
วันนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวนครนายก ก็เลยไปเที่ยวน้ำตกตกสาริกาดู เพราะเคยไปเที่ยวชมน้ำวังตะไคร้ และน้ำตกนางรอง(น้ำตกในฝัน)มาแล้ว พอเข้าไปภายในเขตอุทยาน ตรงทางเข้าจะมีป้าย "จอดรถฟรี" แม่ค้าเข้ามาต้อนรับและทำท่าปิดปากเชิญชวนให้ซื้ออาหารเข้าไปกินข้างในน้ำตก แต่เราเพิ่งกินข้าวกันไป จึงอยากจะขอเข้าไปชมน้ำตกเท่านั้น จึงขับรถเข้าไปข้างในจนถึงที่จอดรถของทางอุทยาน เขาเก็บค่าเข้าชมคนละ๔๐บาท พอได้ตั๋วแล้ว ก็มีผู้ชายเข้ามาเก็บค่าที่จอดรถอีก๔๐บาท (หนึ่งคัน)ก็เลยเอะใจว่า ทำไมต้องเสียค่าจอดรถอีก เพราะเราเสียค่าผ่านแล้ว แต่ก็จ่ายให้ไปซะโดยดี เพราะเสียค่าผ่านไปแล้วนี่ ตรงเสียค่าผ่านมีตัวหนังสือบอกไว้ว่า "น้ำน้อย" เราก็เดินขึ้นไปตามขั้นบันไดเพื่อจะไปดูน้ำตก เออ น้ำน้อยไม่มีน้ำตกจริงๆด้วย มีแต่น้ำไหลตามทางลงมาเท่านั้น พอขึ้นไปสูงๆจึงเห็นหน้าผาที่น้ำตกจะกระโจนลงมา แต่ไม่มีน้ำตกมากหรอก ก็เลยเดินกลับลงมาด้วยความหดหู่ในหัวใจที่ เจ้าหน้าที่มันก็รู้ว่าไม่มีน้ำตกแล้วมันจะเก็บค่าเข้าชมทำไมตั้งคนละ๔๐บาท ก็น่าจะลดลงมา๑๐-๒๐บาทก็ยังดีนะ เพราะไม่มีอะไรให้ชมเลย มีแต่เพียงป่าไม้ธรรมดาๆ พอลงมาถึงทางผ่านก็เลยถามเจ้าหน้าที่ว่า ทำไมต้องเก็บค่าจอดรถอีกตั้ง๔๐บาทอีกด้วย เขาบอกว่า เพราะที่จอดรถมันเป็นที่ส่วนบุคคล พอได้ยินแค่นั้นก็เลยคิดว่า อ้อที่ส่วนบุคคลมันมาอยู่หน้าอุทยาน เพื่อจะมาหากินทำเป็นที่จอดรถให้นักท่องเที่ยวนี่เองละหรือ?ทั้งๆที่ทางอุทยานก็เก็บค่าผ่านไปเต็มๆแล้ว จึงเสียความรู้สึกเอามากๆกับระบบข้าราดกานไทย ทำไมจึงทำกับประชาชนตาดำๆได้หนอ? ไอ้เงินแค่นี้ไม่เสียดายหรอก แต่มันเสียความรู้สึกมากกว่า จึงอยากจะบอกชาวเราที่จะไปเที่ยวน้ำตกสาริกา ระวังจะโดนรีดไถโดนไม่ตั้งใจ ที่น้ำตกนางรองก็เหมือนกันเก็บค่าผ่านคนละ๒๐บาทแล้วขับรถเข้าไปจอดข้างในประมาณ๑๐เมตร ยังเก็บค่าจอดรถอีกอย่างหน้าตาเฉย แหม...อดอยากปากแห้ง หากินกับคนรักธรรมชาติซะเหลือเกินนะ จึงมานึกขึ้นได้ว่า ที่แม่ค้าเข้ามาต้อนรับเราตั้งแต่แรกให้จอดรถฟรีและทำท่าปิดปากว่าพูดไม่ได้ ก็เพราะข้างในมันเก็บค่าจอดรถนี่เอง ถึงว่าแล้วเชียว ทำไมคนจึงไม่ค่อยมีไปเที่ยวกันสักเท่าไหร่ เฮ้อ...

แหะๆ มาแนวซีเรียสนิดๆ ท่ามกลางบรรยากาสที่แสนสุข

(อ้างถึง)
ข้าราชการใหญ่น้อย เมืองไทย
ลุงอย่าเหมาถ้วนร้าย ร่วมข้อง
มีทั้งชั่วประปราย คอร์รัปชั่น
แต่ที่ดีอยากร้อง โปรดให้ความเป็นธรรมฯ
*มาผิดคิวหรือเปล่า...เขากำลังเบิร์ธเดย์, อีกคนกระทู้ครบ 100
**แบบพอดีเจอคำว่า “ข้าราดกานไทย” เลยน้อยใจ “ลุงไพร” นิดๆ (แต่ชินแล้ว)
***ลองมาโรงพยาบาลสุรินทร์ บอกรีเซฟชั่นว่า มาหา “เภสัชช้อย” ชื่อลุงไพรมาจากบ้านกลอนไทย จะดูแลอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น
...โรคมะเร็งเบาหวาน ไตพิการกระเพาะ หรือเจาะตรวจเอดส์ เสื่อมเพศสมรรถภาพ
ใช่พูดหยาบคายเล่น ใครเป็นนั้นย่อมรู้ ลุงอย่าปิดเงียบอู้ เผื่อช่วยบรรเทาฯ…
****สีแดงที่ลงท้ายนี่...เป็นร่ายสุภาพหรือเปล่าไม่รู้ ต้องให้ “มือขวา” มาเป็นสารวัตรวรรณกรรมตรวจสอบให้...
55555ๆๆๆๆๆๆๆ...
ช้อยเองแหละ ให้สนองเขียนให้นะลุง...
6 มิถุนายน 56





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า