
ลงเรือน้อยลอยวนบนน้ำเชี่ยว ฤดีเปลี่ยวเดียวดายคล้ายหวั่นไหว กลางสายชลหม่นหมองคล้องดวงใจ มองธารใสไหลหลั่งดั่งน้ำตา บนเรือลำร่ำเพียงเสียงพายจ้ำ ดังตอกย้ำสำนึกสะอึกหา กลางสายธารม่านเหงาเคล้าวิญญาณ์ กลางธาราหัวใจไม่ต่างกัน สอดสายตาตามฝั่งวังเวงจิต เมื่อหวนคิดความหลังครั้งสุขสันต์ เราสองคนล่องเรือเผื่อสัมพันธ์ บัดนี้นั้นไร้เงาเจ้ายุพิน เห็นน้ำใสไหลเย็นเป็นฟองคลื่น แทบสะอื้นยามแลกระแสสินธุ์ ทุกหยดหยาดน้ำใสที่ไหลริน คล้ายถวิลเพียงเธอชะเง้อคอย อยู่ไหนหนอทรามวัยโปรดได้กลับ พี่รอรับขวัญนางอย่างเหงาหงอย เพราะคิดถึงเกินไปใช่สำออย ฤาจะปล่อยพี่ตายไปพร้อมเรือ "มุนีน้อย" ![]() | ริมตลิ่งหญิงหนึ่งคะนึงเหงา ซึมซบเซาเศร้าแฝงตาแดงเรื่อ ขาดไออุ่นหนุนตักเคยพักเจือ นั่งมองเรือล่องไกลในวารี อนาถนักรักลาชะตาหนอ เจ็บเกินพอท้อใจไร้สุขี เศร้าเหงาหม่นทนหมองครองฤดี กว่าสิบปีที่พ้อ รอเธอมา ใต้ต้นไทรใบเรียวเขียวชอุ่ม ทนนั่งกลุ้มกุมขมับสลับท่า ยึดเอาเป็นที่หลักพักอุรา นั่งมองน้ำกับฟ้ารักษาจินต์ ตะวันพลบหลบต่ำใกล้ค่ำแล้ว เรือยังแจวพายจ้ำท่ามสายสินธุ์ เพียงชายเดียวเปลี่ยวดายคล้ายโรยริน มองจนชิน ลูกตา..อ๊า.า.หล่อจัง เรือลำน้อยลอยใกล้ยิ่งใจสั่น ชะรอยฉัน คราวนี้คงมีหวัง ได้คนปลอบเปรอจินต์หายภิณท์พัง โดดจากฝั่งลงน้ำ ซ่า.า.า.ต่อหน้าชาย "ดิน" ![]() |







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า