(ถึงแม่นางสียะตราแห่งพรรคตะวันจันทรา)
๐บะหมี่เกี๊ยวเคี่ยวยารึกล้าลิ้ม
เมื่อโอษฐ์อิ่มพิษอาจประหัตเหิน
เส้นเนื้อนุ่มนวลลิ้นประทิ่นเพลิน
ย่อมยับเยินยาหญิงที่สิงชาม
๐ข้าหากมีหมั่นโถวแซ่โค้วมอบ
นงริลอบวางยาข้าขอห้าม
ข้าพิเคราะห์เครื่องเคียงมิเพลี่ยงตาม
นางอย่าหยามยศด้วยถ้วยเกี๊ยวเลย
(ถึงท่านจารุทัศตะเกียบทิพย์)
๐นั่นเห็นไหมไยเงินสะเทิ้นท่าน
เส้นอาบว่านยาจกเพราะพกเผย
เปิดกระเป๋าเข้าตานารีเลย
นางจึงเสยเพียงเสี้ยวเกี๊ยวหมดชาม
๐ถิ่นมิคุ้นท่านควรอย่าด่วนลิ้ม
ยกชามชิมชวนโฉมมาโน้มหวาม
นั่นคือ"ท่ามารยานารีงาม"
และเมื่อยามท่านเผลอเงินเฟ้อเฟือน
(ถึงแม่นางรัตน์ตวัดตะหลิว)
๐เคล็ดวิชาเช่นนี้ข้ามิขอ
หุงข้าวรอรักหนาวร้าวจะเฉือน
เชิญท่านดาวเด่นเพลงประเลงเดือน
ให้พอเอื้อนอุรารัตน์พิพัฒน์เพ็ญ
๐ตักเมล็ดข้าวลงที่ตรงไหน
แล้วจะใส่น้ำเจือโอ้!เหลือเข็ญ
หากรักหักจากซาวข้าวมิเป็น
ย่อมลำเค็ญครองคู่พธูเทียว
๐จึงนับถือท่านดาวสาวสะท้าน
"เพลงจัดจ้านการเรือน"เสมือนเกี่ยว-
เกาะกุมกลางหว่างทรวงแดดวงเดียว
รัตน์รู้เดี๋ยวกลับเพลินเมินเฉินเองฯ