หนึ่งบทบรรยายถึงใครคนหนึ่ง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
19 เมษายน 2024, 10:53:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หนึ่งบทบรรยายถึงใครคนหนึ่ง  (อ่าน 5635 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
19 กุมภาพันธ์ 2009, 08:41:AM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2009, 08:41:AM »
ชุมชนชุมชน

หนึ่งบทบรรยาย ถึงใครคนหนึ่ง
                 18 กุมภาพันธ์ 2552 17.00 น.  ภายหลังจากการสนทนากับน้องสาว ผู้เป็นอดีตที่ดูเหมือนว่าใกล้จะเลือนลาง อย่างหาความทรงจำไม่ได้ คงไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อของเธอผู้นี้ เพราะเธอเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวชีวิตของข้าพเจ้าที่อาจจะดูไม่ค่อยสำคัญเท่าใดนัก  แต่ผู้หญิงที่ข้าพเจ้าถามถึง และเป็นผู้หญิงที่อยู่ในเหตุผลของการสนทนาในคราวนี้ นี่สิ เธอคือความหมาย และเธอคือคนสำคัญ ในชีวิตของฉันเคยพบเจอผู้คนมากมาย และแต่ละคนที่พบและผ่านล้วนแต่มีเอกลักษณ์ ที่แตกต่างกันออกไป แต่ในนัยความหมาย ที่ข้าพเจ้ามองผู้หญิงทั้งหลายเหล่านั้นไม่ต่างกันเลย เขาเหล่านั้นล้วนแต่คือผู้หญิงธรรมดา ซึ่งต่างจากผู้หญิงที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงว่าเธอคือผู้หญิงที่อยู่ในความหมายคนนั้น  นับเวลาผ่านไปแสนเนิ่นนานที่ข้าพเจ้าไม่ได้ยินแม้เสียงทักทายจากเธอผู้เป็นอดีตของฉัน เพราะตั้งแต่วันที่เขาตัดสินใจที่จะเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป ฉันก็ไม่มีแม้สิทธิ์ที่จะรับรู้ และรับฟังเสียงของเธออีกเลย ไม่มีโลกขวางกั้น ไม่มีตะวันขั้นกลาง ไม่มีแม่น้ำเป็นอุปสัค ไม่มีม่านแห่งสรรพสิ่งใดๆ ทั้งนั้นที่เป็นมาร แต่สิ่งเดียวที่เป็นเหตุผลของการไม่พบ ไม่ทัก ไม่คุยกันของเราคือ อุดมการณ์  ใช่เธอคือผู้หญิงที่มีอุดมการณ์ที่สูงส่ง และศักดิ์ศรีคือสิ่งที่กินไม่ได้ แต่เธอไม่เคยที่จะให้มันหดหายไปจากจิตวิญญาณของเธอแม้เสี้ยวขณะเวลา
   ข้าพเจ้ามิได้พร่ำพรรณนา เพื่อยกย่องเธอ หรือสรรเสริญเธอด้วยความบ้าคลั่งแต่อย่างใด หากแต่นี่คือความรู้สึกจากใจที่มี และได้สัมผัสกับเธอผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคยรู้จักมา  เธอคือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง  แต่ในความเป็นผู้หญิงธรรมดาของเธอนั้นเธอแฝงอัจฉริยภาพ ที่ใครต่อใครมิอาจมีได้ ไว้ในตัว  ข้าพเจ้าทึ่งในอัจฉริยภาพของเธอนั้น เพราะข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนใดที่มี และทำได้อย่างที่เธอมี และเธอทำ  ข้าพเจ้าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนในปฐพีนี้ที่จะมีอำนาจต่อจิตใจของข้าพเจ้าเท่าเทียมกับเธอผู้นี้  แม้ในยามที่เธอเดินออกจากชีวิตของข้าพเจ้าไปแล้วกว่า 3 ปีก็ตาม แต่ทว่ามนต์ขลังและอำนาจที่เคยคลอบงำจิตใจของข้าพเจ้า มันยังคงคลุกกรุ่นอยุ่ ราวกับว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เท่านั้นเอง  ทุกๆครั้งที่ข้าพเจ้ารับรู้เรื่องของเธอ หรือมีสิ่งใดที่มาทำให้ต้องนึกถึงเรื่องของเธอ  ความรู้สึกของความรัก และความทรงจำทั้งหมดทั้งมวลก็ระดมกันเข้ามาที่ใจของข้าพเจ้านี้  ภาพความทรงจำในอดีตมันช่างชัดจนข้าพเจ้าไม่อยากจะเชื่อว่า นี่คือภาพอดีตที่มันผ่านไปแล้วกว่า 3 ปี แต่นี่คือความจริง
   อีก 4 วันจะถึงวันคล้ายวันเกิดของเธอ ข้าพเจ้าเองเป็นเพียงคนที่อยู่ในถังขยะของหัวใจเธอ ซึ่งอาจจะถูกเททิ้งไปแล้ว หรือเผาทิ้งไปแล้ว แต่ทว่าเศษเสี้ยวแห่งวิญญานของขยะในหัวใจเธอนั้นมันยังคงถวิลหา และโหยหา เจ้าของขยะผู้ทิ้งมัน เพียงเศษขยะอันไร้ค่า ไฉนเลยจะมีราคาพอที่จะมอบสิ่งอันล่ำค่าให้กับเธอได้  เพียงคนผู้ไม่อยู่แม้ในความทรงจำของเธอ ใยเลยเธอจะนึกถึง แต่ข้าพเจ้า ขอสัญญาด้วยหัวใจที่มั่นคง และไม่มีพยานดวงนี้ว่า ข้าพเจ้าจะทำเพื่อเธอ แม้ว่าวันนี้ข้าพเจ้าจะไม่สามารถทำได้มากมายก็ตามที แต่ด้วยเหตุผลแห่งหัวใจของขณะชิ้นหนึ่งที่เธอทิ้งไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อนจะทำเพื่อเธอ แม้เธอจะไม่รับรู้   เหตุผลเดียวที่ข้าพเจ้าทำ ไม่ใช่เพื่อให้เธอกลับมา แต่เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่ข้าพเจ้ารักที่สุด และรักอย่างจริงใจ ข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าก้าวพ้นความรักที่แฝงไปด้วยตัณหาได้อย่างบริบูรณ์ ในระดับของปุถุชน  แม้ในใจของข้าพเจ้าหวังอยากได้เธอกลับมา แต่ข้าพเจ้าเข้าใจดีถึงความเป็นจริงว่าไม่อาจจะมีสิทธิ์ได้เธอคืนมา   แต่ที่สุดของเหตุผลของการกระทำเพื่อเธอ คือ ข้าพเจ้าทำด้วยใจรัก รักในตัวเองอย่างบริสุทธิ์  ข้าพเจ้าคงไม่ผิดบาปเท่าใดนัก เพราะความรักของข้าพเจ้ามิได้ทำให้ครอบครัวของเขาต้องหมองหม่น และไม่เป็นการทำให้เธอต้องทุกข์ใจ ลำบากใจ ตรงกันข้าม ในความจริงเธอไม่รู้แม้สิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำแม้นิด  เพียงใจและกายของขยะมีชีวิตเศษหนึ่งที่เธอเคยทิ้งไปเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ไม่รู้ ยังคงคิดถึงเธอเสมอ แต่เธอล่ะ แม้เดินผ่านขยะชิ้นนั้นเธออาจจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า นี่คือขยะที่เธอเคยทิ้งเมื่อครั้งหนึ่ง ครั้งโน่น 
   บทสุดท้าย ข้าพเจ้าขออวยพรให้เธอจงประสบแต่ความสุข ขอให้เธอจงมีชีวิตที่สมหวัง และมีชีวิตที่ราบรื่น อย่าให้เธอต้องได้รับความทุกข์ใจประการใดเลย ขออย่าได้มีใครหลอกลวงเธอ ทำให้เธอต้องเสียใจร้องไห้ อย่างที่ข้าพเจ้าผู้สำนึก ในความผิดพลาด ได้เคยกระทำมา  ข้าพเจ้าขอหยิบใจดวงที่มีค่าที่สุดเพียงเศษขยะที่เธอเคยทิ้งข้างทางดวงนี้ มอบความรักอันบริสุทธิ์ให้เธอด้วยใจจริง แม้เธอจะไม่มองเห็นคุณค่าเลยก็ตาม...


เหลือแต่เพียงอดีตความทรงจำ
ที่ยังคงตอกย้ำอยู่เสมอ
เหลือแต่เพียง ความห่วงหา บ้าละเมอ
ที่บ่งบอกว่ารักเธอ ไม่เสื่อมคลาย


เพียงเสี้ยวถ้อยพรรณนา ภาษารัก
ที่ร้อยถัก จากห้วงใจ  ในความหมาย
ฉันเฝ้าบอกกับตัวเอง กับหัวใจ
ฉันรักเธอ ได้ยินไหม สักเสี้ยวตอน


แม้เวลา เนิ่นนาน ที่ผ่านผัน
แต่ใจฉัน ยังคงเดิม เหมือนแต่ก่อน
รักอย่างไร ไม่เปลี่ยนแปลง สักบทตอน
จากเบื้องลึก สำนึกย้อน  บทกลอนแทนใจ
                                     นักเดินทาง



ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
19 กุมภาพันธ์ 2009, 11:02:AM
รัศมีธรรมส่องทาง
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 123
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 436


"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"


« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2009, 11:02:AM »
ชุมชนชุมชน

อันความรัก  มักมีทุกข์  ตามติดมา
ที่สุดก็  ต้องจากลา  มิสงสัย
ต้องพลัดพราก  จากกัน  เมื่อบรรลัย
ถึงอย่างไร  ก็ไม่อาจ  ให้กลับคืน

อุปาทาน  คือความ  ถือมั่นนี้
นำชีวี  ประสบทุกข์  ไม่อาจฝืน
เพราะยึดมั่น  แน่นแฟ้น  มิคลายคืน
จึงข่มขื่น  ระทมทุกข์  ทุกคืนวัน

ต้องปล่อยวาง  ตามธรรมดา  มรรคานี้
เพราะไม่มี  อะไรเที่ยง  ต้องเปลี่ยนผัน
อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตานั้น
ทุกสิ่งอัน  เป็นไป  เช่นนั้นแล

อันความรัก  มีได้  คือเมตตา
จะได้มา  ได้ครอบครอง  อย่าแยแส
หรือคิดหวัง  สิ่งตอบแทน  มีข้อแม้
เสียทีแก่  กิเลส  สังเวชใจ

ถ้าจะรัก  รักแท้  ด้วยเมตตา
ปรารถนา  ให้เค้าสุข  และสดใส
ตัวเราเอง  ไม่ต้องหวัง  ในสิ่งใด
เป็นผู้ให้  ใจก็สุข  สงบเย็น

ความทรงจำ  แสนดี  ก็มีไว้
อย่าให้ใจ  หลงทุกข์เศร้า  จงมองเห็น
มิเช่นนั้น  มิสุขได้  ทุกเช้าเย็น
แสนลำเค็ญ  ทุกข์เพราะรัก  จะหนักใจ

ขอให้ปล่อย  วางบ้าง  ความยึดมั่น
เพื่อให้พลัน  เกิดปัญญา  พาสุขใส
ให้กิเลส  ตัณหา  เบาบางไป
ไม่เท่าไร  นิรทุกข์  สุขนิพพาน


 ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง

พระพุทธองค์ท่านตรัสว่าคนเรามีรักร้อยก็นับว่าทุกข์ร้อย มีรักสิบก็นับว่าทุกข์สิบ มีรักหนึ่งก็นับว่าทุกข์หนึ่ง หากไม่มีรักเลย ก็แปลว่าไม่ต้องมีทุกข์เพราะรักเลยเช่นกัน? สรุปคือ ความรักเป็นแค่รูปแบบหนึ่งของความทุกข์เท่านั้น ต่อให้รักกันยืดยาวจนแก่เฒ่า วันหนึ่งก็ต้องทุกข์ใหญ่หลวงเพราะความพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รักอยู่ดี?

(ที่มา : กรรมพยากรณ์ : ชนะกรรม ตอนที่ ๓๓ คู่มือนักฆ่าตัวตาย)

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ยาทิสํ  ลภเต  พีชํ  ตาติสํ  ลภเต  ผลํ  กลฺยา  ณ  การี  กลฺยาณํ  ปาปการี  จ  ปาปกํ
................หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น  ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว.................
19 กุมภาพันธ์ 2009, 11:07:PM
tna
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 141
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 788



« ตอบ #2 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2009, 11:07:PM »
ชุมชนชุมชน




แค่ก้าวไปข้างหน้า
--------------
การที่จะเดินก้าวผ่านหรือยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมันช่างยากเสียเหลือเกิน
แต่การก้าวผ่านอดีตความทรงจำจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับยากยิ่งไปเสียกว่า
นั่นเพราะใจยังไขว่คว้าหาสิ่งที่ต้องการอย่างมิเสื่อมคลาย
คงเป็นเพียงความหลอกลวงเท่านั้นสำหรับคำว่าไม่ได้หวังสิ่งใด
เพราะตราบใดที่แผลยังไม่หายย่อมต้องการการรักษาเยียวยา
มียาหลายขนานที่สามารถทำให้แผลหายสนิทได้
แต่ยาขนานเดิมย่อมเป็นยาที่เรารู้จักคุ้นเคยและมั่นใจ
แต่ก็ยังมียาอีกหลายขนานที่เราไม่รู้จักและสามารถรักษาได้ดีกว่า
หากเราเปิดใจให้กว้างออกไปเราอาจพบสิ่งใหม่ๆในชีวิต
และอาจทำให้เราก้าวพ้นเส้นขีดจำกัดที่เรากำหนดขึ้นมาเองนี้ได้
ไม่แน่นอกจากแผลจะหายแล้ว แผลเป็นก็อาจไม่เหลือให้เห็น
เมื่อถึงวันนั้น แล้วคุณหันกลับมามองวันนี้
คุณอาจหัวเราะให้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
และอาจเสียดายกับเวลาที่ผ่านมา
เพราะมันง่ายเพียงแค่คุณ ก้าวไปข้างหน้า เท่านั้น

อันดอกไม้ ชูช่อ กอไสว
ไม่ทันไร  เหี่ยวไป ไร้ไขว่หา
ไม่ทันไร ดอกใหม่ อร่ามตา
ผลิช่อมา สวยสด ทดแทนกัน

เป็นเพียงได้ แค่ดอกไม้ แห่งกาลเวลา
ทรงคุณค่า ยามอารมณ์ สุขสมฝัน
ครั้นพอหาย คลายห่าง จางรำพัน
ก็ผลุนผัน เปลี่ยนไป ดั่งใจคน

เวลา...วารี...ชีวี...รำพัน





ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เวลา..คลาไคล้  วารี...รี่ไหล   ชีวี..เวียนว่าย  รำพัน...ฝันไป  อาลัย....เวลา
21 กุมภาพันธ์ 2009, 09:57:AM
รัศมีธรรมส่องทาง
Special Class LV3.9
นักกลอนหาทางกลับบ้าน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 123
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 436


"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"


« ตอบ #3 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2009, 09:57:AM »
ชุมชนชุมชน

การจากกันเป็นเรื่องเศร้า
โดยเฉพาะเป็นการจากทั้งที่ยังอยากอยู่ร่วม

แต่ใครจะไปกำหนดได้...
ทุกชีวิตต่างมีหนทางเป็นของตนเอง
มีทางที่ต้องเดินต่อไป
ขอเพียงยังคิดถึงกัน
มีกันและกันในความทรงจำ
แม้อยู่ห่างไกล.....
แม้ต้องจากกัน.....
ยังดีกว่าหลายคนที่อยู่ใกล้กัน
แต่ไม่เคยมีกันอยู่ในสายตา

การจากกันเป็นเรื่องเศร้า
แต่หากมีความทรงจำดีๆ ร่วมกัน
ในความเศร้านั้นก็ยังคงมีความงดงาม


 ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง ยิ้มแก้มแดง
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ยาทิสํ  ลภเต  พีชํ  ตาติสํ  ลภเต  ผลํ  กลฺยา  ณ  การี  กลฺยาณํ  ปาปการี  จ  ปาปกํ
................หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น  ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว.................
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s