ประกวดแต่งกลอนประจำเดือน มิถุนายน ๒๕๕๔ - เวลาไม่หวนคืน - (สิ้นสุดการประกวด)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 เมษายน 2024, 12:50:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประกวดแต่งกลอนประจำเดือน มิถุนายน ๒๕๕๔ - เวลาไม่หวนคืน - (สิ้นสุดการประกวด)  (อ่าน 39987 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
26 มิถุนายน 2011, 11:11:AM
โบ้ พรหมราช
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 26
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 42



phathanphirun @phathanbow
« ตอบ #20 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2011, 11:11:AM »
ชุมชนชุมชน

กงล้อเปลี่ยนเวียนหมุนพลุนพลันแล่น      จะเปลี่ยนแกนหมุนต่อก็พอไหว
แต่ว่ารักภักดีที่จริงใจ         คงจะไม่สามารถจะเปลี่ยนเฟือง
ในวันนั้นฉันเสนอให้เธอรัก         เธอกลับหักไม่ยินดีในทุกเรื่อง
แววตาใสหยาดฟ้ามาขุ่นเคือง      แสงเรืองเรืองจากตาอาฆาตกัน
ฉันคุกเข่าเฝ้าร้องให้เธอรัก         เธอกลับผลักใสไล่ส่งจิตคงสัญ
หยาดน้ำตาพร่าพร่างในตากัน      แสงนิรันดร์หายไปในบัดดล
ฉันก็เฝ้าบำรุงผดุงรัก         หวังจะพักกายาที่สับสน
กับดวงแก้วมณีศรีสกล         หวังนำพลฝากไว้ให้กานดา
สี่พรรษามาถึงรำพึงรัก         เพียงสลักมอบรักเสน่หา
มาวันที่สิบสี่มิถุนา            ดวงแก้วตาถูกชิงต้องทิ้งไป
จึงหวังเพียงที่ว่างให้คอยห่วง         มองดูดวงแก้วตามายิ้มให้
จึงหวังเพียงแค่รักสุดดวงใจ         จึงหวังให้สมหวังดั่งใจปอง
[/b]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : นพตุลาทิตย์, ฉันเอง, รพีกาญจน์, สะเลเต, กาญจนธโร, --ณัชชา--, เอ๊พ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หมื่นล้านบทกวีที่เลยผ่าน มันกลั่นออกมาจากใจ จึงทำให้มันยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยใจที่อยากให้ "กลอนไทยจงรุ่งเรือง"
27 มิถุนายน 2011, 02:38:PM
ก.กฤษฎา
LV1 เด็กน้อยอ่านกลอน
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2



« ตอบ #21 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2011, 02:38:PM »
ชุมชนชุมชน

ครั้นเผลอพลั้ง ทำผิด แล้วคิดได้..........ก็ไม่อาจ กลับไป ไขปัญหา

มีแต่ทุกข์ ไม่มีสุข อยู่เรื่อยมา..........เพราะเวลา ไม่หวนกลับ ให้ปรับตน

แต่เวลาก็เป็นยาอันดีเลิศ.........ลบความหลังที่ก่อเกิดความสับสน
 
ใช้เวลาเยียวยาหัวใจคน............ให้หลุดพ้นความทุกข์  ...สุขนิรันทร์..
หลับดีกว่า ตรู หลับดีกว่า ตรู เต้นบัลเลย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, กาญจนธโร, รพีกาญจน์, --ณัชชา--, เอ๊พ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มิถุนายน 2011, 03:39:PM
sitang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 129



« ตอบ #22 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2011, 03:39:PM »
ชุมชนชุมชน

ชื่อบทกลอน ผ่านไปแล้ว
ชื่อผู้แต่ง     สิตางศุ์

๐จักรกาลวานล่วงพ้น            วันคืน
นานเนิ่นล้มลุกยืน                    ใช่น้อย
สุขทุกข์ท่านหยิบยื่น                 ไว้แด่   หทัยเอย
ถามไถ่หลายคำถ้อย                  บ่รู้สักครา
๐กนมรคาเปลี่ยวร้าง                  มืดมิด
ฤๅสว่างเพียงชั่วคิด                  อย่าแจ้ง
วานบอกกล่าวเรือนจิต               วิปริตว่า
ก้าวย่ำบาดเจ็บแย้ง                   อยู่ย้ำตำอุรา
๐หาหวนวันเปลี่ยนย้อน           สักนาที
พึงอย่าหวังได้มี                   แต่ครั้ง
แล้วเลยผ่านทั้งโลกีย์             สนิทล่วง
หมุนเผื่อล้อบ่รั้ง                    ไป่ย้อนวังวน
๐เปรมจิตกมลแด่ผู้              พึงฤดี
เรื่องเก่าเคล้าวจี                 ชื่นช้า
จดจำร่ำโกฏิปี                    มีเบื่อ   ฤๅฟัง
ให้ผ่านเกียรติเชิดหน้า           หยั่งไว้ในวาร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, --ณัชชา--, เอ๊พ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, กาญจนธโร, เมฆา..., พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มิถุนายน 2011, 08:16:PM
สล่าผิน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 532
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,034



« ตอบ #23 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2011, 08:16:PM »
ชุมชนชุมชน

ชื่อบทกลอน.. เสียดายเวลา..ไม่ได้บอกรักเธอ

ชื่อผู้แต่ง ..สล่าผิน



เริ่มแรกฉันมั่นใจในเราสอง
ว่าจักครองคู่ไปได้นานแสน
เป็นคู่แท้แน่นอนไม่คลอนแคลน
คู่เหนียวแน่นแฟ้นยิ่งไม่ทิ้งกัน

ถึงได้ปล่อยคอยท่าเวลาผ่าน
ให้เนิ่นนานกาลเคลื่อนให้เลื่อนผัน
มิได้บอกออกปากฝากรำพัน
คำสำคัญฉันเชื่อเหลือเวลา

มัวคิดเชื่อเหลือวันฉันจะบอก
คำ"รัก"ออกบอกไปได้แต่ท่า
เธอยอมแพ้แลท้อที่รอมา
จึงหนีหน้าลาไปไม่กลับคืน

รู้ตัวได้ในวันที่มันสาย
คนข้างกายบ่ายหน้าหาคนอื่น
ฉันจึงหม่นทนหมองต้องกล้ำกลืน
ต้องสะอื้นขื่นใจที่ไร้เธอ

คงเหลือสิทธิ์คิดไว้อยากได้บอก
คำ"รัก"ออกผ่านฟ้ามาเสนอ
หากว่าบุญหนุ่นให้ได้พบเจอ
จะรีบเพ้อบอก"รัก"ไปสักคำ

อยากคิดย้อนอ้อนออดกอดเธอไว้
เพื่อเธอได้ใจรื่นและชื่นฉ่ำ
บอก"รัก"ไปให้คงความทรงจำ
จะไม่ทำเธอปวดรวดร้าวใจ

รู้ดี มิมีวันเธอหันกลับ
ต้องยอมรับกับหมองจิตร้องไห้
ทรมานการพรากเธอจากไป
รักษาเธอไม่ได้ปวดใจจัง

เกลียดตัวเองเก่งแต่แค่สร้างสรร
รักสำคัญมากล้นมีมนต์ขลัง
มิเคยบอกออกไปให้เธอฟัง
ต้องมานั่งคลั่งบ้าคราสายไป

มิลืมพจน์จดจำคำว่าสาย
เธอแหนงหน่ายหายหน้ามิมาใกล้
เมื่อเคียงคู่รู้ว่าชะล่าใจ
เวลาไม่หวนคืนให้ชื่นทรวง


สล่าผิน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : --ณัชชา--, เอ๊พ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, รพีกาญจน์, กาญจนธโร, เมฆา..., พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชายใจคอนโด
29 มิถุนายน 2011, 08:20:PM
เอ๊พ
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 82
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 157



« ตอบ #24 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2011, 08:20:PM »
ชุมชนชุมชน


ชื่อบทกลอน : เวลาไม่หวนคืน…ให้ทดแทนคุณ
ชื่อผู้แต่ง      : ape

มองภาพพิมพ์ลิ้มนวลหวนไห้
อารมณ์ในอ้างว้างห่างหาย
นัยน์ตาหม่นปนเปื้อนเกลื่อนกลาย
ปริ่มน้ำสายพร่ำพร่าล้าแรง

มิอาจหมุนทวนวันเวลากลับ
หรือถอยนับนาทีที่มีแสง
มิอาจนำค่าพระคุณหนุนแสดง
คณานันท์เกินแจงทุกแหล่งมวล

มิทันจรดประณตบทศรี
บาททวีคร่ำกร่ำช่ำสงวน
เพียงลาน้ำพรมร่ำปะแป้งนวล
น้อมรับสัตย์คำทวนจำนรรจา

‘บวชให้แม่สักหนเถิดนะลูก’
เถ้ากระดูกของแม่ไม่ห่วงหา
เห็นเจ้าครองผ้าเหลืองเดินบาตรมา
ก็ปลื้มค่าคำบ่มสมครรลอง

ครบลาสึกกลับมาเพื่อฟูมฟัก
หวังคืนรักคุณแม่แลถ้วนผอง
มิอาจทันคืนพระคุณเกื้อหนุนนอง
แม่ผูกจองลาขาดด่วนจากพลัน

ไปกับยิ้มฝนพรำค่ำคืนหนอ
มิได้พ้อต่อว่าทนนานขันธ์
ก่อนยิ้มหัวหยอกล้อลูกสาวกัน
หวังรับขวัญบุตรสึกคึกคักดี

ยิ้มลาลับหน้าอมชมพูผ่อง
คลอเพลงร้องเพื่อนรักพ่อมิ่งศรี
พ่อของลูกลงมารับแม่วดี
ตรงนาทีที่สมรสครบมงคล
 ยิ้มกวน ล่อกๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...สียะตรา.., ยามพระอาทิตย์อัสดง, สะเลเต, รพีกาญจน์, นพตุลาทิตย์, กาญจนธโร, เมฆา..., พี.พูนสุข, คนเผาถ่าน

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มิถุนายน 2011, 05:17:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #25 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2011, 05:17:PM »
ชุมชนชุมชน


ขอขอบคุณภาพประกอบงามงามจากอินเตอร์เน็ต..และผู้แนะนำเป็นอย่างสูงครับ




ชื่อบทกลอน : เวลาไม่หวนคืน…( อัคคีสีคราม )
ชื่อผู้แต่ง      : เมฆา...


อัคคีสีคราม

๐ อสุนี...ซ่อนเร้นรอเข่นเขี้ยว
เหนือเมฆเกลียวกลมกลืนผืนเวหา
คอยจังหวะ..ประจุพลุเวลา
ฟาดฤทธา..ทรนง..ลงไพรินทร์...

๐ อำพรางศักดิ์..แลสิทธิ์บนทิศสูง
วิหคยูง..ผวาย่ำเข้าถ้ำหิน
หวั่นอัคคี..สีโขมดพิโรธกิน
และกสิณ..ลาวา..มิปราณี..

๐ ลุกเป็นไฟ ..เผาฟุ้ง..พุ่งทั่วทิศ..
อัครมิตร..รวมองค์..ตรงข่มขี่
พสุธา..ท่วมท้นกลราคี
ประดามี..สรรพสัตว์..สงัดลง

๐ ท่ามกระหน่ำ..กรรมโศก..กรรโชกทรุด
หนึ่งมหา..บุรุษ..วิสุทธิ์สงฆ์
ปรากฎกาย..กรายย่าง..ระหว่างดง
มุ่งประสงค์..ดับสี..อัคคีเพลิง

๐ หมุนคำนวณ..มวลฟ้า..วิชาธาตุ
ย้อนอากาศดับคุ....ประจุเหลิง
สกัดฤทธิ์..พิษเร้น..เข่นกระเจิง
ตัวระเริง...อสุนี..ผู้มีนัย....

๐ แล้วบุรุษ..ผุดผาด...วาสนา
แผ่บุญญา..ดับดัก..อัคคีไหว
เปลี่ยนเปลวโชน..โชติชัน..ในทันใด..
เป็นเปลวไฟ...สีคราม...อร่ามเรือง...

นั่นคือหนึ่ง...จินตนา..ภาษาเขียน
แปรปรับเปลี่ยน..เวียนแปลง..สำแดงเรื่อง
แต่..ในโลก..ความจริง..ยิ่งหมุนเปลือง
เพราะต่อเนื่อง...เกินทวน..หวนกลับคืน....



***เมฆา...***




เรียนเชิญ..ทุกๆท่านส่งกลอนเข้าร่วมประกวดเดือนนี้กันเยอะๆครับ
กองประกวด..จะได้คึกคึกคักคักกันยิ่งขึ้นอีกน่ะครับ
เหลือเพลาไม่กี่ชั่วโมงแล้วหนา...มั่วช้าอยู่ไย..อิอิ


 ยิ้มให้จ้ะ ยิ้มให้จ้ะ ยิ้มให้จ้ะ ยิ้มให้จ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บอม ซอง ดุ๊ก, เอ๊พ, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, คนเผาถ่าน, กาญจนธโร, บ้านริมโขง, นพตุลาทิตย์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s