
เพราะดินมีความเค็มอยู่เต็มเปี่ยม
จึงใช้เสียมขุดดินป่านำมาต้ม
จนได้เกลือเค็มชั้นดีคนนิยม
ต่างชื่นชมทั่วทุกถิ่นเกลือสินเธาว์!ฯ
อริญชย์
๑๕/๔/๒๕๕๕
ปล.ประโยชน์ของการแต่งใครแต่งมัน(เฉพาะในกระทู้นี้นะ) คือ ทุกท่านจะได้เห็นจะได้รู้ในบางสิ่งบางอย่างอันมีคุณค่าทางวัฒนธรรมประจำถิ่นต่าง ๆ มากมาย จากแต่ละท่าน ที่แต่ละท่านอาจยังไม่เคยเห็นไม่เคยรู้มาก่อน (ถ้ารู้แล้ว อ่านเจออีกทีก็ไม่ได้เสียหายอะไร แม่นบ่)
การต้มเกลือ


วันที่ พุธ มีนาคม 2553
พิมพ์หน้านี้ | ดูบล๊อกอื่นๆ ที่ OKnation
ต้มเกลือสินเธาว์จากดินเค็ม...ภูมิปัญญาชาวบ้านหนองตอ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด
ต้มเกลือสินเธาว์จากดินเค็ม
...ภูมิปัญญาชาวบ้านหนองตอ จ.ร้อยเอ็ด
โดย...ว่าที่ร.ต.ดร.สมโชค เฉตระการครูเชี่ยวชาญ (สังกัดวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด)
อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ร้อยเอ็ด
เมื่อเช้าเดินทางไปที่บ้านหนองตอ อำเภอจตุรพัตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อไปชมภูมิปัญญาชาวบ้านที่นำดินเค็มที่อยู่บริเวณท้องนา ริมถนนหลวง เส้นทางห่างจากอำเภอจตุรพักตรพิมาน ไปทางอำเภอเกษตรวิสัย ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ของบ้านหนองตอ
คุณป้าที่มีอาชีพต้มเกลือเป็นอาชีพหลัก เริ่มสาธิตวิธีการต้มเกลือสินเธาว์ให้ชม
โดยขั้นแรกคุณป้า จะใช้จอบขูดเอาดินที่อยู่ผิวหน้าดินของท้องนา ดินดังกล่าวจะมีรสเค็ม มากองรวมกันไว้เป็นกองโต ๆ จากนั้นนำเอาดินที่ขูดมาเทลงในรางไม้ขนาดใหญ่ ตักเอาน้ำที่ขุดจากใต้ดิน ซึ่งก็มีความเค็มเช่นเดียวกัน มาเทลงในรางไม้ อัตราส่วนระหว่างน้ำเกลือกับดินเค็ม ที่ผสมกันนี้จากการถามคุณป้าบอกว่า ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผู้ทำ แต่โดยปกติจะใช้อัตราส่วน 1:1 ถัง ใช้ไม้คาดทา กวนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่ว โมง เพื่อให้ดินตกตะกอนจนน้ำใส แล้วปล่อยน้ำผ่านท่อไม้ไผ่ลงไปในภาชนะรองน้ำเกลือ ส่วนดินจืดที่เหลือจากการตกตะกอน จะถูกนำมาพอกกับคันลานเกลือ เพื่อให้มีความหนาขึ้น

การต้มเกลือ จะตักน้ำเกลือที่เก็บไว้ในภาชนะ มาเทลงในรางเหล็กให้เต็ม ใส่ฟืนและคอยดูความร้อนให้สม่ำเสมอ ระยะเวลาที่ใช้ในการต้มเกลือแต่ละครั้งประมาณ 4 ชั่วโมง น้ำเกลือจะค่อย ๆ งวดลงจนเม็ดเกลือตกผลึก จากนั้นตักเกลือใส่ในวัสดุรองที่มีไม้สองท่อนพาดรับน้ำหนัก เพื่อให้น้ำเกลือที่ยังไม่เป็นเกล็ดลอดผ่านเม็ดเกลือลงไปในรางเหล็ก และต้มต่อไป เกลือที่ได้จะนำมาตากแดดไว้ให้แห้งและนำบรรจุในถุง แต่ละถุงมีปริมาณ 2 ปี๊ป

การต้มเกลือจะทำตลอดทั้งวัน วันหนึ่งจะต้อมได้ประมาณ 4 ครั้ง บางช่วงที่ต้องเร่งในการผลิต จะต้มตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะแบ่งช่วงเวลาในการต้มออก เป็น 4 ช่วง ช่วงละประมาณ 4-5 ชั่วโมง มีการผลัดเปลี่ยนคนมาเฝ้าเตาต้มเกลือ หลังจากนั้นจะมีพ่อค้ามารับซื้อ เกลือที่บรรจุใส่ถุงไว้รอการขาย ราคาหนึ่งถุงที่บรรจุ 2 ปี๊ป ราคา 200 บาท (ปี๊ปละ 100 บาท)
จากการถามคุณป้าว่าทำอาชีพนี้มานานเพียงใด คุณป้าตอบว่าได้ผลิตเกลือมานานตั้งแต่รับมรดกตกทอดอาชีพมาจากพ่อแม่ ส่วนการถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาดังกล่าว ยังเป็นปัญหาเพราะลูกชายจำนวน 2 คน ไม่สามารถที่จะดำเนินการต่อไปเพราะ ต้องเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ฯ ส่วนการศึกษาดูงานจะมีคณะอาจารย์ จากโรงเรียนหลายโรงเรียนในเขตพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและข้างเคียงพานักเรียนมาศึกษาดูงาน
การต้มเกลือลักษณะนี้ จะพบในบางพื้นที่ ที่มีดินเค็ม เช่นที่อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม บ้านหนองตอ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด บ้านบ่อเกลือ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด และจากการศึกษายังพบว่า มีการต้มเกลือลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ ในเขตลุ่มแม่น้ำสงครามตอนล่าง เช่น ที่บ้านเสียว บ้านบะ บ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร
เกลือที่ใช้ในการปรุงรสอาหาร และประโยชน์ในการหมักปลาแดก (ปลาร้า) ซึ่งชาว บ้านจะผลิตเกลือไว้ใช้เมื่อฤดูน้ำลดใน ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม อันเป็นระยะเดียวกับการ ออกจับปลาตามลำน้ำ ลำห้วยใกล้หมู่บ้าน และลำน้ำสำคัญคือ ลำน้ำชี ลำน้ำมูล ลำน้ำสงคราม
ชาวบ้านที่ผลิตเกลืออย่างเดียว และนำขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน พ่อค้าจะมารับซื้อถึงแหล่งผลิตเพื่อนำไปจำหน่าย
เกลือ เป็นอาหารแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนั้นยังใช้ประโยชน์ในงานอุตสาหกรรมโรงงานเช่น โรงงานทำกระจก โรงงานฟอกหนัง เป็นต้น
เกลือที่ใช้อยู่โดยทั่วไปมี 2 ชนิด คือ เกลือสมุทร ที่ได้จากน้ำทะเลโดยวิธีการ นำน้ำทะเลมากักเก็บไว้ให้ระเหยจนเหลือ แต่เม็ดเกลือและเกลือสินเธาว์ที่ได้จากดินเกลือที่อยู่ผิวดิน นอกจากนั้นยังมีน้ำชั้นใต้ดิน ส่วนใหญ่จะพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการต้มเกลือ
- จอบสำหรับขูดดินเค็มที่ผิวดิน ไม้คาดหรือไม้กวาดเกลือ ปุ้งกี๋ ไม้พาดรางเหล็ก
- รางไม้ขนาดใหญ่ เพื่อสกัดเอาน้ำเกลือจากดินเค็ม ท่อคอนกรีตภาชนะรับน้ำเค็ม
- กะบะรางเหล็กใช้เป็นภาชนะต้มเกลือ
- ปี๊ปใช้ตวงปริมาณเม็ดเกลือใส่ถุง
ขอบคุณข้อมูลจากเวบ
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=574868






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า