(เขียนเรื่อยเปื่อย)
ลองเขียนโคลงสี่บ้าง สักบท (หลายบท)
เขียนอย่างครูกำหนด เก่ากี้
เพียงคำบ่หยาดหยด สูงค่า
เพียงแต่งจากใจนี้ สู่ผู้พึงเห็น ฯ
เป็นโคลงเรียบง่ายให้ หอมคำ
เย็นแก่ตาใจจำ แอร่มลิ้น
เพลินโสตรื่นรสสำ- ราญกล่อม ใจแม่
พอชื่นชีพดีดดิ้น ดื่มรู้บางธรรม ฯ
นำเศร้าบ้างสุขบ้าง มาเขียน
จังหวะแล้วแต่เวียน เวี่ยไว้
สาระใช่จะเอียน เอาออก
อาจหน่อมแหน้มบ้างให้ โลกร้อนผ่อนคลาย ฯ
ตายแล้วคงไม่ได้ เขียนโคลง
คงแย่นอนในโลง อุดอู้
ฉะนี้จึ่งอย่าโกง ชีวิต
สนุกเล่นจักเรียนรู้ เร่งสร้างทางฝัน ฯ
วันนั้นวันนี้อย่า ผลัดไป
ลิขิตชีวิตใน แบบรู้
เกิดมามิมีอะไร ติดร่าง มานา
ยามจากฝากดีสู้ สลักไว้ดีงาม ฯ
ความรักมอบแก่ผู้ ควรรัก
รักโลกควรประจักษ์ โลกสร้าง
สำนึกหน่อยใช่สัก แต่พูด
มีรับมีให้บ้าง รักนี้ยืนยาว ฯ
คราวห่างใจจึ่งรู้ รอยใจ
ทำวูบวูบไหวไหว ระหว่างนั้น
ระหว่างหนึ่งอยู่หนึ่งไป ไกลห่าง
บางอย่างมากระชั้น เร่งให้คิดถึง ฯ
รำพึงฟุ้งซ่านแล้ว ได้อะไร
ชีวิตก็เป็นไป อย่างนี้
โลกหน้าโลกไหนไหน ไม่ต่าง กันแฮ
เขียนร่ำรำบายชี้ ชื่นฟ้าชื่นสวรรค์ ฯ
จรรโลงโคลงหล่อเลี้ยง อารมณ์
ทุกข์สุขหอมหวานขม จัดแจ้ง
อาจฝากคิดคมคม ควรสู่ โลกเอย
สรรค์สุขบ่รู้แล้ง แหล่งหล้ามหาศาล ฯ
บันดาลงามแห่งร้อย- กรองเฉลย
รินรสสุนทรียะเผย แผ่หล้า
อย่ามัวนิ่งอยู่เลย มวลมิตร
มาลิขิตโคลงท้า ทั่วแคว้นแดนสยาม ฯ (๓๙๐)
กามนิต - ๑๒ ก.ค.๕๕






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า