***นภาเศร้าฟ้าสีหม่น "ขอโทษ"***
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
14 พฤษภาคม 2024, 05:14:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ***นภาเศร้าฟ้าสีหม่น "ขอโทษ"***  (อ่าน 12092 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
30 ตุลาคม 2011, 07:52:AM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« เมื่อ: 30 ตุลาคม 2011, 07:52:AM »
ชุมชนชุมชน



นภาเศร้าฟ้าสีหม่น "ขอโทษ"

นภา กว้างน้ำค้างพร่างพรมหนาว
โลกดวงดาวดาษดื่นคืนสุขขี
โลกของฉันฝันโศกเศร้าเหงาฤดี
โลกเช้านี้นั่นขื่นขมคิดถึงเธอ

เศร้า จนแวะเวียนมาเฝ้าแต่เช้าตรู่
ถึงคุณครูคนหนึ่งรำพึงเสมอ
ถึงผู้ชายคล้ายแรกพบประสบเจอ
ถึงว่าเผลอ “พลั้งพลาด” ที่ผิดไป

ฟ้า แผ่นหนาหนักแน่นแล่นเคลื่อนท่อง
โปรดเปิดตาตรึงมองจ้องฟ้าใส
โปรดมองหาว่า “ขอโทษ”โปรดอภัย
โปรดเปิดใจเปิดจิตพินิจมัน

สี สาดแสงอาทิตย์ส่องผุดผ่องแล้ว
จิตดวงแก้วดวงนี้มิสุขสันต์
จิตนั้นตกหกลงไปไร้ตะวัน
จิตไร้แสงส่องจากจันทร์ฉันระทม

หม่น หมองโลกโศกยามเช้าสีเทาหม่น
เพียงสับสนสาดกลอนอ้อนหวานขม
เพียงเลอะเลือนเปรอะเปื้อนเพื่อนมิชม
เพียงอารมณ์อ่านนิยาม “ตีความผิด”

สิ่งสุดท้ายปลายทางวาง “ขอโทษ”
โปรดอย่าโกรธเคืองฉันฝันลิขิต
โปรดแหงนหน้าจ้องนภาฟ้าพินิจ
ว่าพับจิตเขียนจดบทแด่คุณ

หทัยกาญจน์

 ซึ้งจัง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เอ๊พ, สล่าผิน, รพีกาญจน์, อริญชย์, สุนันยา, พิมพ์วาส, เมฆา..., พี.พูนสุข, รัตนาวดี, คันไถ, กามนิต, ลมหนาว

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
30 ตุลาคม 2011, 09:19:AM
พิมพ์วาส
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 422
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 806


Pretending is the beginning of changes.


profile.php?id=100002905344846
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2011, 09:19:AM »
ชุมชนชุมชน

อยากให้ฟ้าสีคราม

ท้องเวหนหม่นฟ้าอาทิตย์ลับ
เหมือนสีกลับฟ้าครามงามเหือดหาย
คอยจดจ้องมองเมียงฟ้าเคียงกาย
ด้วยสลายความงามสีครามฟ้า

อาทิตย์ตกพลบคำย่ำดาวขึ้น
ให้ตะลึงถึงความงามของดาวหนา
แต่ฟ้าครามหมองเศร้าเร้าวิญญา
อนิจจาความเศร้าเร้ากลับคืน

ยามเช้ารุ่งอรุณพุ่งมาแล้ว
ไม่คลาดแคล้วแววจ้องมองฟ้าฝืน
ช่างเหมองเศร้าเราอารมณ์ทุกครายืน
อย่าขัดขืน คืนมาฟ้าสีคราม

อยากให้ ฟ้าสีคราม เหมือนวันเก่า
ตอนนี้เศร้าเร้าวิงวอนนอนนับสาม
พอนับขึ้นแอบจ้องมองฟ้างาม
แต่ฟ้าครามมืดมนหนอพอดู


 ร้องไห้งอแง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, เมฆา..., รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, สุนันยา, คันไถ, กามนิต, รัตนาวดี, ลมหนาว, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ความผกผันของเวลา  เฉือนเจตนาของอารมณ์
30 ตุลาคม 2011, 09:48:AM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2011, 09:48:AM »
ชุมชนชุมชน



"ฟ้าสีครามงามตา..เพราะมีเธอ"

ฟากฟ้าสีคราม...งามปรากฏ
สบัดรัดทด...เศร้าหดหู่
โยนทิ้งดิ่งตรง...ลงข้างคู
ไหลหลั่งพรั่งพรู...หรูหราแทน

แรกเริ่มเดิมเห็น...เช่นพิมพ์วาส
ขีดเขียนกระดาษ...วาดสุขแสน
ให้ฟ้าสีคราม...งามทั่วแดน
พี่รีบโลดแล่น...แก่นฟ้างาม

ขอบคุณยิ่งหนัก...รักห่วงหา
ดั่งดวงชะตา...มาไถ่ถาม
เสมือนมิ่งมิตร...ชิดทุกยาม
สุขสมภิรมย์ความ..ปรารถนาดี

จึงขอมอบบท..จดแด่เธอ
คิดถึงเสมอ..ละเมอนี้
มอบละมุนอุ่นรัก...ทักทายมี
เป็นภาษากวี..วจีมา

ฟ้าครามยามนี้..ที่สวยสด
เพียงเพราะบท..จารจดเสน่หา
(ของ)น้องรักพิมพ์วาส...ปาดอักษรา
ฟ้าสีครามงามตา..มาเพราะเธอ

หทัยกาญจน์

 ซึ้งจัง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิมพ์วาส, เมฆา..., รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, สุนันยา, คันไถ, กามนิต, รัตนาวดี, ลมหนาว, ไพร พนาวัลย์, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
30 ตุลาคม 2011, 01:36:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #3 เมื่อ: 30 ตุลาคม 2011, 01:36:PM »
ชุมชนชุมชน


นภาเศร้าฟ้าสีหม่น "ขอโทษ"

นภา.อืด มืดมน ปนน้ำค้าง
ก่อนรุ่งสาง หมอกขาว พราวทุกที่
แต่ตัวฉัน พลันผละ จรลี
ตามหลวงพี่ บิณฑบาตร พิลาสไป

เศร้า.จริงหนอ พอมา ตอนฟ้าเปิด
เริ่มบังเกิด ฝนเล็ด แล้วเม็ดใหญ่
ด้วยสำเหนียก เปียกปอน มิถอนใจ
รับปัจจัย ให้คนสิ้น บ้านภินพัง

ฟ้า.เบื้องบน ก่นก้อง กราบร้องขอ
หยุดแล้วพอ ทุกข์ยาก น้ำหลากขัง
สร้างกุศล ผลบุญ หนุนจีรัง
จึงรับตั้ง โรงทาน อาหารคาว

สี.ประสาน กาญจน์กรอง รองอร่าม
ดีฤกษ์ยาม ตรงกัน ตะวันขาว
เก้าเก้าเก้า เพราพรรณ จันทรา.ดาว
ดนตรีกราว อื้ออึง จึ่งเททอง

หม่น.ฤดี มีอยู่ ฤดูหม่น
ทั้งเมฆฝน พ้นไป หมดไหม้หมอง
เสียงเสร็จสวด กรวดน้ำ กล่าวทำนอง
ขอได้ครอง อภิรมย์ สมความคิด

สิ่งสุดท้าย ปลายทาง วาง.ขอโทษ
อย่าได้โกรธ ว่าฉัน แปรผันผิด
ดูสลัก อักษรา ฟ้าสักนิด
ว่าดวงจิต คิดถึง จึงรีบมา

รพีกาญจน์ 59  13.33 น.

ก่อนเช้ามืด.ตามหลวงพี่บิณฑบาตร รับปัจจัยมอบให้ผู้ประสบภัย
สองโมงเช้า.นำอาหารจัดโรงทาน งานเททองหล่อพระพุทธรูป
เชียงใหม่.ลำพูน อากาศปิด ท้องฟ้ามืดมิด มีฝนตกเป็นบางแห่ง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิมพ์วาส, ♥หทัยกาญจน์♥, พี.พูนสุข, สุนันยา, คันไถ, กามนิต, รัตนาวดี, ลมหนาว, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
31 ตุลาคม 2011, 05:27:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2011, 05:27:PM »
ชุมชนชุมชน



"คิดถึงซึ่งคนไกล...ใจเคียงกัน"

สลักอักษรา...ว่าคิดถึง
ของชายคนหนึ่ง....ซึ่งห่วงหา
บนฟ้าสีคราม...ช่างงามตา
พับแผ่นเมฆหนา...มาจรดมัน

เหม่อมองท้องฟ้า..นภากว้าง
เมฆเคลื่อนกระจ่าง...อย่างสุขสันต์
เห็นคำรำพึง...เธอรำพัน
ว่าคิดถึงกัน...ฉะนั้นจึง “รีบ”

ขอบคุณคำอุ่น...ละมุนหวาน
กับเรื่องเล่าขาน...ผ่านดอกปีบ
ทำบุญสุนทาน..การต่อชีพ
พับดอกบัวกลีบ...จับจีบบุญ

แสนมีความสุข...คำปลุกปลอบ
เสมือนบอกชอบ...ตอบเกื้อหนุน
ห่วงหาอาทร...กลอนค้ำจุน
ขอขอบพระคุณ...เสริมทุนใจ

จึงร้อยมาลัย..ใส่อักษร
พ่วงกลมคมกลอน..ตอนอ่อนไหว
พันเป็นเกลียวแน่น...ถึงแก่นหทัยฯ
คิดถึงซึ่งคนไกล...ใจเคียงกัน

หทัยกาญจน์

 เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, สุนันยา, คันไถ, กามนิต, ไพร พนาวัลย์, พิมพ์วาส, ลมหนาว, รัตนาวดี, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
31 ตุลาคม 2011, 10:27:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #5 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2011, 10:27:PM »
ชุมชนชุมชน


ส่งกลอนถัก อักษรา จารฟ้าฝาก
คิดถึงมาก ค่ำคืน ตื่นหลับฝัน
หวังสว่าง ทางเชื่อม เอื้อมสัมพันธ์
หมายจะกลั่น กลอนกานท์ สื่อสาส์นเธอ

คืนจันทร์แรม แจ่มฟ้า นภากาศ
ดาวพิลาส เรียงกัน ฉันมองเหม่อ
คราเมฆเคลื่อน เลื่อนทับ พลันกลับเบลอ
ร่ำละเมอ เพ้อหา น้ำตานอง

ลมพัดโชย โรยริน ประทิ่นหอม
พอช่วยย้อม ชีวิต ดับจิตหมอง
กรุ่นกลิ่นกลีบ บีบนาสา กาสะลอง
เสมือนของ คุณงาม สมความดี

คำจากสรวง ห่วงใย เพียรไถ่ถาม
เพียงชั่วยาม ห่างกัน กระชั้นถี่
ออกกอปรกิจ จิตอาสา งานนามี
ยิ่งทวี ป่วนใน ให้อาวรณ์

ฝากจันทรา อาทิตย์ สถิตฟ้า
ฝากดารา ใหญ่น้อย ดอยสิงขร
ฝากอากาสะ นที สีทันดร
บอกบังอร คิดถึงนาง มิสร่างซา

รพีกาญจน์ 59

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, ...สียะตรา.., สุนันยา, คันไถ, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, พิมพ์วาส, ลมหนาว, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
31 ตุลาคม 2011, 10:42:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #6 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2011, 10:42:PM »
ชุมชนชุมชน

ช่างงดงาม อักษร คำกลอนเจ้า
พี่คงเฝ้าเพียรอ่านกานท์ภาษา
ด้วยซึ้งนัก วลี ที่นำพา
หทัยกาญจน์ น้องยา พาภิรมย์

พยายาม ฝืนเจ็บ ด้วยเก็บกด
รินร้อยรส พจน์พร่ำ นำผสม
อยากต่อกลอน กับเจ้าเฝ้าชื่นชม
แต่พี่ตรม เพราะเจ็บ ต้องเก็บใจ...


"สุนันยา"

อยากต่อให้มากกว่านี้
แต่เจ็บ....
ด้วยความคิดถึงนะจ๊ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : คันไถ, ♥หทัยกาญจน์♥, กามนิต, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, อริญชย์, พี.พูนสุข, พิมพ์วาส, ลมหนาว

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
31 ตุลาคม 2011, 10:53:PM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2011, 10:53:PM »
ชุมชนชุมชน



"งามยิ่งมิ่งมิตร..พิศมัย"

สดับ,ประทับ...จับตรึงจิต
งามยิ่งมิ่งมิตร..พิศมัย
พี่สุนันยา...พาวิไล
ชื่นชมคมใด...ในห้วงกานท์

อารมณ์คารม...ผสมสุข
ฟ้าครามงามปลุก...ทุกสถาน
ปลอบโยนคนดี...ที่ร้าวราน
ภิรมย์ชมสาส์น...จารจดจินต์


หทัยกาญจน์

 เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : กามนิต, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, สุนันยา, อริญชย์, พี.พูนสุข, พิมพ์วาส, ลมหนาว, คันไถ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
01 พฤศจิกายน 2011, 11:07:AM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2011, 11:07:AM »
ชุมชนชุมชน


ส่งกลอนถัก อักษรา จารฟ้าฝาก
คิดถึงมาก ค่ำคืน ตื่นหลับฝัน
หวังสว่าง ทางเชื่อม เอื้อมสัมพันธ์
หมายจะกลั่น กลอนกานท์ สื่อสาส์นเธอ

คืนจันทร์แรม แจ่มฟ้า นภากาศ
ดาวพิลาส เรียงกัน ฉันมองเหม่อ
คราเมฆเคลื่อน เลื่อนทับ พลันกลับเบลอ
ร่ำละเมอ เพ้อหา น้ำตานอง

ลมพัดโชย โรยริน ประทิ่นหอม
พอช่วยย้อม ชีวิต ดับจิตหมอง
กรุ่นกลิ่นกลีบ บีบนาสา กาสะลอง
เสมือนของ คุณงาม สมความดี

คำจากสรวง ห่วงใย เพียรไถ่ถาม
เพียงชั่วยาม ห่างกัน กระชั้นถี่
ออกกอปรกิจ จิตอาสา งานนามี
ยิ่งทวี ป่วนใน ให้อาวรณ์

ฝากจันทรา อาทิตย์ สถิตฟ้า
ฝากดารา ใหญ่น้อย ดอยสิงขร
ฝากอากาสะ นที สีทันดร
บอกบังอร คิดถึงนาง มิสร่างซา

รพีกาญจน์ 59



"กาสะลองพฤศจิกา"

แสงสีเหลืองเรืองรอง...ของอรุณ
ตะวันออกแดดอุ่น...ละมุนหวาน
กาสะลองบิดพลิ้ว...ปลิวร่วงบาน
ดอกสีขาวพราวจาร...ผ่านตามลม

สายลมเอื้อยเฉื่อยเย็น....เด่นพิสุทธิ์
ดอกปีบโปรยประดุจ...ดาวผสม
ผลิร่วงบานลานดิน...สินธุ์น่าชม
ฤดูหนาวน่าภิรมย์...กมลจินต์

ความทรงจำจิตนี้...ที่แห่งหนึ่ง
ริมแม่ปิงอิงแอบซึ้ง...คะนึงถิ่น
ดอกปีบโปรยโรยร่วง...พ่วงระริน
ลงในห้วงธาราสินธุ์....บินโบกลง

ความคิดถึงจึงจด...บทกลอนกานท์
 ฝากปีบแย้มแซมบาน...สื่อสารส่ง
ช่อดอกไม้ไพรงาม...นามยืนยง
“กาสะลอง”ปลิวเยี่ยงหงส์...ตรงข้างเธอ

ทุกฤดูรู้เวียน...หมุนเปลี่ยนผ่าน
ตามเวลาห้วงกาล...ขานเสนอ
กาสะลองพฤศจิกา....คราพบเจอ
จึงโรยร่วงห่วงละเมอ...เพ้อถึงกัน

หทัยกาญจน์

 เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุนันยา, อริญชย์, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, กามนิต, plang, ลมหนาว, คันไถ, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
02 พฤศจิกายน 2011, 02:04:AM
sitang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 129



« ตอบ #9 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2011, 02:04:AM »
ชุมชนชุมชน

นภาเศร้าฟ้าสีหม่น
ตั่งคนเหงาเศร้าใจฝืน
อารมณ์ขมใจล้มทั้งยืน
กลืนกินรอยร้าวในวิญญาณ
คืนค่ำย้ำแสงภาณุมาศ
วาดฝันเอาไว้ไม่อาจสาน
รำลึกนึกถึงนิรันดร์กาล
ปานทาสผูกชีพจาบัลย์
ดึกแล้วแก้วเอยเฉลยรัก
รู้จักชีพวายหวาดหวั่น
หัวใจใคร่ร่ำรำพัน
หากฝันคงดีกว่าตื่นเอย










สิตางศุ์
๐๒๑๑๒๕๕๔

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ♥หทัยกาญจน์♥, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, อริญชย์, สุนันยา

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 พฤศจิกายน 2011, 02:25:AM
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2011, 02:25:AM »
ชุมชนชุมชน



"รำพันคำรำเพยเอยจากลม"

ห้วงนิทราคราหลับพับหลายตื่น
เสียงสะอื้นเอ่ยร่ำไห้หัวใจเผย
นภาเศร้าฟ้าสีหม่นจนจำเปรย
ดั่งรำพันคำรำเพยเอยจากลม

ที่พัดพลิ้วปลิวเคลื่อนเลื่อนเที่ยวท่อง
แล้วลอยล่องลอยวนจนผสม
หลากรำลึกรู้สึกตรึกอารมณ์
จนสะดุดหยุดเชยชมคมนภา

นภาเศร้าฟ้าสีหม่นคนใจหมอง
ฟ้าทึมเทาเหงาจ้องมองข้างหน้า
หลังฟ้าดำอำพรางขวางบังตา
ฟ้าสีครามงามสง่าเคลื่อนมาแทน

หทัยกาญจน์

 เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sitang, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, อริญชย์, สุนันยา

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s