
ไม่ฟังอีร้าค้าอีรม
เช้านี้มีปัญหาเข้าถาโถม
ดั่งประโคมกลองเพลให้เผ่นผาง
ทั้งน้อยใหญ่ไหววืดไม่จืดจาง
อารมณ์ค้างหงุดหงิดเป็นพิษภัย
รีบปลุกเพื่อนให้ช่วยด้วยลำบาก
ทำเรื่องมากพูดจาดั่งบ้าใบ้
ทำไม่รู้ไม่ชี้ เอ๊ะ นี่ยังไง?
ไม่ใส่ใจกันมั่ง น่าชัง ชิ๊บ.!!
จึงโมโหหุนหันแดกดันใส่
เรื่องมันใหญ่ไล่งับจะยับยิบ
ว่าแล้วยังทำปากขมุบขมิบ
แถมงุบงิบเงอะงะมันน่า..พลั่ก!!
พูดออกไปเสียงดังไม่ยั้งคิด
เพราะหงุดหงิดงุ่นง่านรำคาญนัก
เพื่อนไม่รู้นิ่งฟังเพิ่งตั้งหลัก
เป็นตาฮัก “ ขอโทษ อย่าโกรธเลย”
นึกขึ้นได้ไยเราเข้าโกรธขึ้ง
ไม่คิดถึงใจเขา ง่าวจริงเหวย
ใส่ปาวปาวไม่ยั้ง ยังเฉยเมย
คนคุ้นเคยเคียดแค้น น่าแพ่นกบาล.!!(ตัวเอง)
โกรธคือโง่ โมโห นั้นคือบ้า
พระท่านว่าอย่าฉุน อย่างุ่นง่าน
ทำไมหนอใจเราจึ่งลนลาน
อันธพาลโกรธง่าย น่าอายจัง
ต่อไปนี้ก่อนโกรธลงโทษเขา
จะมิทำใจเบาให้ง่าวงั่ง
ตั้งสติสักครึ่ง ก่อนปึงปัง
ก่อนที่เขาจะชัง ระวังพาล
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ที่สอนว่า
อย่าโมโหโกรธาเหมือนผ่าขวาน
คนมักโกรธโขดเขลาเจ้ารำคาญ
ต้องถูกผลาญเผาใจ ไหม้ทั้งปี
“ไพร พนาวัลย์”





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า