Re: หลับฝันดี
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
13 มิถุนายน 2024, 07:13:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: หลับฝันดี  (อ่าน 23516 ครั้ง)
deja
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 79


http://book.truelife.com/publisher/เดชา-เวชชพิพัฒน


« เมื่อ: 17 เมษายน 2010, 01:09:PM »

"หลับฝันดี" มีทั้งหมด ๓๙ บทครับ

๒๗. ฉีกตำรา

ถูกสอนมาตำราคุณค่าล้ำ
ชี้ถูกนำแนวคิดภาษิตเผย
อย่าหัวล้านอกครูสั่งดังพังเพย
คำเปรียบเปรยน่ากลัวหัวโล่งเตียน
เปิดตำราครั้งใดได้ง่วงงุน
หัวมึนหมุนอักษรตามสอนเขียน
บอกอย่างนั้นแนะอย่างนี้วกวนเวียน
คนอ่านเลี่ยนเอียนคัมภีร์ไม่มีแปลง
ยิ่งคนสอนอ่อนตามแบบเรียนบอก
ยิ่งกรนครอกออกลายเบื่อหน่ายแหนง
วิชาหลับหลักสูตรเลี่ยนเรียนเทศน์แจง
ขาดผาดแผลงสำแดงฤทธิ์ให้คิดตาม
ตำราคือตำนานฐานความคิด
ตำแหน่งติดลมบนพ้นคำถาม
ตำหนิติเตียนไปอาจไม่งาม
แต่ตำความต้องตำแตกเพื่อแยกเจอ
ตำราครูมีไว้ใช้อิงอ้าง
แค่แนวทางสอนสั่งไม่พลั้งเผลอ
แต่ตำราสูญเดี้ยงเพียงเผอเรอ
ตีเสมอเป็นหลักยึดฮึดติดตาย
ตำราแค่แหย่ยั่วหัวสมอง
ให้ไตร่ตรองข้องใจใฝ่ขวนขวาย
ก่อนจะฉีกตำราบ้าบรรยาย
มุ่งขยายปัญญาท้าเรื่องจริง

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๒๘. ถอดหัวโขน

เด็กทารกเกิดใหม่หัวใสเหน่ง
แหกปากเปล่งเพลงอ้อนนอนแบหลา
บริสุทธิ์มนุษย์เอี่ยมเตรียมตัวมา
เที่ยวโลกาล่าชีวิตไม่ติดแนว
บ้างกำเนิดครอบครัวไม่มั่วหลง
ไม่ติดพงศ์เทือกเถาเผ่าเชื้อแถว
บ้างสูติอภิชนคนเพริศแพรว
ไม่คลาดแคล้วดุจแก้วล้ำประจำเครือ
จึงมุ่งมาดคาดหวังให้ล้ำเลิศ
ล่วงละเมิดชีวิตอื่นสุดฝืนเหลือ
ลบหลู่หมิ่นกินสรรค์สร้างจนจางเจือ   
สร้างเป็นเรือลำใหญ่ไร้ใบลม
เรือใหญ่ลอยล่องไปไร้แรงขับ
สวะนับเรียกคำน้ำเนื้อสม
ไร้มุ่งมาดขาดวาดหวังพลังอุดม
ไม่คว่ำจมไม่แล่นฉิวไม่พลิ้วงาม
เจ้าหัวโขนหัวขโมยวิญญาณจิต
ดุจรอนลิดรากใจไม้คำถาม
ทุกรายต้องตอบป้อนก่อนตายตาม
ว่านิยามชีวิตเจ้าเป้าหมายใด
ถอดหัวโขนใส่หัวใจให้เด็กแทน
เพื่อสร้างแกนขับเคลื่อนไร้เงื่อนไข
อย่ากำหนดกฎชีวิตกฎบิดใจ
อย่าเปลี่ยนวัยค้นทางสร้างตนเอง
               
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๒๙. พืชติดดิน

ตะไคร่น้ำล้ำเลิศด้วยเกิดง่าย
ดินหินทรายขยายแพร่แลกว้างขวาง
บนเปลือกไม้สายน้ำขึ้นฉ่ำทาง
ไม่เว้นว่างเขียวพรืดพืชติดดิน   
   พสุธาเย็นนุ่มชุ่มชื้นชื่น
ทุกวันคืนสัมผัสได้ไอถวิล
ธรณีที่กำเนิดเกิดชีวิน
จนดับดิ้นสิ้นลับจึงกลับคืน      
   มนุษย์เป็นเฉกเช่นตะไคร่น้ำ
ชอบชื้นฉ่ำจำอยู่คู่แผ่นผืน
พสุธาพร้อมพรั่งแดนยั่งยืน
เหมาะกลมกลืนพื้นฐานบ้านเกิดคน
   พืชติดดินอย่าผินหลังให้แผ่นภพ
หลีกเลี่ยงหลบปฐพีที่กุศล
อย่าห่างน้ำห่างชื้นคลื่นสายชล
จะทุรนจนยากแห้งผากตาย
   อยู่กับแห่งแหล่งอุบัติสวัสดิ์เรือง
ด้วยแน่นเนืองปัจจัยให้ขวนขวาย
เกิดที่ไหนโตที่นั่นจนบั้นปลาย
ตามสืบสายรายล้อมพร้อมจำเป็น
   อย่าเลื้อยเกินกำแพงแหล่งน้ำถึง
อย่าดื้อดึงก้าวผิดตามคิดเห็น
ลืมกำพืดธรรมชาติพลาดผิดเกณฑ์
สร้างกรรมเวรสิ่งแวดล้อมตรอมตรมโทรม

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๐. มีดภาวนา

ภาวนาพาเราหนีจากโลก
แดนเศร้าโศกผิดหวังตั้งใจหมาย
บางครั้งสวดวิงวอนอ้อนไม่อาย
โชคง่ายดายหวยเลขเสกให้ที
หลายครั้งขอต่อชีวิตใกล้ลิดรอน
ช่วยผันผ่อนวันตายจงหน่ายหนี
ปาฏิหาริย์วานไหว้ไว้ชีวี
ทุกอย่างมีถวายได้ให้หมดตัว
ทั้งเรื่องใหญ่เรื่องนิดอธิษฐาน
ตามสัญญาณนานเนื่องเรื่องฝังหัว
ทั้งเรื่องเปลืองเรื่องควรล้วนพันพัว
สมองมัวหัวซุนหนุนอัตตา
ภาวนาเหมือนมีดกรีดสองด้าน
รู้ใช้งานด้านคมข่มกังขา
เวลาท้อถอยใจไยเกิดมา
ซับน้ำตาอคติใจติเตียน
หากใช้ผิดด้านคมข่มความคิด
ปัญญาปิดสมองฝ่อรอเกษียณ
มือเท้าง่อยถอยถดหมดพากเพียร
วกวนเวียนวาดหวังดั่งบนบาน
มีดในมือถืออยู่ควรรู้ใช้
ยามอ่อนไหววอนเว้าทุกเจ้าศาล
ยามเข้มแข็งแรงมุ่งพุ่งทะยาน
ทิ้งกราบกรานไปตามฝันมุ่งมั่นใจ
               
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๑. ความว่างเปล่า

จงอย่ากลัวความว่างเปล่าเข้าครองจิต
เพราะคือมิตรแท้จริงกว่าสิ่งไหน
ผู้ชวนพบสงบนิ่งในฤทัย
พ้นเภทภัยใจรุ่มร้อนอ่อนฝึกปรือ
ความว่างเปล่าใช่เหงาหรือเศร้าสร้อย
คือวางปล่อยลอยเรื่องเปลืองยึดถือ
คือวางทิ้งสิ่งค่าล้ำตามคำลือ
ไม่ยึดยื้อตื้อตามกามต้องการ
ความว่างเปล่าใช่หนีจากผู้คน
หรือบวชตนห่มเหลืองเปลื้องสังขาร
แต่หลุดพ้นครอบครองของรำคาญ
หยุดเผาผลาญอารมณ์ร้อนรนใจ
ความว่างเปล่าสอนเราเรื่องการมี
ที่ยินดีเมื่อได้ของต้องนิสัย
แต่เศร้าโศกโลกสลดเมื่อหมดไป            
เป็นเงื่อนไขไสวดับกับเปรมปรีดิ์   
จงคบหาว่างเปล่าเป็นเงาตัว
ไปถ้วนทั่วพัวพันไม่หวั่นผี
ภูตยึดติดพิชิตได้ใจเสรี
ไร้พื้นที่ปีศาจหวงลวงจับจอง      
จงรับความว่างเปล่าเข้าชีวิต
จะรู้คิดรู้เล่นเป็นเจ้าของ               
มีโน่นนี่มีได้ด้วยไตร่ตรอง
ไม่ใฝ่ปองข้องอยู่ผู้ยึดกุม

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๒. หลืบชีวิต

ทุกชีวิตมีซอกหลืบคืบคลานหา
มุมลับตาลับล่อรอสนอง
เข้าขวนขวายทายท้าน่าลิ้มลอง
ลับสมองตามปัญญาประสามี
ทุกซอกหลืบคืบคลานเจือจานผล
ได้ผจญประสบการณ์ผ่านวิถี
คนครบคนคนทั่วทุกชั่วดี
เป็นภาษีเลิศล้ำกว่าตำรา
จงก้าวเท้าก้าวไปในซอกหลืบ
ทุกกระดืบสืบสาวเรื่องหรรษา
ทุกก้าวขั้นมั่นงามตามอัตตา
ทุกก้าวขาก้าวไปเชื่อใจตน
ทีละซอกทีละหลืบค่อยสืบหา
พบอาณาเขตประเสริฐเกิดกุศล
เดินเข้าสู่แบบฝึกหัดวัดอดทน
เรียนฝึกฝนด้นดั้นไม่หวั่นเกรง
อย่ากลัวมุมลับตาน่าสนเท่ห์
จงทุ่มเทเตร่ไปให้ถูกเผง
เข้าเหยียบมุมเมื่อไรได้ครื้นเครง
ประกายเปล่งเพ่งรู้ลึกหนาบาง
หลืบชีวิตปริศนาน่าหาค้น
ลูกล่อชนอุปสรรคคอยขัดขวาง
จากซอยเล็กซอยใหญ่ได้เจอทาง
ถนนกว้างอย่างที่ฝันมุ่งมั่นมา

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๓. บ้านในฝัน

อันนกน้อยทำรังแต่พอตัว
ด้วยเกรงกลัวเด่นไปใครมองเห็น
ศัตรูร้ายเฝ้ามองจ้องเช้าเย็น
ลูกน้อยเป็นอาหารหวานใจปอง
อันคนเราซื้อบ้านแต่พอมี
ด้วยปั่นที่ปั่นดินเป็นทองหยอง
แมวดิ้นตายแพงบ้ากว่าเพชรกอง
คนซื้อหมองแทบดับกับวิฬาร
นายทุนกว้านเก็บที่เก็งกำไร
หมู่บ้านใหญ่สมัยล้ำคำเรียกขาน
วิลล่าวิลล์วูบวาบทาบวิมาน
ราคาบานปานฟ้าสุขาวดี
สร้างชุมชนแบบอย่างอ้างฝรั่ง
ล้วนมีมั่งคนวิเศษชาติเศรษฐี
อยู่รวมกันฉันพี่น้องพ้องไมตรี
เลือกคลุกคลีที่เท่ากันฐานันดร
คนซื้อกว้านเก็บเงินเผชิญทุกข์
ทุบกระปุกเบิกเกินเงินฝากถอน
วางมัดจำค้ำประกันผันวงจร
หมุนเงินผ่อนป้อนวงการบ้านวงใน
บ้านในฝันอยู่ไกลกว่าความฝัน
ระดับชั้นคลาดเคลื่อนผิดเงื่อนไข
อยู่ห้องเช่าเข้านอนก่อนฟุ้งไป
เคหาใหม่เลือนรางกลางแสงจันทร์
               
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๔. แหกแหวกกฎ

มีบ้างไหมตำราหาตัวตน
ช่วยพบค้นหนทางสร้างสิ่งฝัน
รู้ต้องการทะยานไวได้เร็ววัน
เวลาผันหมุนไปไม่เสียดาย
ไม่มีหรอกตำราที่ว่านั่น
ต้องขยันหมั่นศึกษาหามุ่งหมาย
แฝงอยู่ในย่างก้าวท่าวท้าทาย
ที่กรุยกรายว่ายวนบนเส้นทาง
ต้องลองผิดลองถูกเป็นลูกไล่
ชีวิตใช้ไม่พักวางเว้นหัวหาง
เสี่ยงทุกช่องลองทุกบ่อยอย่าปล่อยวาง
ทำแบบร่างสร้างแผนผังสังกัดตน
ต้องกล้าแหกแหวกกฎปลดสั่งสอน
พรอมรให้มาอย่าสับสน
จากสวรรค์ปันให้ใช่จากคน
อย่าจำนนกลลวงบ่วงนิยม
ต้องอดทนล้มหลามเรื่องหยามจิต
จ้องพิชิตบ่อนทำลายพ่ายสุขสม
ทดสอบใจไหวหวั่นพรั่นดิ่งจม
อธิคมจะล้มไปด้วยโลเล
ตำราคนยากกว่าตำราอ่าน
พบผันผ่านมารขวางขัดปัดหักเห
ไม่พบเจอลิขิตพรหมสมคะเน
อีกพื้นเพตัวตนพ้นรู้ไป

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๕. คราบรู้สึก

ความรู้สึกก่อนเก่ากลิ่นเน่าเหม็น
ยังโดดเต้นเล่นหลอกหยอกเย้าหัว
ทั้งหัวจิตหัวสมองหม่นหมองมัว
ขาดเขลากลัวตัวเกร็งเคว้งคว้างลอย
เช่นเคยรักดักดานปานตาบอด
สมองวอดสติวายพ่ายถดถอย
ละเมอเพ้อเก้อหน้าบ้าเลื่อนลอย
ลืมวางปล่อยคอยเฝ้าหงอยเหงาซึม
หรือเคยเสียญาติมิตรคนชิดใกล้
ด่วนจากไปทิ้งเราเศร้าเคล้าขรึม
อีกทำผิดสนิทบาปหยาบแทรกซึม
ใจอึมครึมมืดมิดติดสันดอน
เฝ้าหายามาลบล้างรู้สึกเก่า
อารมณ์เฉาหายไปไม่หลอกหลอน
สะอาดเอี่ยมเปี่ยมล้นพ้นนิวรณ์
หยุดหวนย้อนเรื่องเก่าโง่เง่าเคย
ได้ยามาหนึ่งอย่างจะล้างขัด
คราบอึดอัดกำจัดสิ้นกลิ่นระเหย   
ไร้มลทินเปรอะเปื้อนคราบเหมือนเคย
ได้ชื่นเชยใจแจ่มแฉล้มงาม
แต่ยาล้างชำระใจไม่มีขาย   
เรื่องง่ายดายหายตามหนามบ่งหนาม
เพียงปลุกปลอบเปลี่ยนใจให้คึกคาม
เป็นยาปรามคราบรู้สึก   คึกคะนอง
               
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์

   
๓๖. รูกิเลส

เคยบ้างไหมจนปัญญาหาทางออก
ไร้ผู้บอกแนะนำคำแถลง
ไร้ญาติมิตรคิดคู่ผู้ชี้แจง
ปรับเปลี่ยนแปลงแบ่งทุกข์บรรเทาซา
เคยบ้างไหมจนใจไร้แรงเรี่ยว
หดห่อเหี่ยวเดียวดายขาดซ้ายขวา
หมดกำลังนั่งนิ่งนอนเฉยชา
ปล่อยเวลาผ่านไปไม่ไยดี
เมื่อจนมุมกุมขมับกับเรื่องทุกข์
สติสุกสดใสจึงหน่ายหนี
เคยรู้ทันปัญหาบรรดามี
กลับถูกตีเร้ารุมกลุ้มทยอย
เมื่อเวลาตัวตนจนมุมแต้ม
ควรยิ้มแย้มปลอบใจไม่ท้อถอย
ยามแยกเขี้ยวแสงชีวิตกะปริดปรอย
เพียงนิดน้อยฉายมาหาทางไป
ทางออกอยู่ที่เดียวกับทางเข้า
เรื่องรุมเร้าราวเตือนร้องเงื่อนไข
เผชิญหนักประจักษ์เศร้าจนเขลาใจ
เพราะเข้าในรูกิเลสเข้าเขตมาร
รูกิเลสเปรตเน่าเฝ้าเชิญชวน
ยุยั่วยวนชวนหลงผิดวิตถาร
ก้าวลงหลงโลภแค้นแดนวิกาล
ไม่ยากนานรู้หยุดคิดเข้าผิดรู

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๗. ตำราคน

มีลิ้นชักมากมายอยู่ในหัว
เรื่องส่วนตัวชั่วเจ็ดทีมีประสม
ที่ปิดตายให้วายดับนับนานนม
ขยาดชมเก็บไว้ไม่กล้าดู
เรื่องชีวีดีเจ็ดหนมีล้นหลาม
ที่งดงามนามเรืองเฟื่องฟูหรู
ชีวิตนี้เกิดมาเชิดหน้าชู
เป็นวิญญูช่วงหนึ่งน่าซึ้งใจ
ลิ้นชักเล็กใหญ่น้อยทยอยเก็บ
เรื่องขี้เล็บขี้ช้างด่างดำใส
เรื่องความลับงับงำอั้นอำไพ
บทเรียนใหญ่ให้ลูกหลานอ่านวิชา
เปิดลิ้นชักหยิบอุบัติเรื่องคัดสรร
เป็นของขวัญรุ่นใหม่ได้ศึกษา
เป็นข้อคิดทฤษฎีที่ผ่านมา
จากวาจาคนเพียรสังเวียนกรรม
อย่ามัวอายข้าวของที่ซ่อนซุก
ทั้งเรื่องทุกข์คอขาดพลาดถลำ
อีกเรื่องเลวหลงผิดคิดระยำ
หรือตกต่ำหยำเปเกเรกวน               
ทุกเรื่องมีบทเรียนเป็นเยี่ยงอย่าง
เพื่อก้าวย่างไม่พลาดผิดคิดขวายขวน
คนรุ่นใหม่เฝ้ารอขอชักชวน
อย่าสงวนของล้ำค่าตำราคน
               
ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์
   

๓๘. หนึ่งศรัทธา

ในโลกมีความเชื่ออยู่เหลือนับ
ทั้งลึกลับซับซ้อนซ่อนมิดชิด
อีกเผยแผ่แพร่หลายถ่ายความคิด
ล้วนเป็นมิตรจิตมนุษย์ฉุดพ้นเขลา
หนึ่งถิ่นฐานหนึ่งตำนานประสานใจ
รวมเลื่อมใสเป็นน้ำหนึ่งถึงเทือกเถา
ร่วมใจเดียวเหนียวแน่นแกนกล่อมเกลา
ปัญญาเชาวน์บรรเทาล้างทางอบาย
หนึ่งความเชื่อนับถือคือหนึ่งสิทธิ์
ไม่อาจบิดเบือนลบกลบเกลื่อนหาย
หนึ่งศรัทธาภาวนาค่ามากมาย
ยากทำลายสลายรักหักบูชา
โลกหมุนได้ด้วยแรงรักสักการะ
อุตสาหะสร้างสรรค์ขันอาสา
อุทิศตัวทุ่มใจใช้เมธา                  
พัฒนาหล้าสถานงานคั่งคับ
หนึ่งเลื่อมใสหนึ่งพลังสังเวยดาว
อยู่ยืนยาวก้าวหน้ามานานนับ
อาระยะขานกล่าวยาวกัลป์กัป
พรั่งพร้อมทรัพย์รูปนามธรรมล้ำเลิศใจ
หากขาดแรงสรรเสริญเพียงเกินหนึ่ง
พิฆาตถึงดวงดาวสกาวใส
หนึ่งความเชื่อเกื้อกูลหากสูญไป
ยุคจัญไรภัยเศร้าเข้าครอบครอง

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์


๓๙. สีชีวิต

สีชีวิตจืดเลือนเหมือนภาพเก่า
ด้วยรุมเร้าเคล้าคลุกทุกข์ปัญหา
ไปไม่ถึงที่ฝันดั้นด้นมา
โดนนินทาว่าไว้พวกใจจน
เข็นชีวิตผิดทางจนหางตก
เข้าร้างรกตกค้างทางสมผล
ไร้สรรเสริญเจริญศักดิ์ประจักษ์ตน
กลายเป็นคนจนปัญญาต่ำสามัญ
ชีวิตพลาดคาดผิดไม่ปิดจบ
ยังต้องรบพบตนจนดับขันธ์
ต่อกรสู้คำบาดมุ่งฟาดฟัน
จึงควรทันปั้นแต่งแต้มสีบัง
แต้มสีให้ชีวิตปิดคับใจ
ด้วยสีใหม่เข้มประดิษฐ์ช่วยปิดฝัง
ลบกลบเกลื่อนเลือนระแหงแจ้งพลัง
ปกปิดบังเนื้อเน่าเย้าหยามกัน
สีชีวิตเลือกได้ตามใจโปรด
มีประโยชน์โจทย์มุ่งบำรุงขวัญ
เฝ้าเฮฮา-หาเพื่อน-เบือนกดดัน
ฝึกชำนัญ-ทันสมัย-รู้ไตร่ตรอง
สีชีวิตประดิษฐ์ได้ด้วยใจกล้า
เห็นคุณค่าตัวตนไม่หม่นหมอง
เห็นคุณนามความดีเป็นสีทอง
แต้มมุมหมองพ้นมุมหม่นคนมุมตัน

ร้อยเรียงและถ่ายภาพโดย เดชา เวชชพิพัฒน์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s