เพลงยาวรำลึกถึงท่านสุนทรภู่
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 เมษายน 2024, 04:05:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพลงยาวรำลึกถึงท่านสุนทรภู่  (อ่าน 2735 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
27 มิถุนายน 2012, 12:05:AM
น.ปฎิพน
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 97
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82



เว็บไซต์
« เมื่อ: 27 มิถุนายน 2012, 12:05:AM »
ชุมชนชุมชน




                      ๏ จะขอกล่าวคำกลอนอักษรสมัย

เป็นคารมคมชัดประหวัดใจ.......................เชลงไว้สดุดีมีประมาณ

๏ ยี่สิบหกมิถุนาฯมาบรรจบ..................กำหนดครบจบรอบกรอบสถาน
  
สุนทรภู่ครูกวีศรีสังวาลย์.......................ศาสตราจารย์กานท์กลอนอักษรไทย

๏ งานประดิษฐ์คิดอักษรกลอนลึกซึ้ง..........ช่างน่าทึ่งเทียวหนาอย่าสงสัย
  
ทั้งคำคมคำเพราะเสนาะใจ.....................โอ้ว่าใครอ่านแล้วย่อมแคล้วตาม

๏ หากสดับซึ่งนิทานงานนิราศ..................เขาประกาศทั่วกันฉันสยาม

ซึ่งหน่อพระอภัยฯใจงดงาม..................... ทุกเขตคามรู้จักทั่วทุกตัวคน
  
๏ จะหาใครไม่รู้ดูเอาเถิด....................... เว้นแต่เกิดชนบทจรดฝน

คำพูดที่ติดปากจากบุคคล....................... ล้วนจากมนต์ร่ายไว้ในกาพย์กลอน
  
๏ ในนิราศรำพันช่างฝันถึง........................โอ้ลึกซึ้งเทียวหนาหน้าอักษร

ถึงคนรักพลัดพรากจำจากจร..................... แต่ปางก่อนมีกรรมจำต้องไป
  
๏ โอ้เขนยเคยแอบเคยแนบชิด................... เคยจุมพิตพักตร์น้องละอองไหน

ยี่ภู่เอ๋ยเคยแอบแนบหทัย......................... บัดนี้ไกลกลอยสวาทเพราะคลาดคลา

๏ คิดถึงน้องหมองเศร้าให้เปล่าเปลี่ยว........... ห้อยละเหี่ยวเหมือนนกตกเวหา

ประดุจพรากสุริยันพระจันทรา...................... อนิจจาบุญน้อยพลอยลำเค็ญ

๏ ซึ่งกล่าวนี้ตัวอย่างจากทางศิลป์................... ให้ยลยินเผื่อใครจะไม่เห็น

กระบวนกลอนประโลมใจให้เยือกเย็น................. เราแต่งเป็นเลียนแบบทำแนบเคียง
  
๏ มิพิเราะดุจเดิมท่านเสริมสร้าง...................... ด้วยอ่อนทางคำศัพท์สดับเสียง

ได้โปรดช่วยกรุณามาเรียบเรียง....................... ทำสำเนียงให้เพราะเสนาะกรรณ

๏ จะขอกล่าวต่อไปในอักษร........................... ถึงคำกลอนกาพย์พามหาศวรรย์
  
สุนทรภู่ครูกวีศรีสุบรรณ................................ ทำหมื่นพันกวีไทยให้บรรจง

๏ หากเชลงเพลงยาวสกาวจิต......................... ขอให้ชิดสัมผัสในใจประสงค์
  
ด้วยกวีก่อนเก่าเขาไม่ลง................................ เสนาะคงสูญไปในพริบตา
  
๏ ท่านริเริ่มเสริมสร้างทางสัมผัส...................... กระบวนทัศน์์กลอนใหม่ในภาษา

เป็นกลอนกลมนต์เวทย์วิเศษมา........................ นึกแล้วน่าชื่นชมคารมพร

๏ จะขอกล่าวต่อไปในบัดนี้........................... ให้สุดที่เรียงความตามอักษร
  
อีกอย่างหนึ่งซึ่งติดสนิทกลอน........................... รสบวรภาษิตสนิทใจ

๏ หวังผู้อ่านสำเหนียกเพรียกในจิต...................... คำบัณฑิตรจนาอัชฌาศัย

ผู้ประพฤติตามคำตำรับนัย..............................   บรรลุไซร้สวัสดีทุกที่นา

๏ อนึ่งผู้พจน์ดีเป็นศรีศักดิ์..............................   คนย่อมรักทุกชาติภาษภาษา

ประดุจแม้นพจมานลานผกา...............................  กุสุมาประยงค์พงศ์โภคิน

๏ อันความรู้วิทยาวิชานับ.............................   ประดุจทรัพย์หมื่นแสนไม่แม้นสิ้น

อาจจะชักเชิดชูฟูชีวิน.................................   ทั่วแผ่นดินพสุธาพานิยม

๏ เอกอาภรณ์ประจำกายทั้งหลายแล้ว...............  อย่าให้แคล้วหมั่นศึกษาพาประสม

รู้วิชาพาวิเศษเดชอุดม...............................  ผิจะข่มรักษ์ตัวไว้เป็นไม่มี

๏ เป็นคำสุภาษิตประดิษฐ์ถ้อย......................   ถึงหลายร้อยศกผ่านกาลฉวี

ผองเหล่าไทยจดคำจำไว้ดี........................    ด้วยสมที่วรรคทองครรลองกลอน

๏ อัญขยมกล่าวคำลำนำพจน์......................  แต่ละบทบรรจงลงอักษร

ไว้แต่คราววัยดรุณได้สุนทร .......................   หวังขจรเกียรติกวีศรีโลกา

๏ สรุปมธุสรไว้ในวันนี้.......................   หากแม้นมีโทษลบองของภาษา

ขอโกวิทโปรดอภัยไว้เถิดมา.......................   แก่ตัวข้าฯผู้เยาว์อ่อนเบาความ

๏ ขอวิญญาณท่านสุนทรอักษรแพร้ว................ กวีแก้วแห่งโลกานาสยาม

โปรดประทานพรเลิศประเสริฐนาม.................. สุพจน์ความแด่เมืองไทยในคดี

๏ ขอวงศ์วานแห่งกวินท์จินต์พิสิฐ.................  จักสถิตพูนเพริศประเสริฐศรี

สืบพราวพรายผกายรสบทกวี......................ตราบสุรีย์ส่องสว่างกลางนภา

๏ จวบนิรันดร์ผันแปรให้แท้เที่ยง...................... ประดุจเพียงสัจจังทั้งเวหา

ตามฤทัยในพจน์บทวาจา..............................แห่งตูข้าฯผู้เชลงเพลงนี้เอย ฯ




 เคารพรัก  เคารพรัก  เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : blackbear, กาแฟดำ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, อริญชย์, ไร้นวล^^, sunthornvit, พี.พูนสุข, พ่อค้าพเนจร, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐ กรองฉันท์สวรรค์พจนะร้อย.......กวะถ้อยบวรมี
รสซึ้งประหนึ่งทิพะฉวี...............จะพิเลปน์ประโลมมาน ฯ
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s