ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
เปิบพิสดารคางคก
ดื่มเหล้าแกล้ม คางคก กระดกซด
กลมกล่อมรส พิสดาร อาหารเปิบ
เพียงไม่นาน หน้าดำ พิษกำเริบ
เมื่อออเดิร์ฟ ออกฤทธิ์ ถึงปลิดปลง
เพราะอยากอวด ว่าตน เป็นคนกล้า
เคยเปิบมา มากมาย ที่ขายส่ง
เผื่อมีเพื่อน เห็นด้วย หลังงวยงง
จึงหลายก๊ง แกล้มย่าง เจ้าคางคก
เมื่อผลลัพธ์ แผลงฤทธิ์ หมดสิทธิ์คึก
หวนสำนึก ก็สาย ชีพตายตก
กลายเป็นข่าว ขายหน้า คนสาธก
ที่หยิบยก เล่าขาน เนิ่นนานปี ฯ
อริญชย์
๒๐/๙/๒๕๕๕

ขอบคุณเค้าโครงเรื่องจากข่าว
แม่ยายดับ-เขยรอด พิษกะเพราคางคก
พิษคางคก-ญาติรับศพนางเจียม แสงศร ชาวจ.ตราด ที่กินคางคกผัดกะเพราแล้วล้มป่วยก่อนจะเสียชีวิตลงที่ รพ. ตราด แพทย์ระบุว่าพิษของคางคกทำให้การเต้นของหัวใจอ่อนจนหยุดเต้นส่วนลูกเขยที่กินด้วยกันอาการปลอดภัยแล้ว
เปิบผัดกะเพราคางคกตายแล้ว เผยแม่ยายทนพิษร้ายไม่ไหว ส่วนลูกเขยทั้งสองคนอาการปลอดภัย ลูกสาวโผล่มารับศพที่ร.พ.ตราด ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ชาวบ้านเผยที่หมู่บ้านของตัวเองกินคางคกกันเป็นปกติ แต่เลือกกินตัวที่มีคางสีเหลือง ส่วนคางคกสีดำและมีคางแดงนั้นอันตราย หากกินต้องรู้จักชำแหละ รู้จักปรุง นายแพทย์สาธารณสุขตราดเตือนประชาชนห้ามกินเด็ดขาด ปรุงไม่ดีมีสิทธิ์ตายได้
จากกรณีเหตุ 2 ลูกเขยเอาใจแม่ยาย นางเจียม แสงศร อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 6 หมู่บ้านคลองขวาง ต.ห้วยแล้ง อ.เมือง จ.ตราด ปรุงเมนูชวนอ้วกคางคกผัดกะเพรา แล้วพากันเปิบพิสดาร ทำให้ต้องหามส่งร.พ.ตราดทั้ง 3 คน โดยแม่ยายมีอาการหนักสุด อาเจียน แน่นหน้าอก หัวใจเต้นอ่อน แพทย์ต้องพาเข้ารักษาในห้องไอซียู เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 เม.ย. นางเหรียญทอง เพ็งคั่ว อายุ 37 ปี ลูกสาวคนที่ 3 และ นางสายฝน อาจภักดี อายุ 35 ปี ลูกสาวคนที่ 4 ของนางเจียม ชาวบ้านที่เปิบพิสดารคางคกผัดกะเพรา เดินทางมาที่ร.พ.ตราด เพื่อรับศพมารดา หลังจากที่นางเจียมทนพิษคางคกไม่ไหวเสียชีวิตในคืนก่อน โดยมีร.ต.ท.อภิวัฒน์ พันธุ์ดี ร้อยเวรสอบสวนสภ.อ.เมืองตราด มาชันสูตรพลิกศพ พิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ พร้อมกับน.พ.อธิคม วงศ์ไพศาล แพทย์ร.พ.ตราด ที่รักษาอาการของนางเจียม มาคอยชี้แจงรายละเอียดถึงอาการและสาเหตุที่คนไข้เสียชีวิต
น.พ.อธิคม เปิดเผยว่า สำหรับนางเจียมนั้นเสียชีวิตเนื่องจากการเต้นของหัวใจอ่อน และหยุดเต้นกะทันหัน แต่หมอไม่ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเสียชีวิตเนื่องจากพิษคางคก เพราะตนเองยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องพิษคางคก จึงจะไปค้นหาเอกสารเพิ่มเติมเพื่อมาประกอบสำนวนการสอบสวนของตำรวจ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นหมอเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตจากพิษคางคก
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านคลองขวาง ต.ห้วยแล้ง อ.เมือง จ.ตราด ของนางเจียม พบกับชาวบ้านและญาติ ซึ่งทราบข่าวการเสียชีวิตของนางเจียมแล้ว กำลังรอรับศพที่จะมาถึงหมู่บ้าน
นายสำเนียง วงษ์ษา อายุ 52 ปี ชาวบ้านคลองขวาง ต.ห้วยแล้ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านคลองขวางกินคางคกกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเลือกคางคกที่มีจุดสีแดงบนลำตัว ถ้าหงายจะมีคางสีเหลือง ภาษาท้องถิ่นแถวนี้จะเรียก "ไอ้ล็อก" มีพิษเหมือนกันแต่น้อย ส่วนคางคกอีกประเภทหนึ่ง เช่น คางคกสีดำทั้งตัวคางแดง จะมีพิษรุนแรง ถ้านำมารับประทานจะต้องมีวิธีการชำแหละ ตัดหัว ลอกหนัง ตัดนิ้วทุกนิ้ว เครื่องใน เส้นพิษ เอาออกทั้งหมด เมื่อได้เนื้อแล้วก็ต้องนำมาล้างในน้ำที่ไหล เช่นน้ำก๊อก หรือน้ำตก เพื่อให้เนื้อขาว โดยต้องใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที และห้ามให้ยางคางคกโดนเนื้อเด็ดขาด ก่อนที่จะนำมาปรุงรับประทาน ซึ่งจะทำให้พิษหมดไป
http://board.palungjit.com/f11/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%81-33733.html





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า