ถ้าสมมุติว่ามีคนอยู่คนหนึ่งเอาแต่ชวนคุยอย่างเดียว โดยไม่ค่อยจะแต่งกลอนพวกคุณจะสน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤษภาคม 2024, 01:21:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าสมมุติว่ามีคนอยู่คนหนึ่งเอาแต่ชวนคุยอย่างเดียว โดยไม่ค่อยจะแต่งกลอนพวกคุณจะสน  (อ่าน 14499 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
08 พฤษภาคม 2013, 12:57:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #20 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 12:57:PM »
ชุมชนชุมชน

จากแรงบันดาลใจที่ชอบอ่านพระอภัยมณี จึงอยากหัดลองแต่งกลอนดูบ้าง
ผลออกมาเป็นกลอนประตู กลอนหน้าต่าง ฯ ก็เขียนไปเรื่อยๆ ในหมู่เพื่อนๆที่ทำงาน
เขาก็ว่าเราเก่ง เพราะต่างก็รู้เพียงว่านำเสียงคล้องจองมาวางตำแหน่งสัมผัสก็ใช้ได้แล้ว
วันหนึ่งเพื่อนในเน็ตทิ้งลิ้งค์ www.klonthaiclub.com ไว้ให้ ลองเข้ามาดู เจอระเบียบ
ข้อบังคับต่างๆ ก็ได้สมัครสมาชิกเข้ามา และคิดว่าเราก็หนึ่งในตองอู จึงนำกลอนตามแบบ
ที่เคยเขียนมาลง ผลปรากฏว่ามีหลายท่าน ชี้แจง แนะนำ แก้ไขผิดถูกอย่างไร กำลังใจ
ในขณะนั้นคือท่านเหล่านั้น โต้ตอบบทกลอนของเรา ซึ่งเท่ากับว่าคือการบ้าน แม้ปัจจุบันนี้ก็
กำลังศึกษาอยู่ไม่รู้จบ คิดว่าพยายามลงให้ได้ แม้วันละบทก็ยังดี แต่บังเอิญสถานการณ์ โรคภัย
ไข้เจ็บ และอีกจิปาถะที่ต้องระวัง แก้ไข จึงห่างๆไปบ้าง ครั้นห่างนานเข้า ยอมรับว่าเขียนไม่ออก
ไม่เป็นดังที่หวัง กลัวไม่เป็นที่ยอมรับจากหลายท่าน(คิดไปเอง) ซึ่งเขาเหล่านั้นอาจมีภารกิจอื่น ไม่ว่าง
ก็ซึมๆไปเหมือนกัน หลังจากนั้น 2-3 วันกลับมาดูใหม่ มันกลับไม่ใช่ดังที่คิด กำลังใจก็กลับมาใหม่
สื่อสัมพันธ์ในบ้านกลอน กลับทำให้มีความรู้สึกใหม่ขึ้นมา นั่นคือความห่วงหาอาทรซึ่งกันและกัน
ภาพแทนตัวก็ไม่ใช่ นามหรือนามแฝงก็ไม่เชิง แต่มันมีความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ สิ่งเหล่านี้ ผมได้รับจาก
บ้านกลอนไทยครับ........
นพ
8 พ.ค.56

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, กังวาน, choy, จารุทัส, Prapacarn ❀, ...เป็ดน้ำ..., ชลนา ทิชากร, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, พิมพ์วาส, ช่วงนี้ไม่ว่าง, saknun, ไพร พนาวัลย์, พยัญเสมอ, เฮยอิง, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, สล่าผิน, Shumbala, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 22 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 01:21:PM
กังวาน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 904
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,505



« ตอบ #21 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 01:21:PM »
ชุมชนชุมชน

ผมขอเรียนเขียนตอบมอบมือขวา
เห็นคุณมากังวลทนมิไหว
เรื่องแต่งกลอนอ่อนอกเหมือนตกใจ
ขืนแต่งไปบ่นบ้าท่ามิดี

ณ บ้านกลอนตอนนี้ไม่มีเส้น
จะแต่งเล่นแต่งจริงอิงศักดิ์ศรี
จะแต่งเย้าแต่งหยอกหลอกก็มี
แต่ใจนี้จริงใจไม่เกลียดชัง

มิได้แข่งแบ่งยศจดทำแต้ม
ดอกไม้แย้มดอกไม้บานหว่านความหวัง
เพราะชีวิตคิดไปไม่จีรัง
ไยมานั่งกังวลหาคนแล

อยากจะแต่งแต่งไปไม่ก็อ่าน
กลอนเขาหวานหรือเฉาเราอย่าแถ
มิได้เกี่ยวกับเราก็อย่าวอแว
ถ้าดวงแดคิดรักเป็นนักกลอน

บ้านกลอนนี้มีผู้ใหญ่ไปจนเด็ก
ถ้ายังเล็กค่อยคิดอ่านผ่านอักษร
อาวุโสต้องเคารพจะพบพร
ขอวิงวอนท่านไตร่ตรองแล้วลองทำ

           ---กังวาน---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...เป็ดน้ำ..., ชลนา ทิชากร, choy, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, สมนึก นพ, panthong.kh, ช่วงนี้ไม่ว่าง, จารุทัส, saknun, ไพร พนาวัลย์, พยัญเสมอ, เฮยอิง, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, ดุลย์ ละมุน, เพรางาย, สล่าผิน, Shumbala, Prapacarn ❀, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ถ้ารู้สึกพอ ก็เป็นสุขทันที
08 พฤษภาคม 2013, 02:50:PM
saknun
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 245
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 940



« ตอบ #22 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 02:50:PM »
ชุมชนชุมชน

สายกลาง กระจ่าง สดใส
หัวใจ  รับรู้ เสมอ
เคารพ ผู้ใหญ่ นะเธอ
อย่าเผลอ ความใน ให้ฟัง

อดคิด  คิดอด นะครับ
ขอปรับ เข้าใจ สักครั้ง
ปัญหา เคยเจอ เหมืองกัง(กัน)
ยั้บยั้ง  เก็บไว้  นะครับ

ขอแสดงความคิดเป็นส่วนตัวนิดนะครับ
วันนี้ผมอ่านข้อความหลายท่านที่ลงมา
เหมือนกับต่อว่า ท่านมือขวายังไงไม่รู้
แต่พออ่านต่อไปอีก มันเหมือนกับว่า
ถ้าใครไม่พอใจก็อย่ามาที่นี่ อะไรทำนองนี้แหละ
เอาเถอะครับ สำหรับผมคิดว่าอย่างไงก็ได้อยู่ทีตัวเรา
ความคิดของคนเรานั้น ย่อมแตกต่างกันได้ครับ
ท่านมือขวาท่านอาจจะคิดอย่างนั้นแล้วท่านก็เขียนความคิดนั้นลงมา
บังเอิญว่า ท่านผู้ใหญ่ผู้รู้แสดงความคิดเห็นตอบกลับ ฟังแล้ว
อ่านแล้ว ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เป็นธรรมดาของมนุษย์เราครับจบ

                    saknun

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กรกช, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, สมนึก นพ, จารุทัส, พยัญเสมอ, เฮยอิง, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, ดุลย์ ละมุน, ...เป็ดน้ำ..., เพรางาย, สล่าผิน, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, Shumbala, choy, Prapacarn ❀, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 04:20:PM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #23 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 04:20:PM »
ชุมชนชุมชน


                  พึ่งจะรู้ว่าคุณพิมพ์วาส ไม่ค่อยชอบกลอนแบบรำพึงรำพันที่ไม่มีเรื่องมีเรื่องราว
ก่อนอื่นอยากให้คุณทำความเข้าใจก่อนว่า สมาชิกส่วนมากไม่ได้เป็นนักเขียนมืออาชีพ
เป็นเพียงผู้มีใจรักในบทกลอนเท่านั้น  ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่นักถ่ายทอดเรื่องราว
หรือแต่งกลอนให้เป็นเรื่องเป็นราวแบบมืออาชีพได้  ดังนั้นเราจึงเห็นบทกลอนประเภท
รักนะ(แต่ไม่รู้รักใคร)  อกหักผิดหวัง(แต่ไม่รู้ว่าอกหักจากใคร  เรื่องอะไร  เมื่อไหร่ ที่ไหน)
ก็คนมันไม่ได้มีความรัก จะให้เขียนกลอนบอกรักได้ลึกซึ้งได้อย่างไร  แล้วกลอนอกหักนั่นก็อีก
ก็คนมันไม่ได้อยู่ในอารมณ์อกหัก  แล้วจะให้แต่งกลอนอกหักได้อย่างไร  มันจึงมีแต่กลอน
ที่บอกรัก  ว่าอกหัก ว่าเจ็บปวดรวดร้าว(แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร)อยู่แค่นั้น
คนที่จะเขียนผูกเรื่องให้มันดูสมจริงทั้งๆที่ตนเองไม่ได้เป็นจึงมีแต่นักเขียนมืออาชีพเท่านั้นถึงทำได้
                อนึ่งควรทราบว่ากลอนก็คือคำพูดชนิดหนึ่งเท่านั้น ก็เมื่อนเมื่อกลอนคือคำพูด
ดังนั้นมันจึงมีทั้งกลอนที่เพราะและไม่เพราะ  วันไหนคนแต่งอารมณ์ดีก็พูดรู้เรื่อง กลอนที่แต่งก็เพราะ
วันไหนคนแต่งอารมณ์ไม่ดี เครียด คิดอะไรไม่ออก ก็พูดไม่รู้เรื่อง  กลอนที่แต่งออกมาจึงไม่เพราะ
                  แล้วการที่จะพูดกันให้เป็นเรื่องเป็นราวได้เนื้อหาสาระนั้น มันก็ต้องมีประเด็นที่จะพูด
ซะก่อน มันถึงจะพูดได้เนื้อหาสาระ    แต่บางคนไม่มีประเด็นที่จะพูด  แต่อยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องขอพูด
ซะหน่อย  ไม่พูดเดี๋ยวเปรี้ยวปากลงแดงตาย  ดังนั้นเมื่อไม่มีประเด็นอะไรที่จะพูด แต่ต้องการจะพูด
ให้ได้มันจึงกลายเป็นพูดบ่นเรื่อยเปื่อยไป  เอาเรื่องเอาราวหาสาระไม่ได้
การแต่งกลอนมันก็ดุจเดียวกัน ถ้าคนแต่งมีประเด็นที่จะแต่งชัดเจน กลอนที่แต่งมันก็ออกมาดี
มีเรื่องราว   แต่บางคนไม่มีประเด็นที่จะแต่งหรอก ไม่รู้ว่าจะแต่งเรื่องอะไรแต่ขอข้าได้แต่งไว้ก่อน
ดังนั้นกลอนที่ออกมามันจึงเป็นอย่างที่เห็น  คือคล้ายๆคนที่บ่นๆไปเรื่อยๆไม่มีเรื่องมีราวอะไร
เรื่องนี้ผมได้เคยตั้งกระทู้ชื่อ "เขียนกลอนตอนที่คิดไม่ออก"ซึ่งเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนกระทั่ง
ถูกลบไปเมื่อปีที่แล้ว
                   ดังนั้นเราจึงต้องเข้าใจว่า ก็คนมันไม่มีเรื่องจะพูด  แต่ต้องพูดให้ได้  แล้วจะให้
ทำอย่างไรได้เล่า  กลอนที่ออกมามันจึงเหมือนคนที่บ่นเพ้อไปวันๆ(ไม่ได้ว่าแต่ผู้อื่นหรอก ตัวผมก็เป็นด้วย
บางทีไม่รู้ว่าต้องการเขียนเรื่องอะไร  แต่ขอเขียนไว้ก่อน)


ขอเน้นหนักๆสักหน่อย จากช่วงกลางที่บอกรสนิยมส่วนตัวในการเลือกอ่าน ตัวผู้บอกมิได้กล่าวถึงว่าเป็นเป็นคำประพันธ์ชนิดใด
แต่สิ่งที่กล่าวมาช่วงท้ายที่ยกตัวอย่าง บอกไว้แล้วหมายถึงคำประพันธ์ชนิดใด ว่าหากรำพึงรำพันเพ้อพบ
แล้วไม่มีเรื่องราวที่วาดโครงเรื่องที่จะดำเนินไว้ ตนจะอ่านไม่รู้เรื่องเพราะผู้เขียนไม่มีลำดับการเขียนเรื่องราว
คือพรรณนาเพ้อพบไปทั่ว โดยไม่รู้แก่นสารสาระว่าจะสื่อไปเรื่องใด (ใครๆก็อ่านนไม่รู้เรื่องทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อไปหาอ่านดู)
ในที่นี้ ผู้เขียนบอกรสนิยมหมายถึง จำพวก 'เรื่องสั้น' ข้อความประกอบบทความ คำโปรยที่โปรยแบบงงๆ

ส่วนตัวก็ได้ยกตัวอย่างไปแล้ว ว่าเช่นแบบไหน
จากรสนนิยมที่บอกข้างต้นไม่ได้กล่าวถึง 'กลอน' เลย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องชี้แจงให้ฟังเพราะผู้บอกรสนิยมก็เขียนเช่นกัน
แต่เขียนในรูปแบบมีฉันทลักษณ์และความชอบของตัวเอง

ขอบคุณที่อ่านค่ะ โปรดเข้าใจด้วย
ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่บอกไป โปรดกลับไปอ่านทวนใหม่
ขอบพระคุณค่ะ






ต้องขอโทษคุณพิมพ์วาส(ผิดเอง)ด้วยครับ   เข้าใจผิดอย่างแรง.... เอ้อ..จริงว่ะ
ก็ทีแรกผมเห็นคุณพิมพ์วาส(ผิดเอง) บอกว่า เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม  ที่นี่ในเมื่อมีชื่อว่า"เว็บบ้านกลอนไทย"
ก็ต้องพูดเรื่องกลอน  ผมก็เลยนึกว่าที่คุณพิมพ์วาส(ผิดเอง)พูดมาทั้งหมดนั้นคือเรื่องกลอนล้วนๆ
ใครจะไปนึกว่าคุณจะเฉไฉไปพูดถึงบทประพันธ์ประเภทอื่น  ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ

 หัวเราะเยาะ




เหมือนกับที่คุณช้อยบอก (ไม่ทราบอ่านว่าอ่านถูกไหมต้องขออภัยค่ะ ส่วนตัวไม่นิยมเขียนภาษาไทยปนภาษาอังกฤษค่ะ)
เรื่องที่อ่านจากคุณช้อย สำหรับตัวเองแล้วตีประเด็นออกมาได้ว่า 'เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม'
ก็เหมือนกับเมื่อเจอสังคมกลอนก็ย่อมจะคุยสนทนาทักทายกันเป็นกลอนเป็นธรรมดา

สุภาษิตข้างตนหมายความว่า "ที่แห่งใดเขาประพฤติตามเขาไปด้วย  อย่าไปประพฤติขัดแย้งกับเขา"
ดังนั้นเมื่อเราขึ้นชื่อว่า 'บ้านกลอนไทย' ก็ย่อมเป็นนักเขียนกลอนอยู่แล้ว
แต่ในบ้านกลอนไทยก็มีหมวดต่างๆให้เลือกว่าจะเขียนกลอนแนวไหน จะทำอะไรก็มีที่ให้สนทนากัน
หรือเข้าห้อง สนทนา ไปคุยกันเลยก็ได้ ทางเว็บก็มีให้

ส่วนตัวจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะที่ไม่เกี่ยวกับการรำพึงเพ้อพบ พรรณนาเพ้อพร่ำต่างๆ ไม่เป็นเรื่อง
ที่อ่านแล้วงงมึน ตีความสุดฤทธิ์ก็ยังงง (ไม่รวมแคนโต้ เก็บเซนริวนะคะ)
เพราะตัวเองก็ทำได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องเล่า เรื่องสั้น นิยาย นวนิยาย ความรู้รอบๆตัว
ส่วนตัวเองแล้วก็ชอบที่จะอ่านนะคะ (เลือกนิดหนึ่ง)

ที่ว่ารำพึงรำพันไม่รู้เรื่อง อาจจะเป็นเพราะเราคิดไม่ถึงเช่น (เขียนเองงงเอง ของเก่าค่ะ ไม่เคยลง)

เธอสวยเหมือนดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ใช่! ใช่!
นั่นแสง ไม่ๆๆๆ ฉันเป็นดอกไม้เธอเป็นแสง เธอให้ความอบอุ่นฉัน ฉันจะบานให้เธอดู

--- ก็เข้าใจนะคะที่เขียน เขียนแบบไม่รู้เรื่อง เอ่อ...แบบไหน แบบนี้หรือเปล่า

'ฉันรักเธอเหลือเกินแม่ดอกไม้ริมทาง ฉันจะคว้าเธอมาเพื่อเชยชมก็แสนง่าย
แต่ฉันจะไม่ทำเช่นนั้นเพราะฉันรักเธอ ถ้าหากฉันเด็ดเธอมาเชยชมประเดี๋ยวเพียงชั่วครู่ชั่วยามเธอก็จะจากฉันไป
แต่ถ้าเธออยู่ที่ริมทางนั้น ฉันก็จะได้เชยชมเธอไปได้อีกนานกว่าเธอจะโรย เธอถามว่าฉันเป็นใครฉันเป็นสายลมของเธอ'

ย้ากกกกกกกกกกกก เขียนไม่เป็น ขออภัยค่ะ นอกประเด็นไปไกล ประเด็นของตัวเองอยู่ด้านบนค่ะ

ป.ล. พิมพ์นานไปสักหน่อยสมาชิกหลายท่านแซงต่อกระทู้ก่อนเสียแล้ว สุดเศร้าใจ






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เฮยอิง, รัตนาวดี, จารุทัส, ชลนา ทิชากร, ช่วงนี้ไม่ว่าง, พี.พูนสุข, ดุลย์ ละมุน, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, ...เป็ดน้ำ..., สล่าผิน, รพีกาญจน์, Shumbala, saknun, choy, Prapacarn ❀, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
08 พฤษภาคม 2013, 06:05:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #24 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 06:05:PM »
ชุมชนชุมชน


นี่แหละกวี
(และวิบากชะตากรรม)

ชะตากรรมคนกวีนั้นมหันต์
เพียรถักร้อยปั้นฝันผ่านคำถ้อย
เฉกแม่เรือนประณีตประดิดประดอย
ตัดปะเนียนค่อยค่อยเย็บชุนความ

ฝันเขียนกวีพลิ้วงามอย่างล้ำลึก
กลั่นจากผลึกบึ้งใจใครวาบหวาม
แม้ยลยินต้องมนต์ลุ่มหลงตาม
ระบือคามคมคำอันดื่นรมย์

จึงพากเพียรเรียนงานบุรพกวี
ถอดหอมศรีรหัสนัยคล้ายยาขม
เสพเพรื่อพร่ำดักดานจิตจ่อมจม
แล้วเพียรก้มนฤมิตจินตกานท์

จรดปากกาสลักเสลารุ้งจำหลัก
ติดหล่มปลักตมคำอยู่งุ่นง่าน
เกลาถ้อยดินถ้อยทรายด้วยดวงมาน
เป็นถ้อยดาวแย้มบานหอมลานกวี

วิบากกรรมคนกวียังไม่สิ้น
ถ้อยคำหมิ่นวิจารณ์งานบัดสี
ไร้คุณค่าวรรณศิลป์ฝุ่นธุลี
คมคำขยี้ดอกกวีร่วงลานดิน

กรีดน้ำตากอบเก็บกลีบดอกช้ำ
ค่อยเรียงร้อยช่อคำอันยับวิ่น
หอบดอกกวีกลีบเยินอันพังภินท์
ฝังบึ้งใจของกวินทร์อยู่เงียบงัน ฯ

สนอง เสาทอง
8 พฤษภาคม 56


*มอบให้มือขวา (ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเขียนบทนี้)
คนรุ่นผมล้วนผ่านประสบการณ์ที่เจ็บปวดเช่นนี้ทั้งสิ้น ไม่มีสื่อออนไลน์มารองรับเช่นรุ่นคุณ

**กวีคุณภาพอย่าง โกศล อนุสิม ได้ประกาศวาทะเด็ดอย่างน้อย 2 สำนวนเท่าที่จำได้ คือ

“บทกวีไม่ได้มีไว้ขาย มีไว้แจกจ่าย และแบ่งปัน”

และที่น่าจะโดนใจมือขวา (รวมทั้งกวีหลายๆ คน รวมผมด้วย)

“ข้าพเจ้าเขียน ท่านอ่าน, ท่านไม่อ่าน ข้าพเจ้ายังเขียน”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : จารุทัส, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ช่วงนี้ไม่ว่าง, พี.พูนสุข, ดุลย์ ละมุน, panthong.kh, กรกช, พิมพ์วาส, ไพร พนาวัลย์, ...เป็ดน้ำ..., เพรางาย, สล่าผิน, รพีกาญจน์, Shumbala, saknun, พยัญเสมอ, Prapacarn ❀, กังวาน, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 07:27:PM
ดุลย์ ละมุน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 486


กลั่นอักษร หมายอ้อนเธอ


« ตอบ #25 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 07:27:PM »
ชุมชนชุมชน

คุยด้วย...

ดุลย์ ละมุน...   ชายหนุ่มลุ่มเจ้าพระยา   ผิวสีชา   ในตาสีเหล็ก   ชอบเด็กสาวๆเป็นชีวิตจิตใจ
ระยะการกินไกล 500 เมตร(ไกลกว่านี้มองไม่เห็นสายตาสั้น) ชีวิตเรียบง่าย   อาชีพรับราชการ
เมียสองลูกสาม   ยามว่างปลูกผักเลี้ยงชีวี   เป็นหนี้สหกรณ์   ผ่อนยันเกษียณ   เขียนกลอนเพื่อคลายความเศร้า
เมาบ้างเป็นครั้งคราว   หนาวใจเป็นบางหน   ถนนบางสายผ่านไม่ได้(เป็นหนี้)  มีสุภาษิตประจำใจเป็นภาษาจีนว่า
" หง๋วย  เซี๊ยะ  เงี๊ยะ  ซ้วย  กึง  ซั่ว " แปลเป็นไทยได้ว่า " มีเมีย ไม่มีน้องเมีย ตายเสียดีกว่า "


555ขอให้รอยยิ้มจงอยู่คู่กับทุกท่านชาวบ้านกลอน
 เอ้อ..จริงว่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : จารุทัส, panthong.kh, กรกช, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ไพร พนาวัลย์, ...เป็ดน้ำ..., เพรางาย, สล่าผิน, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, Shumbala, saknun, choy, พยัญเสมอ, Prapacarn ❀, กังวาน, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 07:35:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #26 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 07:35:PM »
ชุมชนชุมชน

คุยด้วย...

ดุลย์ ละมุน...   ชายหนุ่มลุ่มเจ้าพระยา   ผิวสีชา   ในตาสีเหล็ก   ชอบเด็กสาวๆเป็นชีวิตจิตใจ
ระยะการกินไกล 500 เมตร(ไกลกว่านี้มองไม่เห็นสายตาสั้น) ชีวิตเรียบง่าย   อาชีพรับราชการ
เมียสองลูกสาม   ยามว่างปลูกผักเลี้ยงชีวี   เป็นหนี้สหกรณ์   ผ่อนยันเกษียณ   เขียนกลอนเพื่อคลายความเศร้า
เมาบ้างเป็นครั้งคราว   หนาวใจเป็นบางหน   ถนนบางสายผ่านไม่ได้(เป็นหนี้)  มีสุภาษิตประจำใจเป็นภาษาจีนว่า
" หง๋วย  เซี๊ยะ  เงี๊ยะ  ซ้วย  กึง  ซั่ว " แปลเป็นไทยได้ว่า " มีเมีย ไม่มีน้องเมีย ตายเสียดีกว่า "


555ขอให้รอยยิ้มจงอยู่คู่กับทุกท่านชาวบ้านกลอน
 เอ้อ..จริงว่ะ

หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ
 หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ

สุดยอดจ้า

 หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ
 หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ หัวเราะยิ้มๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดุลย์ ละมุน, กรกช, จารุทัส, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ไพร พนาวัลย์, ...เป็ดน้ำ..., สล่าผิน, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, Shumbala, saknun, choy, Prapacarn ❀, กังวาน, คอนพูธน, พยัญเสมอ

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 พฤษภาคม 2013, 08:52:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #27 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 08:52:PM »
ชุมชนชุมชน


อยากเขียนอะไรก็เขียนไปเถิด ถ้าสิ่งที่เราเขียนมีคนเข้ามาอ่าน นั่นแสดงว่างานของคุณน่าสนใจ หรืองานของบางคนที่รักการเขียน แต่มันอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง ก็จะมีรุ่นพี่เข้ามาแนะนำ ถ้าคุณไม่ใจแคบเกินไป เปิดใจให้กว้างรับคำติเพื่อก่อนั้น เพื่อปรับปรุงงานของคุณ และคุณก็ควรจะเรียนรู้กฎ ข้อบังคับ หรือฉันทลักษณ์ของ แต่ละโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน แล้วคุณจะรู้สึกสนุกกับมันเหมือนกับการที่คุณจะไปเชียงใหม่ คุณก็ต้องเรียนรู้เส้นทาง ใหม่ๆก็ค่อยๆคลานไปเรื่อยๆ แต่พอชำนาญแล้ว เราก็สามารถไปถึงที่หมายได้อย่างง่ายดาย
เราเข้ามาบ้านกลอนเพราะรักการอ่าน การเขียนกลอน เข้ามาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ได้รู้จักกับเพื่อนๆโดยที่ไม่เคยเห็นหน้า และรู้จักกับการเข้าไปอ่าน ไปกดยกมือให้คนอื่นๆบ้าง แล้วเขาก็จะเข้ามาอ่านงานของคุณเอง ผมอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว ผมว่าที่บ้านกลอนแห่งนี้อบอุ่นมากนะ ถ้าเรารู้จักการให้ โดยที่ไม่หวังผลตอบแทน แล้วสิ่งที่หวนคืนมาหาเรานั้น คาดไม่ถึงจริงๆ

ลุงไพร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, สล่าผิน, เพรางาย, จารุทัส, ...เป็ดน้ำ..., รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, Shumbala, saknun, กรกช, choy, พยัญเสมอ, Prapacarn ❀, กังวาน, อริญชย์, ดุลย์ ละมุน, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

08 พฤษภาคม 2013, 09:18:PM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #28 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2013, 09:18:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอบคุณเพื่อนนักกลอนทุกคนที่มีกำลังเขียนกลอนมาให้อ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าจะอ่านบ้าง  ไม่อ่านบ้าง  กดชื่นชมบ้าง  ไม่ได้กดบ้าง  ให้คะแนนบ้าง  และไม่ให้คะแนนบ้างก็ตาม
จำได้ว่าคุณงายก็ถูกบางคนกล่าวถึงในเรื่องการกดชมเชยยากเย็น
แต่ยืนยันว่าไม่ได้เลือกกดเฉพาะบทกลอนนะคะ  ร้อยแก้วที่ถูกใจก็กดให้เหมือนกัน
ก็...ปุ่มตอนนี้คือ  ถูกใจใช่เลย
ถ้าถูกใจก็ยินดีกดให้โดยไม่รับสินบนใดๆ
แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ถูกใจก็ขอสงวนสิทธิ์ที่จะให้หรือไม่ให้

คุณงายจะชื่นชมกลอนที่แสดงความคิดสร้างสรรค์
หรือใช้สำนวนที่อ่านแล้วแปลกใหม่หรือชวนประทับใจเป็นพิเศษ
ถ้าสำนวนนั้นมีผิดพลาดบ้าง แต่เนื้อหาดีเด่นก็จะเลือกใช้วิธีส่งข้อความไปชื่นชม
วิธีการแต่งนั้นปรับปรุงไปได้
แต่ความคิดสร้างสรรค์ และสำนวนที่แหวกความธรรมดาออกมาให้ปรากฏนั้น
มันวูบวาบจับตาน่าชื่นชม

ขอบคุณเพื่อนนักกลอนทุกคนที่ช่วยกันเรียงร้อยความฝันมาแบ่งปัน
เพียงแค่เห็นความเคลื่อนไหวของกระทู้
ให้รับรู้ว่ายังมีคนรักกลอนอยู่อีกกลุ่มก้อนใหญ่ก็ชื่นใจนักหนา
(รำพึงรำพันยาวเหยียดตามประสาผู้สูงวัยค่ะ)

ชื่นชมเพื่อนๆ ที่ตั้งกระทู้ใหม่ๆ กันได้บ่อยๆ
และมีแรงกำลังตอบต่อกระทู้กันยืดยาว
ข้าน้อยขอคารวะจากใจ

ช่วงนี้กำลังวุ่นวายกับการทำมาหากินเลี้ยงชีวิต
ห่างเหินการเขียนกลอนบ้าง
แต่ยังแว้บเข้ามาอ่านนะคะ

เพรางาย (มดส้มตัวหนึ่ง)

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, สล่าผิน, รพีกาญจน์, ...เป็ดน้ำ..., ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, จารุทัส, saknun, กรกช, choy, พิมพ์วาส, panthong.kh, พยัญเสมอ, Prapacarn ❀, กังวาน, อริญชย์, ดุลย์ ละมุน, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s