พระองคุลิมาลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
๑.... พระองคุลิมาล ....๑

ภาพวาด โจรองคุลิมาลไล่ตามพระพุทธเจ้าหมายจะฆ่า
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อเดิม: อหิงสกะ
ชื่ออื่น: อหิงสกะ, พระองคุลีมาล, อหิงสกะกุมาร, องคุลีมาลโจร, โจรองคุลีมาล
สถานที่เกิด: เมืองสาวัตถี
สถานะเดิม
ชาวเมือง: สาวัตถี
นามบิดา: ปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิ (ไม่ทราบนาม)
นามมารดา: นางมันตานี
วรรณะเดิม: วรรณะแพศย์
สถานที่รำลึก
ชื่อสถานที่: ซากบ้านมารดาองคุลีมาล ภายในเมืองสาวัตถี
--------------------------------------------------------------------------------
องคุลีมาล หรือ พระองคุลีมาลเถระ เป็นบุคคลสำคัญในยุคต้นแห่งพุทธศาสนา โดยเฉพาะตามพุทธประวัติพุทธฝ่ายเถรวาท เดิมนั้นเป็นโจรปล้นฆ่าคน แต่ภายหลังมีศรัทธาในพุทธศาสนา ได้กลับใจบวชเป็นพระภิกษุ และบรรลุเป็นพระอรหันต์ อีกทั้งมียังบทสวดของท่านอีกด้วย ชื่อ องคุลิมาลปริตร คำว่า องคุลิมาล นั้นมาจากคำว่า องคุลิมาล แปลว่า นิ้วเป็นพวง (องคุลิ แปลว่า ข้อนิ้ว, นิ้ว มาล แปลว่า พวง - องคุลีมาร เป็นชื่อที่มักเขียนผิดบ่อย)
แต่เดิมนั้นองคุลิมาลชื่อว่า อหิงสกะ เป็นบุตรของปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล เมืองสาวัตถี มารดาของชื่อ มันตานี อหิงสกะได้ไปเรียนวิชาที่เมืองตักกสิลา และสามารถเรียนได้รวดเร็วอีกทั้งยังปรนนิบัติอาจารย์อย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์อย่างมาก เป็นเหตุให้ศิษย์อื่นริษยา จึงยุยงอาจารย์ว่าองคุลิมาลคิดจะทำร้าย อาจารย์จึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลเสีย โดยบอกกองคุลิมาลว่า ถ้าจะสำเร็จวิชาต้องฆ่าคนให้ได้หนึ่งพันคนเสียก่อน องคุลิมาลจึงออกเดินทางฆ่าคน แล้วตัดนิ้วหัวแม่มือมาคล้องที่คอเพื่อให้จำได้ว่าฆ่าไปกี่คนแล้ว เหตุนี้เอง อหิงสกะจึงได้รับสมญานามว่า องคุลิมาล จนครบ 999 คน ก็มาพบพระพุทธเจ้า และได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ออกบวชเป็นพุทธสาวก

ภาพวาด โจรองคุลิมาลไล่ตามพระพุทธเจ้าหมายจะฆ่า
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อเดิม: อหิงสกะ
ชื่ออื่น: อหิงสกะ, พระองคุลีมาล, อหิงสกะกุมาร, องคุลีมาลโจร, โจรองคุลีมาล
สถานที่เกิด: เมืองสาวัตถี
สถานะเดิม
ชาวเมือง: สาวัตถี
นามบิดา: ปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิ (ไม่ทราบนาม)
นามมารดา: นางมันตานี
วรรณะเดิม: วรรณะแพศย์
สถานที่รำลึก
ชื่อสถานที่: ซากบ้านมารดาองคุลีมาล ภายในเมืองสาวัตถี
--------------------------------------------------------------------------------
องคุลีมาล หรือ พระองคุลีมาลเถระ เป็นบุคคลสำคัญในยุคต้นแห่งพุทธศาสนา โดยเฉพาะตามพุทธประวัติพุทธฝ่ายเถรวาท เดิมนั้นเป็นโจรปล้นฆ่าคน แต่ภายหลังมีศรัทธาในพุทธศาสนา ได้กลับใจบวชเป็นพระภิกษุ และบรรลุเป็นพระอรหันต์ อีกทั้งมียังบทสวดของท่านอีกด้วย ชื่อ องคุลิมาลปริตร คำว่า องคุลิมาล นั้นมาจากคำว่า องคุลิมาล แปลว่า นิ้วเป็นพวง (องคุลิ แปลว่า ข้อนิ้ว, นิ้ว มาล แปลว่า พวง - องคุลีมาร เป็นชื่อที่มักเขียนผิดบ่อย)
แต่เดิมนั้นองคุลิมาลชื่อว่า อหิงสกะ เป็นบุตรของปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล เมืองสาวัตถี มารดาของชื่อ มันตานี อหิงสกะได้ไปเรียนวิชาที่เมืองตักกสิลา และสามารถเรียนได้รวดเร็วอีกทั้งยังปรนนิบัติอาจารย์อย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์อย่างมาก เป็นเหตุให้ศิษย์อื่นริษยา จึงยุยงอาจารย์ว่าองคุลิมาลคิดจะทำร้าย อาจารย์จึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลเสีย โดยบอกกองคุลิมาลว่า ถ้าจะสำเร็จวิชาต้องฆ่าคนให้ได้หนึ่งพันคนเสียก่อน องคุลิมาลจึงออกเดินทางฆ่าคน แล้วตัดนิ้วหัวแม่มือมาคล้องที่คอเพื่อให้จำได้ว่าฆ่าไปกี่คนแล้ว เหตุนี้เอง อหิงสกะจึงได้รับสมญานามว่า องคุลิมาล จนครบ 999 คน ก็มาพบพระพุทธเจ้า และได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ออกบวชเป็นพุทธสาวก
ด้วยรักและความปรารถนาดีค่ะ
รัตนาวดี

รัตนาวดี

อ่านแล้วได้ความรู้มากทีเดียวครับ มันตรงกับสุภาษิตว่า จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัยนั่นเชียว

องคุลีมาลนี้ท่านทำดีจนเด่นเกินศิษย์คนอื่นๆเป็นเหตุให้ภัยมาถึงตัวครับ แล้วไอ้คำยุแยงตะแคงรั่วนี้มันเหมือนน้ำที่หยดลงหิน
ซักวันหินก็ต้องกร่อน อย่าว่าแตใจคน
ลักษณะการกระทำขององคุมาลถ้าจะเปรียบเทียบกับในปัจจุบันจะตรงกับพวกที่เรียกว่า ฆาตกรต่อเนื่อง ประเภท ซีอุย หรืออย่างในหนังฝรั่งครับ
เพราะเป็นการฆ่าเพื่อผลทางพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์
ปล.ลองคิดดูขำๆ ถ้าเกิดในปัจจุบันนี้ อาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆตั้งเงื่อนไขกับศิษย์ว่า ก่อนจะจบรับปริญญา ต้องยกพวกตีกันกับนักศึกษา
มหาวิทยาลัยอื่นๆเสียก่อนจึงจบได้ สงสัยบ้านเมืองคงวุ่นเป็นแน่....






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า