ตัวเราเป็นเช่นนี้ดีอยู่แล้ว
หากเป็นดาวพราวแพรวบนเวหา
ต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าทุกเพลา
ที่ท้องฟ้าเข้าสู่ความมืดมน
ดวงดารามิอาจหยุดส่องแสง
ยังแสดงให้เห็นบนเวหน
มิอาจมีชีวิตเป็นของตน
ต้องทุกทนกับความช้ำระกรรมใจ
หลายคนมองว่าดาวสวยงามนัก
ทุกคนรักดวงดาวพราวไสว
หากมีใครรู้เห็นความเป็นไป
ก็คงไม่ยินดีและปรีดา
อันดวงดาวที่สว่างกระจ่างฟ้า
คงอยากเอ่ยวาจาเป็นหนักหนา
คงอยากบอกไปทั่วทั้งโลกา
ว่าตัวข้าอ่อนล้าและเดียวดาย
จริงไหมคะ ดวงดาว
......มนัสศิยา......
ยามฟ้าหมองเมฆหม่นคลุมหนห้วง
ดาวเร้นดวงเลือนรางคล้ายจางหาย
ดั่งพรากฟ้ามิอาจจะเปล่งประกาย
ฤาจะหมายรอดาวให้พราวดวง
ไกลเกินกว่าคว้าจับไว้กับอก
หรือจึงยกเขตคั่นสุดดั้นสรวง
แท้อาจเป็นเหตุผลของกลลวง
ยามหมดช่วงถวิลหาสิ้นค่าควร
จึงโดดเดี่ยวเปลี่ยวเปล่าอยู่เช้าค่ำ
ยินถ้อยร่ำอาลัยก็ใจหวน-
คะนึงหา..หันเหหรือเรรวน
หนอจึงด่วนแยกหล้าฝั่งฟ้าไกล
หรือเพราะรักมากล้นท่วมท้นนัก
จึงเก็บกักดวงดาวพราวไสว
ประดับอยู่แดนสรวงแห่งดวงใจ
ผูกอาลัยล้อมขวัญด้วยฉันทา
วลีลักษณา
๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔
| ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
|
06 ธันวาคม 2025, 02:02:AM
|
|||
|
|||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: ~*~ มิใช่ดาว ~*~ (อ่าน 13616 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email:






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า