะ
วันไหนคนแต่งอารมณ์ไม่ดี เครียด คิดอะไรไม่ออก ก็พูดไม่รู้เรื่อง  กลอนที่แต่งออกมาจึงไม่เพราะ
                  แล้วการที่จะพูดกันให้เป็นเรื่องเป็นราวได้เนื้อหาสาระนั้น มันก็ต้องมีประเด็นที่จะพูด
ซะก่อน มันถึงจะพูดได้เนื้อหาสาระ    แต่บางคนไม่มีประเด็นที่จะพูด  แต่อยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องขอพูด
ซะหน่อย  ไม่พูดเดี๋ยวเปรี้ยวปากลงแดงตาย  ดังนั้นเมื่อไม่มีประเด็นอะไรที่จะพูด แต่ต้องการจะพูด
ให้ได้มันจึงกลายเป็นพูดบ่นเรื่อยเปื่อยไป  เอาเรื่องเอาราวหาสาระไม่ได้
การแต่งกลอนมันก็ดุจเดียวกัน ถ้าคนแต่งมีประเด็นที่จะแต่งชัดเจน กลอนที่แต่งมันก็ออกมาดี
มีเรื่องราว   แต่บางคนไม่มีประเด็นที่จะแต่งหรอก ไม่รู้ว่าจะแต่งเรื่องอะไรแต่ขอข้าได้แต่งไว้ก่อน
ดังนั้นกลอนที่ออกมามันจึงเป็นอย่างที่เห็น  คือคล้ายๆคนที่บ่นๆไปเรื่อยๆไม่มีเรื่องมีราวอะไร
เรื่องนี้ผมได้เคยตั้งกระทู้ชื่อ "เขียนกลอนตอนที่คิดไม่ออก"ซึ่งเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนกระทั่ง
ถูกลบไปเมื่อปีที่แล้ว
                   ดังนั้นเราจึงต้องเข้าใจว่า ก็คนมันไม่มีเรื่องจะพูด  แต่ต้องพูดให้ได้  แล้วจะให้
ทำอย่างไรได้เล่า  กลอนที่ออกมามันจึงเหมือนคนที่บ่นเพ้อไปวันๆ(ไม่ได้ว่าแต่ผู้อื่นหรอก ตัวผมก็เป็นด้วย
บางทีไม่รู้ว่าต้องการเขียนเรื่องอะไร  แต่ขอเขียนไว้ก่อน)






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, Moo Dum, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, choy, รพีกาญจน์, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, Shumbala

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
08 พฤษภาคม 2013, 05:50:AM
Moo Dum
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 247


ขอบคุณรูปจาก internet


« ตอบ #13 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 05:50:AM »
ชุมชนชุมชน




อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

 เคารพรัก เคารพรัก เคารพรัก   

เขียนไม่เก่ง  นึกไม่ออก

แต่ชอบกลอนอาจารย์บทนี้ครับ

Moo Dum

  ชอบใจๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, พยัญเสมอ, choy, รพีกาญจน์, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 07:04:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #14 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 07:04:AM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ ส่งจูบจ้ะ

 เคารพรัก เคารพรัก

ใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง

ใจของคน ค้นยาก ไม่อยากอ่าน
แถมดักดาน บางที มีถือมั่น
ปากพูดอย่าง ใจอย่าง ต่างงงงัน
รู้ไม่ทัน เสียเปรียบ เหยียบให้จม

มนุษย์หนอ ก็เป็น เฉกเช่นนี้
ตัวเองดี ไปหมด งดงามสม
ส่วนอื่นใคร ไหนนั่น บั่นอารมณ์
ไม่นิยม ชมชอบ ตอบรับไว้

ยากจริงแท้ แง่ใจ ในมนุษย์
ยากจนสุด ขุดหา อัชฌาศัย
ฉาบด้วยหวาน ที่หน้า พูดจาไป
แต่ในใจ ใครรู้บ้าง ด่างดำปน

แท้ทุกสิ่ง ล้วนคล้าย อย่าหมายหมอง
จงจ้องมอง แต่ดี อย่าติบ่น
เดินสายกลาง เข้าใจ ในบางคน
ที่เกิดปน บนโลก อันโศกซ้อน

หยั่งอย่างไร ไม่ถึง ซึ่งที่กล่าว
อาจร้อนผ่าว หนาวกาย หน่ายทอดถอน
ด้วยจิตคน วนว่าย คล้ายละคร
จากบทตอน ย้อนยอก บอกระทม

ถึงไม่ซึ้ง แต่งไป ด้วยใจรัก
บางครั้งหัก ดวงจิต คิดไม่สม
ไม่มีใคร ในหล้า อย่าตรอมตรม
ทุกข์ขื่นขม ล้วนหลาก จากกระทำ
พันทอง
๘/๐๕/๕๖
วันนี้ขอเป็นการเป็นงานจ้า
 เคารพรัก เคารพรัก เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส, พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, choy, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 08:16:AM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #15 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 08:16:AM »
ชุมชนชุมชน

   ข้าฯ ผู้น้อยเพิ่งเข้าบ้านกลอนฯ ไม่ถึงครึ่งปี พรรษายังต่ำมากเมื่อเทียบกับท่านพี่อื่นๆ มีเรื่องจะเล่าให้ฟังสองเรื่อง
 
   เรื่องแรกมีอยู่ว่า
   ครั้งหนึ่งอดีตพระเอก น็อต นุติ เขมะโยธิน เขาเป็นผู้หนึ่งที่หลงใหลดนตรีและเล่นกีตาร์ได้ในระดับเทพ ได้เดินทางไปที่สหรัฐฯ และมีโอกาสพบกับ แหลม มอริสัน หนึ่งในเทพแห่งกีตาร์ เมื่อน็อตเข้าทักทายแนะนำตัวเสร็จ คำแรกที่แหลม มอริสันพูดก็คือ "เราจะพูดคุยกันแต่เรื่องดนตรีกับกีตาร์เท่านั้น" และนั่นคือกฎเกณฑ์ที่น็อตยอมรับและพูดคุยเฉพาะสองเรื่องนี้เท่านั้น


   เรื่องที่สอง
   มีสโมสรแห่งหนึ่งติดป้ายไว้ว่า "เฉพาะสำหรับผู้ที่ชมชอบดื่มและพูดคุยแต่เรื่องไวน์เท่านั้น"
   มีนักการเมืองคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องกฎหมายที่เขาเสนอญัตติเข้าสู่สภา จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
   
   มีตำรวจคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องคดีที่เขาทำแล้วเจอตอ จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเขาเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

   มีอาจารย์คนหนึ่ง เครียดจากเรื่องนักศึกษาที่เขาสอนอยู่ที่ไม่สนใจเรียน จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

   มีนายธนาคารคนหนึ่ง เครียดจากเรื่องทำเป้าเงินฝากและเงินกู้ที่เขาทำไม่เข้าเป้า จึงตั้งใจไว้ว่าจะไปนั่งดื่มที่สโมสรแห่งนั้นเพื่อจะได้พูดระบายความในใจให้คนอื่นๆ ฟังในเรื่องนี้ เมื่อเดินทางไปถึงและเข้าไปนั่ง ณ ที่แห่งนั้นมีแต่คนพูดคุยเรื่องไวน์ "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"

    มีพ่อค้าเพชรพลอย.................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
    มีนัก..................................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
    มีนัก..................................................................................... "เขาจึงพูดคุยเรื่องไวน์"
   .......................... ...ฯลฯ


   สองเรื่องนี้เป็นคำถามเปิด...ช่วยตอบที
 
   ด้วยจิตคารวะ
 
   สนอง เสาทอง
  (รักษาการแทน choy)
   เนื่องจากเธอไม่ถนัดเรื่องดังกล่าวนี้


                       สำหรับเรื่องของ น็อต  นุกติ เขมโยธิน  กับ  แหลม  มอริสัน  ที่คุณสนองได้นำมาเล่าให้ฟัง
อ่านครั้งแรกผมต้องยอมรับว่าอึ้งครับ  พูดอะไรไม่ออก  จำนนด้วยเหตุผล  แต่หลังจากมาคิดทบทวนดูดีๆแล้ว
ผมก็กลับมีความคิดว่า  ทั้งแหลม มอริสัน  ทั้งน็อต นั้น  เขาทั้งสอง  ไม่ใช่ญาติกัน  ไม่ใช่เพื่อน  ไม่ใช่คนรู้จัก
ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน  ทั้งสองกระทั่งเป็นคนชาติเดียวกันก็ยังไม่ใช่  ดังนั้นมันจะแปลกอะไรที่ แหลม มอริสัน
จะตั้งกติกากับ น็อต นุติ เขมโยธินแบบนั้น  กติกาที่ แหลมตั้งเป็นเขื่อนไขในการพูดคุยกับน็อต  จึงเป็นแค่  กติกา
ที่คนแปลกหน้าคนหนึ่งตั้งเป็นเงื่อนไขให้กับคนแปลกหน้าอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่แม้แต่คนชาติเดียวกัน
เพียงแต่บังเอิญ
มาชอบดนตรีเหมือนกันเท่านั้น   จะเอากฏกติกาแบบนั้นมาใช้กับสังคมคมออนไลน์อย่างบ้านกลอนไทยที่ถือคติว่า
อยู่กันอย่างเสมือนพี่เสมือนน้อง เสมือนเพื่อนได้อย่างไร   อย่างน้อยที่สุดสมาชิกบ้านกลอนไทย ก็เป็นคนไทยเหมือนๆกันคือเป็น
เพื่อนร่วมชาติ พูดภาษาเดียวกัน และเมื่อมาอยู่รวมกัน  ก็ต้องเจอกันทุกวันในเว็บ  อย่างน้อยก็ต้องคุ้นเคยกับชื่อเสียงนามกันบ้าง
จึงนับว่าไม่ใช่คนแปลกหน้า(แม้จริงๆแล้วจะไม่เคยพบกันมาก่อนก็ตามที)  จะเอาไปเปรียบกับการปฏิบัติตัวของ
 แหลม มอริสัน และ น็อต  นุติเขมโยธินไม่ได้หรอกนะครับ  มันต่างกันมาก
ถ้าหากจะยึดหลักปฏิบัติว่า ที่นี่คือเว็บกลอน  ดังนั้นจะพูดจะคุยกันก็ต้องเฉพาะในเรื่องกลอนตามชื่อเว็บเท่านั้น  
แบบนี้มันก็ไม่ใช่การอยู่กันแบบพี่แบบน้อง  แบบลุงป้าน้าอา  หรือแบบเพื่อน  จริงไหมครับ



ตอบเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
ประเด็นของเรื่องแรก
   แหลม มอริสัน เป็นคนไทยครับ เป็นนักกีตาร์ระดับเทพรุ่นเดียวกับกิตติ กีตาร์ปืน และฯลฯ เป็นศิลปินเพื่อศิลปะ ไม่เคยก้มหัวให้กับเงินและวัตถุใดๆ
   ประเด็นเรื่องแรกที่ต้องการชี้คือ นี่คือปฏิสัมพันธ์ระดับปัจเจกบุคคล มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าคุณจะเป็นมหาเศรษฐีแบบบิล เกตส์ หรือยายไฮ (รวมแม่ยิ้ม) และมนุษย์มีเสรีเสมอในการไปมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในระดับปัจเจก แน่นอนว่าในการมีปฏิสัมพันธ์กันในระัดับปัจเจกนี้ก็จะมี "กติกาเฉพาะตัวระหว่างมนุษย์สองคน" ใช้รวมกัน และแตกต่างกันไปตามแต่ปัจเจกสองคนนั้นๆ จะกำหนดร่วมกัน เช่นดังอุทธาหรณ์เรื่องที่หนึ่งที่ยกมา

สำหรับเรื่องที่สอง
   ท่านมือขวาไม่ติดใจและไม่ตอบ ขอตอบสั้นๆ ว่า นี่คือปฏิสัมพันธ์ในระดับที่ใหญ่กว่าปัจเจกต่อปัจเจก คือในรูปของประชาคม เป็นเรื่องของคนหมู่มาก ดังนั้น กฎกติกาจึงย่อมต้องรองรับและเอื้อต่อการอยู่ร่วมกัน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ "ตัวประชาคมเป็นตัวที่กำหนดกติกาทั้งหมด (เกิดจากความเห็นร่วมของสมาชิกผู้ก่อตั้งกำหนดขึ้น)" เมื่อแต่ละปัจเจกเห็นชอบกับกติกานั้นๆ ก็จะเดินเข้าไปในประชาคมนั้นเพื่อเป็นสมาชิกและปฏิบัติตามกฎกติกานั้นๆ เช่น บ้านกลอนไทย

   ***แต่ทั้งนี้ กฎกติกาของประชาคมก็ไม่ใช่ "ความจริงสูงสุด" ในระดับที่แตะต้องหรือวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ "กฎกติกาเกิดจากสมาชิก สมาชิกจึงมีสิทธิที่จะวิพากษ์กฎกติกา" แต่ส่วนที่เป็น "หลักการพื้นฐานอย่างยิ่งยวด" นั้นไม่ควรแตะต้อง เช่น บ้านกลอนไทย ชื่อและความหมายชัดเจนในตัว หากสมาชิกบางท่านหรือหลายๆ ท่านวิพากษ์และลงความเห็นว่าควรเปลี่ยนเป็น "บ้านกลอนประตู" เพื่อขายกลอนประตูบ้านอย่างเดียว เช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการทำลายหลักการพื้นฐานเดิมของการก่อเกิดบ้านกลอนไทยนั่นเอง

   ขอให้มือขวามีความสุขกับการแต่งกลอนต่อไป อย่าไปใส่ใจหรือตั้งคำถามอย่างกระทู้นี้เลย
   ชาวกวีทุกคนเป็นกวีด้วยตัวตน เลือดเนื้อ จิตใจ และวิญญาณ ไม่มีการลงสมัครรับเลือกตั้ง (รวมลากตั้ง) เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมากพอที่จะเป็นกวี

   สำหรับกระทู้นี้ ผมตอบเต็มแล้ว และจะไม่เข้ามาตอบอีกนะครับ

   ที่เขียนมาทั้งหมดเป็นเรื่องของการใช้ตรรกะเชิง "หลักการและเหตุผล" ทั้งสิ้น ไม่ได้มีอคติส่วนตัว ก็จะยังกดไลก์ให้กับมือขวา และคนร่วมประชาคมนี้ต่อไปเช่นเดิม

ด้วยจิตคารวะ

สนอง เสาทอง
(รักษาการแทน choy)
8 พฤษภาคม 56

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, พิมพ์วาส, รพีกาญจน์, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ไพร พนาวัลย์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, จารุทัส, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, Shumbala

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 08:53:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #16 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 08:53:AM »
ชุมชนชุมชน



โฮะๆๆๆ   เป็นความผิดผมเองที่ความรู้น้อยเกินไป   จึงไม่รู้ว่า แหลม มอริสัน เป็นคนไทย
ทำให้วิเคราะห์ผิดไป  ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ (มิน่า ยังนึกแปลกใจว่าฝรั่งอะไร ทำไมชื่อคล้ายคนไทย  หัวเราะยิ้มๆ)

 เอ้อ..จริงว่ะ    หัวเราะเยาะ   เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, choy, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ช่วงนี้ไม่ว่าง, พี.พูนสุข, อริญชย์, จารุทัส, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
08 พฤษภาคม 2013, 09:28:AM
พิมพ์วาส
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 422
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


Pretending is the beginning of changes.


profile.php?id=100002905344846
« ตอบ #17 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 09:28:AM »
ชุมชนชุมชน


                  พึ่งจะรู้ว่าคุณพิมพ์วาส ไม่ค่อยชอบกลอนแบบรำพึงรำพันที่ไม่มีเรื่องมีเรื่องราว
ก่อนอื่นอยากให้คุณทำความเข้าใจก่อนว่า สมาชิกส่วนมากไม่ได้เป็นนักเขียนมืออาชีพ
เป็นเพียงผู้มีใจรักในบทกลอนเท่านั้น  ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่นักถ่ายทอดเรื่องราว
หรือแต่งกลอนให้เป็นเรื่องเป็นราวแบบมืออาชีพได้  ดังนั้นเราจึงเห็นบทกลอนประเภท
รักนะ(แต่ไม่รู้รักใคร)  อกหักผิดหวัง(แต่ไม่รู้ว่าอกหักจากใคร  เรื่องอะไร  เมื่อไหร่ ที่ไหน)
ก็คนมันไม่ได้มีความรัก จะให้เขียนกลอนบอกรักได้ลึกซึ้งได้อย่างไร  แล้วกลอนอกหักนั่นก็อีก
ก็คนมันไม่ได้อยู่ในอารมณ์อกหัก  แล้วจะให้แต่งกลอนอกหักได้อย่างไร  มันจึงมีแต่กลอน
ที่บอกรัก  ว่าอกหัก ว่าเจ็บปวดรวดร้าว(แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร)อยู่แค่นั้น
คนที่จะเขียนผูกเรื่องให้มันดูสมจริงทั้งๆที่ตนเองไม่ได้เป็นจึงมีแต่นักเขียนมืออาชีพเท่านั้นถึงทำได้
                อนึ่งควรทราบว่ากลอนก็คือคำพูดชนิดหนึ่งเท่านั้น ก็เมื่อนเมื่อกลอนคือคำพูด
ดังนั้นมันจึงมีทั้งกลอนที่เพราะและไม่เพราะ  วันไหนคนแต่งอารมณ์ดีก็พูดรู้เรื่อง กลอนที่แต่งก็เพราะ
วันไหนคนแต่งอารมณ์ไม่ดี เครียด คิดอะไรไม่ออก ก็พูดไม่รู้เรื่อง  กลอนที่แต่งออกมาจึงไม่เพราะ
                  แล้วการที่จะพูดกันให้เป็นเรื่องเป็นราวได้เนื้อหาสาระนั้น มันก็ต้องมีประเด็นที่จะพูด
ซะก่อน มันถึงจะพูดได้เนื้อหาสาระ    แต่บางคนไม่มีประเด็นที่จะพูด  แต่อยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องขอพูด
ซะหน่อย  ไม่พูดเดี๋ยวเปรี้ยวปากลงแดงตาย  ดังนั้นเมื่อไม่มีประเด็นอะไรที่จะพูด แต่ต้องการจะพูด
ให้ได้มันจึงกลายเป็นพูดบ่นเรื่อยเปื่อยไป  เอาเรื่องเอาราวหาสาระไม่ได้
การแต่งกลอนมันก็ดุจเดียวกัน ถ้าคนแต่งมีประเด็นที่จะแต่งชัดเจน กลอนที่แต่งมันก็ออกมาดี
มีเรื่องราว   แต่บางคนไม่มีประเด็นที่จะแต่งหรอก ไม่รู้ว่าจะแต่งเรื่องอะไรแต่ขอข้าได้แต่งไว้ก่อน
ดังนั้นกลอนที่ออกมามันจึงเป็นอย่างที่เห็น  คือคล้ายๆคนที่บ่นๆไปเรื่อยๆไม่มีเรื่องมีราวอะไร
เรื่องนี้ผมได้เคยตั้งกระทู้ชื่อ "เขียนกลอนตอนที่คิดไม่ออก"ซึ่งเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนกระทั่ง
ถูกลบไปเมื่อปีที่แล้ว
                   ดังนั้นเราจึงต้องเข้าใจว่า ก็คนมันไม่มีเรื่องจะพูด  แต่ต้องพูดให้ได้  แล้วจะให้
ทำอย่างไรได้เล่า  กลอนที่ออกมามันจึงเหมือนคนที่บ่นเพ้อไปวันๆ(ไม่ได้ว่าแต่ผู้อื่นหรอก ตัวผมก็เป็นด้วย
บางทีไม่รู้ว่าต้องการเขียนเรื่องอะไร  แต่ขอเขียนไว้ก่อน)


ขอเน้นหนักๆสักหน่อย จากช่วงกลางที่บอกรสนิยมส่วนตัวในการเลือกอ่าน ตัวผู้บอกมิได้กล่าวถึงว่าเป็นเป็นคำประพันธ์ชนิดใด
แต่สิ่งที่กล่าวมาช่วงท้ายที่ยกตัวอย่าง บอกไว้แล้วหมายถึงคำประพันธ์ชนิดใด ว่าหากรำพึงรำพันเพ้อพบ
แล้วไม่มีเรื่องราวที่วาดโครงเรื่องที่จะดำเนินไว้ ตนจะอ่านไม่รู้เรื่องเพราะผู้เขียนไม่มีลำดับการเขียนเรื่องราว
คือพรรณนาเพ้อพบไปทั่ว โดยไม่รู้แก่นสารสาระว่าจะสื่อไปเรื่องใด (ใครๆก็อ่านนไม่รู้เรื่องทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อไปหาอ่านดู)
ในที่นี้ ผู้เขียนบอกรสนิยมหมายถึง จำพวก 'เรื่องสั้น' ข้อความประกอบบทความ คำโปรยที่โปรยแบบงงๆ

ส่วนตัวก็ได้ยกตัวอย่างไปแล้ว ว่าเช่นแบบไหน
จากรสนนิยมที่บอกข้างต้นไม่ได้กล่าวถึง 'กลอน' เลย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องชี้แจงให้ฟังเพราะผู้บอกรสนิยมก็เขียนเช่นกัน
แต่เขียนในรูปแบบมีฉันทลักษณ์และความชอบของตัวเอง

ขอบคุณที่อ่านค่ะ โปรดเข้าใจด้วย
ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่บอกไป โปรดกลับไปอ่านทวนใหม่
ขอบพระคุณค่ะ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, choy, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., ไพร พนาวัลย์, ช่วงนี้ไม่ว่าง, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, จารุทัส, พยัญเสมอ, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความผกผันของเวลา  เฉือนเจตนาของอารมณ์
08 พฤษภาคม 2013, 10:59:AM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #18 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 10:59:AM »
ชุมชนชุมชน

   
     ขอคุยบ้างครับ

     ผมหัดแต่งกลอนปี 2505 กำลังเรียนขั้นประถมปีที่ 5 ในหัวข้อว่า  " สักวา คราสอบ ขอมอบจิต "  พร้อมๆกับเขียนข้อความติดป้ายนิเทศ
หน้าห้องเรียน  " เทวดาหรือซาตาน  "  ความว่า...คุณมาจากประเทศที่ไม่เคยปลูกข้าวเจ้า แล้วคุณจะช่วยพัฒนาข้าวไทยได้อย่างไร?...
     ผมเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3  ได้แต่งกลอนส่งลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายสัปดาห์ และเขียนข่าวรายงานสังคม
     ผมเรียนระดับ ป.กศ. ส่งผลงานลงหนังสือพิมพ์ ได้รับค่าตอบแทนบทละ 10 บาท เก็บออมไว้เป็นค่าเทอม ผมอาศัยวัด กินข้าววัดครับ
     ผมเริ่มรับราชการ ปี 2515 มีครอบครัว ห่างเหินหยุดแต่งกลอนนานนับ 40 ปี กระทั่งปลายปี 2553 ลูกชายยกคอมพ์เก่า
ให้หัดจิ้มพิมพ์ และแนะนำรู้จักสมัครเป็นสมาชิกบ้านกลอนไทย ได้รื้อฟื้นแต่งกลอนอีกครั้งจนถึงวันนี้
     
     สิ่งที่ได้ตั้งใจเอาไว้
     1. จะพยายามอ่านทุกกระทู้ๆที่อ่านแล้วจะกดชมทุกครั้ง
     2. จะแต่งกลอนลงวันละ 1 กระทู้ เป็นอย่างน้อย
     3. จะให้คะแนนกระทู้หรือคนที่ชอบ ตามกำหนด ถ้าใครตอบต่อกลอน หรือให้คะแนน จะให้ตอบ
     4. จะเขียนเรื่อยไปจนกว่าคอมพ์หรือคน(ผม)ใช้การไม่ได้ หรือเวบมาสเตอร์อเปหิ
     5. ไม่หวงผลงาน ใครจะนำไปใช้หรือย่างไร เชิญตามสบาย ไม่ต้องบอกกล่าว

     ผมคุยอย่างนี้พอใช้ได้ไหมครับคุณมือขวา
     จาก...คนกดทุกปุ่ม  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...เป็ดน้ำ..., พิมพ์วาส, ไพร พนาวัลย์, ดารกะ, panthong.kh, ช่วงนี้ไม่ว่าง, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, choy, กังวาน, จารุทัส, พยัญเสมอ, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, Shumbala

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 11:19:AM
...เป็ดน้ำ...
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 95
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 60


สามก๊ก ถึงสิบจบก็คบได้ !!~~


PoemDD?ref=tn_tnmn
« ตอบ #19 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 11:19:AM »
ชุมชนชุมชน

ผมว่าความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ในนักกลอนส่วนใหญ่(หรือเปล่า)
แต่ผมคนนึงหัดแต่งกลอนครั้งแรกก็ปีกว่าๆ ตั้งกระทู้เอง ไปตอบเขามั่ง
แต่คงเพราะความอ่อนด้อยในฝีมือ ตั้งกระทู้ปุ๊บ แปปเดียวก็หายไปจากหน้าบอร์ด
ไปต่อกระทู้มั่ง ก็ไม่มีใครมาตอบต่อ แม้ตอนหลังจะพอเข้าใจว่าตอนนั้นกลอนเรามันไม่ดี
แต่ก็รู้สึกโดดเดี่ยวพอสมควร เพราะไม่มีใครฝึกหัดให้ ดังนั้นเข้าใจความเห็นท่านมือขวา
และความรู้สึกนักกลอนฝึกหัดทุกคน ว่าไม่มีกำลังใจ และไม่รู้จะแต่งไปทำไมเพราะไม่รู้มีคนอ่านหรือเปล่า !!


 ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, ดารกะ, panthong.kh, ช่วงนี้ไม่ว่าง, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, choy, Prapacarn ❀, จารุทัส, พยัญเสมอ, เฮยอิง, ดุลย์ ละมุน, Shumbala

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เป็ดน้ำ นามว่า...พล !!~~~
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s