*** ตำนานนางสงกรานต์ ***
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 เมษายน 2024, 06:33:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: *** ตำนานนางสงกรานต์ ***  (อ่าน 2553 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 เมษายน 2014, 09:25:AM
สมพงศ์ ชูสุวรรณ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 26



« เมื่อ: 11 เมษายน 2014, 09:25:AM »
ชุมชนชุมชน



*** ตำนานนางสงกรานต์ ***


** จะขอเกริ่นเรื่องราวคราวหนหลัง
ให้ผู้ฟังสดับรับข่าวสาร
ได้เข้าใจประวัตินางสงกรานต์
ตามตำนานบอกกล่าวเล่ากันมา

** เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รับรู้
และท่านผู้สนใจใฝ่ศึกษา
ได้ช่วยกันสืบทอดเจตนา
ประเพณีที่มีค่าให้ยาวนาน

** มีเศรษฐีคนหนึ่งร่ำรวยทรัพย์
คณานับมากมายมหาศาล
แต่อาภัพเรื่องบุตรสุดทรมาน
ทุกวันวารอยากมีไว้สืบสกุล

** นักเลงสุราข้างบ้านกล่าวขานว่า
น่าสงสารนักหนาพาเคื่องขุ่น
เหตุไฉนเราจึงไม่มีบุญ
ช่วยอุดหนุนให้มีลูกผูกวิญญา

** ครั้นวันหนึ่งมาถึงราษีเมษ
วันเกิดเหตุนางสงกรานต์ผ่านมาหา
ท่านเศรษฐีตั้งใจดั้นด้นมา
ยังต้นไทรใบหนาเพื่ออ้อนวอน

** ตั้งสัตยาธิษฐานบนบานกล่าว
ขอลูกชายลูกสาวเป็นอนุสรณ์
โปรดจงได้เมตตาอย่าตัดรอน
ประสาทพรได้ดังหวังตั้งใจเทอญ

** รุกขเทวดาสงสารจัดการให้
เฝ้าพระอินทร์ทันใดน่าสรรเสริญ
อ้อนวอนช่วยเมตตาอย่าหมางเมิน
ได้อัญเชิญเทพบุตรรีบรุดไป

** ฝ่ายพระอินทร์มอบหมายให้ธรรมบาล
ปฏิสนธิตามกาลไม่หวั่นไหว
ภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ดังตั้งใจ
เศรษฐีใหญ่มีความสุขทุกวันคืน

** เมื่อวันเดือนเคลื่อนไปไม่นานนัก
ถึงวาระคลอดลูกรักสุดจักฝืน
เป็นผู้ชายหน้าตาดีมิกล้ำกลืน
เฝ้าเชยชื่นดูแลไม่ห่างไกล

** ตั้งชื่อว่า “ธรรมบาลกุมาร” น้อย
แล้วจึงค่อยสอนสั่งดังฝันใฝ่
และศึกษาวิชาการควบคู่ไป
เล่าเรียนไตรเภทจบครบตำรา

** เป็นอาจารย์บอกมงคลมนต์ทั้งหลาย
มีชื่อเสียงกระจายไกลนักหนา
ได้เรียนรู้ภาษานกอีกวิชา
จนเก่งกล้าฟังนกพูดก็เข้าใจ

** มาวันหนึ่งกบิลพรหมอยากรู้ว่า
ธรรมบาลตอบปัญหาเขาได้ไหม
จึงรีบมาซักถามโดยเร็วไว
ตั้งเงื่อนไขถ้าแพ้ต้องตัดคอ

** ถ้าตอบได้จะตัดเศียรของตัวเอง
ไม่ยำเกรงตั้งคำถามมาสามข้อ
ตอนเช้าศรีอยู่ไหนอย่ารีรอ
อีกหนึ่งข้อตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ใด

** เวลาเย็นจงบอกมาอยากจะรู้
ว่าศรีอยู่ตรงแห่งตำแหน่งไหน
จะตอบได้หรือเปล่าว่าอย่างไร
จะตั้งใจคอยฟังดังบรรยาย

** ธรรมบาลครั้นได้ฟังต้องนั่งนิ่ง
ทุกทุกสิ่งที่ถามมาพาใจหาย
พูดไม่ออกบอกถูกยิ่งวุ่นวาย
ตอนสุดท้ายขอผ่อนผันวันต่อไป

** ขอเวลาเจ็ดวันดังมั่นหมาย
จะมีคำอธิบายไม่เหลวไหล
ผิดคำพูดจงตัดคออย่าเกรงใจ
เป็นสัญญาว่าไม่หลอกลวงกัน

** ครั้นเวลาผ่านไปวันที่หก
คิดไม่ตกจะตอบได้อย่างไรนั่น
จึงเข้าป่าคิดฆ่าตัวตายพลัน
ดีกว่าให้เขานั้นมาบั่นคอ

** เป็นโชคดีที่ไม่ถึงชะตาขาด
เรื่องเกินคาดนกไพรคุยเสียงจ้อ
ตัวผู้บอกตัวเมียเฝ้าเคลียคลอ
พรุ่งนี้หนอธรรมบาลจะต้องตาย

** นกตัวเมีถามว่าทำไมหรือ
ต้องสิ้นชื่อเพราะอะไรน่าใจหาย
นกตัวผู้พูดว่าน่าเสียดาย
ต้องวอดวายคราวนี้มิเปลี่ยนแปลง

** กบิลพหรมถามปัญหาว่าด้วยศรี
ของคนนี้อยู่ที่ไหนจงแถลง
ถ้าหากรู้จงได้รีบชี้แจง
ธรรมบาลครางแคลงสุดร้าวรอน

** นกตัวเมียถามว่าตอบอย่างไร
นกตัวผู้ตอบไปไม่หลอกหลอน
ตอนเช้าศรีอยู่ที่หน้าอย่าอาวรณ์
ตอนเที่ยงจรอยู่ที่อกยกย้ายไป

** ครั้นตอนเย็นศรีนั้นอยู่ที่เท้า
ดังที่ข้าได้เล่าเข้าใจไหม
ธรรมบาลได้คำตอบจากนกไพร
คุยกันไปเหมือนบอกกล่าวเล่าให้ฟัง 

** รีบกลับบ้านทันทีมิรอช้า
ดีใจว่าครั้งนี้มีความหวัง
เราพร้อมตอบปัญหาอย่างจริงจัง
ความผิดหวังตกที่กบิลพรหม

** ถึงกำหนดท้าวเธอรีบมาหา
เจรจาให้ตอบอย่างเหมาะสม
ทั้งสามข้ออย่าให้รอเพียงลมลม
มีคำคมรีบเอ่ยมาช้าอยู่ใย

** ธรรมบาลรีบตอบว่าชอบมาก
ตอบคำถามที่รู้จากนกขานไข
กบิลพรหมสะดุ้งในทันใด
ฝืนบอกไปเราจะตายตามสัญญา

** แต่ด้วยเหตุศีรษะกบิลพรหม
จะทำให้ล่มจมเกิดปัญหา
ตกที่ไหนจะวอดวายอัปรา
ตกบนฟ้าฝนจะแล้งแห้งเหือดตาย

**ตกบนดินไฟจะไหม้หมดทั้งโลก
วิปโยคโลกร้อนน่าใจหาย
ตกในน้ำน้ำแห้งจนวอดวาย
สิ้นสลายจากสมุทรสุดตรอมตรม

** จึงมอบหมายให้เจ็ดพระธิดา
นำพานมารองรับให้เหมาะสม
เสร็จแล้วเชิญพระเศียรเวียนวงกลม
แห่รอบรอบพนมเพื่อทดแทน

** เก็บในถ้ำคันธชุลีที่ภูเขา
ครบรอบปีนำเอามาแห่แหน
รอบเขาพระสุเมรุถือเป็นแกน
ดุจเฉกเช่นเมืองแมนทุกปีเลย

** เจ็ดองค์พระธิดาที่กล่าวขาน
ก็คือนางสงกรานต์ใคร่เฉลย
เป็นตำนานกล่าวมาอย่าอย่าเฉยเมย
ขอภิเปรยบอกกล่าวไว้เล่ากัน

** พระธิดาทั้งเจ็ดแบ่งหน้าที่
เมื่อครบรอบของปีตามลดหลั่น
ถ้ามหาสงกรานต์ตรงวันจันทร์
“โคราคะ” จอมขวัญเป็นผู้นำ

** วันอังคารคนดีมีศรีศักดิ์
ให้ “รากษส” นงลักษณ์ผู้งามขำ
เป็นวันพุธ “มณฑา” มาประจำ
พฤหัสเลิศล้ำ ”กิริณี”

** “กิมิทา” รู้รอบชอบวันศุกร์
พาแห่แหนสนุกสมศักดิ์ศรี
ถ้าวันเสาร์ “มโหธร” ยอดนารี
เป็นผู้ที่นำขบวนชวนให้ชม

** วันอาทิตย์โฉมงามนาม “ทุงษะ”
ไม่ลดละทำหน้าที่ดีเหมาะสม
ทั้งหมดนี้พระธิดากบิลพรหม
ต่างชื่นชมด้วยเห็นเป็นสำคัญ

** ประเพณีสงกรานต์งานเดือนห้า
ทั่วโลกาสนใจต่างใฝ่ฝัน
มาเล่นน้ำดำหัวผูกสัมพันธ์
ร่วมสร้างสรรค์คุณค่าสถาพร

** กิจกรรมดีดีมีหลากหลาย
ขอนำมาขยายมิใช่สอน
เพื่อเป็นการสืบต่อด้วยอาทร
ขออ้อนวอนเสริมสร้างอย่างยั่งยืน

** กิจกรรมที่หนึ่งพึงประกาศ
คือทำบุญตักบาตรจะสดชื่น
มีความสุขไร้ทุกข์ทุกวันคืน
สุขใดอื่นจะเปรียบปานการทำบุญ

** กิจกรรมที่สองไม่ลดละ
เป็นการสรงน้ำพระไม่ว้าวุ่น
เพื่อบูชารำลึกนึกถึงคุณ
พุทธองค์ทรงค้ำจุนโลกร่มเย็น

** กิจกรรมสามการก่อเจดีย์ทราย
อานิสงส์มากมายยกให้เห็น
จะพ้นจากอบายไม่ลำเค็ญ
ไม่ยากเข็ญมีทรัพย์นับอนันต์

** สี่ปล่อยนกปล่อยปลาด้วยสงสาร
อายุยืนยาวนานมีสุขสันต์
เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยเรื่องสำคัญ
จะหายพลันแสนดีไม่มีภัย

** ห้ารดน้ำผู้ใหญ่ไม่ควรเว้น
เพราะถือเป็นมงคลอภิสมัย
จะทำให้เรานี้มีโชคชัย
มอบมาลัยบูชาค่าความดี

** หกทำบุญอัฐิบรรพบุรุษ
ดีที่สุดประเสริฐเลิศดิถี
เป็นคนกตัญญูกตเวที
ธรรมข้อนี้มีไว้ให้โลกงาม

** มาเถิดหนามาช่วยกันอนุรักษ์
เพื่อประจักษ์แน่แท้แก่โลกสาม
ส่งเสริมให้ฟูเฟื่องเลื่องลือนาม
ประเพณีเมืองสยามสวยงามจริง

สมพงศ์ ชูสุวรรณ


add complete
by Klonthaiclub fb
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s