Re: :+: ใจคือฟาง...เพียงรำพัน :+:
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
13 พฤษภาคม 2024, 08:58:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: :+: ใจคือฟาง...เพียงรำพัน :+:  (อ่าน 13345 ครั้ง)
รการตติ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 452
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544



« เมื่อ: 23 มีนาคม 2012, 12:53:PM »


นอกเรื่อง

เมื่อกำเนิดเกิดร่างกลางนาข้าว
พรั่งพร้อมพราวราวมนุษย์ไปสุดผ้า
หวังไล่นกแทนคุณหนุนมารดา
ให้เบื้องหน้านาข้าวเขียวขจี

โอ้หุ่นเอ๋ยหุ่นไล่กาน่าสงสาร
ด้วยเมื่อวานแม่เจ้าเขาฝากนี่
ให้ไล่นกดุจเสือเมื่อราวี
แต่เจ้าซีเล่นล้อเหมือนคลอเคลีย

อนุญาตให้นกมันผกผิน
ร่อนโบยบินมาอาศัยใจละเหี่ย
ดูเจ้ายิ้มพริ้มพรายกลายเป็นเพลีย
จะกล่อมเกลี้ยนกดื้อหรืออย่างไร

ในเมื่อเจ้าละทิ้งทั้งหน้าที่
แม่จะมีตัวช่วยด้วยสิ่งใหม่
อยากเลี้ยงนกประสงค์ก็จงไป
อย่ากลับใจไห้ครวญอยากหวนคืน

สิ่งประดิษฐ์ชนิดใหม่ใกล้สำเร็จ
พร้อมสรรพเสร็จแทนหุ่นหมุนขมขื่น
ไปเถิดเจ้ารีบไปไม่ต้องยืน
อย่ากล้ำกลืนเลี้ยงสัตว์ให้ขัดใจ

แม่ได้ช้างไล่กามาแทนที่
หวังงานดีมีชอบกอบกู้ให้
เจ้านกเลวหนีห่างละทางไกล
ขอบคุณช้างตัวใหม่ใช้ไล่กา

รูปภาพจากอินเตอร์เน็ต




บัณฑิตเมืองสิงห์



นาเกิด กำเนิดร่างฟางยืนนิ่ง
ไม่ไหวติงดวงใจใฝ่ฝันหา
แม้ยามไร้ ใจฟางอยู่กลางนา
แสวงหาเพื่อใครเข้าใจฟาง

แม้ นกกา ถลาบินทุกถิ่นที่
เขียวขจีท้องทุ่งยามรุ่งสาง
หากน้ำค้างที่เจิ่งฟ้าเวิ้งว้าง
นกกระยาง โบยบินดั่งอินทรี

เมื่อหุ่นฟางติดเครื่องยนต์ปนเครื่องจักร
กลไกชักปลิดปลิววิ่งเร็วรี่
เพียงขับไล่นกกามาราวี
ไม่ให้มีสิทธิ์ผ่านทั่วน่านฟ้า

สงสารแต่เจ้ากา ท่าละเหี่ย
เจ้าสูญเสียที่บินต้องผินป่า
ทั่วท้องทุ่งห้ามไปในที่นา
ต้องเสียค่าปฏิกรรมอย่าคร่ำครวญ

แม้มิได้เป็นพยนต์ปนมนต์เสก
ความวิเวกย้อนจิตให้คิดหวน
เป่ามนต์ พา พยนต์ หุ่นมนต์ชวน
เป็นขบวนคชสาร ตระการตา

ว่าแล้วจึงขี่ช้างมากลางทุ่ง
เหยียบย่ำยุ้งนาข้าวราวนาป่า
เกณฑ์ไพร่พลขวักไขว่ไล่นกกา
อย่างช้าช้า..กลับ..ดัก..ตั๊กแตน..



รการตติ
เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ไม่รู้ใจ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, Music, Prapacarn ❀, สุนันยา, Thammada, รพีกาญจน์, สะเลเต, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มีนาคม 2012, 06:09:PM โดย รการตติ » บันทึกการเข้า

ร ก ติ น้ำคอยจุนหนุนเกื้อเรือจึงลอย น้ำแหละคอยจมเรือเมื่ออับปาง

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s