ว่าอันที่จริงแล้วผมไม่เคยเห็นอะไรถึงขนาดนั้น แต่โดยความเชื่อส่วนตัว....ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำกันได้จริงๆ(ในสมัยโบาณ
แต่ในสมัยนี้อาจจะยังมีคนทำกันได้อยู่...เพียงแต่เราจะรู้หรือไม่เท่านั้น)
เรื่องคุณไสย อำนาจลึกลับ เป็นเรื่องของอำนาจจิต+คาถาอาคม+การอาสัยอำนาจผี เป็นศาสตร์มืดที่ทำกันได้จริงในสมัยโบราณ
แทบไม่ต่างกับ คนที่เรียนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์แล้วสร้างไวรัสมาปล่อยกันในยุคสมัยนี้
ผู้จะเล่นทางศาสตร์ลึกลับ จะต้องฝึกสมาธิจนได้อุปจารสมาธิเป็นขั้นต่ำ+การไปเรียนคาถาอาคมหรือไปครอบครูจากคนที่เชียวชาญกว่า+การพึ่ง
พาอำนาจของจิตวิญญาณของคนที่ตายไป ก็อย่างที่เราเห็นเวลาเขามีพิธีทางไสยศาสตร์ทุกครั้งจะต้องมีเครื่องเซ่นไหว้นั่นแหละ นั่นคือ
ส่วนหนึ่งเป็นค่าวิชาสำหรับวิญญาณครูอาจารย์เจ้าของคาถาอาคมผู้จะมาประสิทธิ์ประสาทฤทธิ์ อีกส่วนหนึ่งเป็นค่าเหนื่อยสำหรับพวกผี
ที่มาช่วยในงาน ไม่งั้นลำพังแค่คนธรรมดาๆจะมีฤทธิ์ให้กิจนั้นๆสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างไร ทุกอย่างจึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากสิ่งลึกลับ
โดยมีเครื่องเซ่นไหวเป็นสิ่งตอบแทน
ในยุคปัจจุบันนี้ สำหรับคนที่สนใจในเรื่องทำนองนี้สามารถเริ่มจากการฝึกสมาธิทุกวันได้ จะขาดก็แต่ในส่วนของพิธีกรรม
การครอบคาถาอาคมที่ถูกต้องตามตำรา ที่อาจจะหาคนรู้จริงยากมากๆ จะไปเปิดหนังสือสวดมนตร์ก็คงไม่มี สำหรับคาถาพวกนี้(ที่ใช้ทำคน)
ผมเชื่อว่าอำนาจลึกลับทางจิตนั้นในปัจจุบันยังมีคนทำได้จริง เพียงแต่มันไม่หวือหวาแบบในสมัยก่อน เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด วิธีฝึกสมาธิฝึกอำนาจจิตทั่วๆไปนั้นยังคงมีอยู่ตามหลักพุทธศาสนา แต่ทว่า พวกคาถาอาคมบทสวดต่างๆ
ที่ใช้ประกอบทางพิธีไสยศาสตร์ที่ถูกต้อง ดูเหมือนจะสูญหายไปหมด เพราะขาดการสืบทอด เรื่องเหล่านี้จึงค่อยๆกลายเป็นเรื่องเหลวไหล
ไร้สาระในสายตาของคนยุคใหม่ไปในที่สุด....
ปล.แม้แต่ในประวัติ บรมครูกลอนสุนทรภู่ ที่พิมพ์อยู่ในหนังสือพระอภัยมณี ยังมีเขียนไว้ว่า ครั้งหนึ่ง ท่านเดินทางไปแสวงหาเหล็กไหล กับหายา
อายุวัฒนะต่างๆ แสดงว่า บรมครูกลอนของเราท่านเชื่อเรื่องไสยศาสตร์เหมือนกัน....






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า