น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
06 พฤษภาคม 2024, 12:26:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย  (อ่าน 7369 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
02 มีนาคม 2011, 01:04:PM
จ้อง เจรียงคำ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 405
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 636



« เมื่อ: 02 มีนาคม 2011, 01:04:PM »
ชุมชนชุมชน




* น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย *


 
อาจดูเหมือนหมางเมิน..เกินไปนิด
อาจดูเหมือนความคิด..ไม่เคยถึง
อาจดูเหมือนผ่านเลยเฉยบึ้งตึง
อาจเหมือนหนึ่งไม่เห็นเป็นสำคัญ

แต่ลึกลึกลงไป..ใจเล็กเล็ก
มิใช่เหล็กหล่อนูนหรือปูนปั้น
ปรารถนาภายในห้วงใจนั้น
แอบผูกพันกลายกลายทางสายตา

สิทธิ์มิอาจเผยออกแย้มดอกรัก
เพียงพักพัก เผลอไผล..มองใบหน้า
เพียงคิดคิด ไขว้เขว..บางเวลา
เพียงแอบหวง ห่วงหา..บางท่าที

วาสนาน้อยเอย..เคยร่วมสร้าง
จึงต้องร้าง-ห่างหน..คนละที่
ยิ่งเห็นสายตาน้องมองอย่างนี้
ราวสุมดวงฤดี..พี่ทรมาน

เมื่อเปลวเพลิงเริงล่อโหมก่อเลศ
โชนรอบเขตเก็บเชื้อ..เอื้อเพลิงผลาญ
องศาร้อนต้อนไล่เผ่าไหม้นาน
เจียนแทบจุดต้านทานทางความร้อน

แม้นดูเหมือนว่าพี่ไร้ทีท่า
โปรดสายตาอย่าทอดอย่างออดอ้อน
แม้นดูเหมือนเงียบงันมิสั่นคลอน
ก็โปรดอย่าเว้าวอนด้วยวาจา


หากแต่พี่ประสงค์ซ่อนกรงเล็บ
และชักเก็บหัวใจการไล่ล่า
แต่หากน้องนั้นหมายคิดทายท้า
เสืออาจเลือดขึ้นหน้าไร้ปรานี

ที่ดูเหมือนหมางเมินเกินไปนิด
ทั้งที่จิตคิดจองเป็นของพี่
หาใช่เพราะชิงชัง...แต่หวังดี
มิอยากทำย่ำยีราคีคาว

ตัดใจแต่วันนี้..น้องที่รัก
ลุกตั้งหลักเสียใหม่ก่อนใจก้าว
อาจความจริงยิ่งยวด..ความปวดร้าว
เก็บความรักสีขาว..พร่างพราวไว้

พรหมลิขิตสำรอง ..อาจหมองหม่น
เกินกว่าทนยิ้มรื่นหยิบยื่นให้
ถึงดอกรักปักจองเต็มสองใจ
เราต่างรู้ใช่ไหมไกลเกินจริง

โปรดเข้าใจท่าทีของพี่บ้าง
มีฐานะไม่ต่าง..เจ็บอย่างยิ่ง
ครอบครัวต้องมีหลักให้พักพิง
มิอาจทิ้งลาล้มให้ตรมตรอม

น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย
กลิ่นกำจายโชยฟุ้งจรุงหอม
สุดหลงใหลใฝ่ชมฝันดมดอม
พวงพะยอมแย้มยั่วก็กลัวช้ำ

จึงจำใจจากจรแต่ตอนต้น
อเวจีสีหม่นบนคืนค่ำ
สิ้นตรงจุดนัดพบจบเงื่อนงำ
ใต้ราตรีสีดำหน้าคอนโดฯ

....................................

ตัดใจจบหลบเลี่ยงก่อนเพลี่ยงพล้ำ
ตัดใจจำอำลาหน้าคอนโดฯ

 

จ้อง  เจรียงคำ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เกล็ดนาคา, plang

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มีนาคม 2011, 07:45:PM
ปากะญอ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 48
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« ตอบ #1 เมื่อ: 02 มีนาคม 2011, 07:45:PM »
ชุมชนชุมชน



เสียงตามสายครื้นเครงบรรเลงขับ
ใจขยับร้องเต้นเป็นเส้นสาย
ฟังสำเนียงคนซื่อถือบรรยาย
ให้พี่ชายอย่างฉันทุกวันคืน

กลั่นจากวันเป็นเดือนเลื่อนรู้จัก
ได้สบพักตร์เพียงจอพอให้ชื่น
หลายวันเนาว์ เคล้ากันใกล้ ไร้จุดยืน
ใจไม่ตื่นเพราะหลงเจ้าเฝ้าแต่คอย

เมื่อหทัยคิดไขว่คว้ายิ่งล้านัก
กลัวอกหักจากรอพอให้หงอย
กลัวน้ำตาหลั่งร่วงช้ำดวงรอย(ใจ)
จึงก้าวถอยลาออกมานอกใจ

จึงเพียรหมั่นฝันคิดชิดเพียงพี่
ขื่นฤดีมิน้อยเลย เฉลยไข
ขอเป็นห่วงรักเจ้าเฝ้าห่วงใย
แบบไกล-ไกลอย่างพี่ชาย ที่หมายมอง

ขอเก็บฝัน ที่มีให้ ใส่อักษร
เป็นร้อยกรอง กลอนฝาก จากคนหมอง
ขอภักดีในรักทักประคอง
ส่วนลึกจอง เพียงบางช่วง  ใช่ล่วงเลย



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

"หัวใจมีไว้รัก      แม้อกหักยังรับไหว
หัวใจไม่ให้ใคร   แต่เก็บไว้ให้ตัวเอง"
04 มีนาคม 2011, 11:01:AM
Kotchanan
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 04 มีนาคม 2011, 11:01:AM »
ชุมชนชุมชน




* น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย *


 
อาจดูเหมือนหมางเมิน..เกินไปนิด
อาจดูเหมือนความคิด..ไม่เคยถึง
อาจดูเหมือนผ่านเลยเฉยบึ้งตึง
อาจเหมือนหนึ่งไม่เห็นเป็นสำคัญ

แต่ลึกลึกลงไป..ใจเล็กเล็ก
มิใช่เหล็กหล่อนูนหรือปูนปั้น
ปรารถนาภายในห้วงใจนั้น
แอบผูกพันกลายกลายทางสายตา

สิทธิ์มิอาจเผยออกแย้มดอกรัก
เพียงพักพัก เผลอไผล..มองใบหน้า
เพียงคิดคิด ไขว้เขว..บางเวลา
เพียงแอบหวง ห่วงหา..บางท่าที

วาสนาน้อยเอย..เคยร่วมสร้าง
จึงต้องร้าง-ห่างหน..คนละที่
ยิ่งเห็นสายตาน้องมองอย่างนี้
ราวสุมดวงฤดี..พี่ทรมาน

เมื่อเปลวเพลิงเริงล่อโหมก่อเลศ
โชนรอบเขตเก็บเชื้อ..เอื้อเพลิงผลาญ
องศาร้อนต้อนไล่เผาไหม้นาน
เจียนแทบจุดต้านทานทางความร้อน

แม้นดูเหมือนว่าพี่ไร้ทีท่า
โปรดสายตาอย่าทอดอย่างออดอ้อน
แม้นดูเหมือนเงียบงันมิสั่นคลอน
ก็โปรดอย่าเว้าวอนด้วยวาจา


หากแต่พี่ประสงค์ซ่อนกรงเล็บ
และชักเก็บหัวใจการไล่ล่า
แต่หากน้องนั้นหมายคิดทายท้า
เสืออาจเลือดขึ้นหน้าไร้ปรานี

ที่ดูเหมือนหมางเมินเกินไปนิด
ทั้งที่จิตคิดจองเป็นของพี่
หาใช่เพราะชิงชัง...แต่หวังดี
มิอยากทำย่ำยีราคีคาว

ตัดใจแต่วันนี้..น้องที่รัก
ลุกตั้งหลักเสียใหม่ก่อนใจก้าว
อาจความจริงยิ่งยวด..ความปวดร้าว
เก็บความรักสีขาว..พร่างพราวไว้

พรหมลิขิตสำรอง ..อาจหมองหม่น
เกินกว่าทนยิ้มรื่นหยิบยื่นให้
ถึงดอกรักปักจองเต็มสองใจ
เราต่างรู้ใช่ไหมไกลเกินจริง

โปรดเข้าใจท่าทีของพี่บ้าง
มีฐานะไม่ต่าง..เจ็บอย่างยิ่ง
ครอบครัวต้องมีหลักให้พักพิง
มิอาจทิ้งลาล้มให้ตรมตรอม

น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย
กลิ่นกำจายโชยฟุ้งจรุงหอม
สุดหลงใหลใฝ่ชมฝันดมดอม
พวงพะยอมแย้มยั่วก็กลัวช้ำ

จึงจำใจจากจรแต่ตอนต้น
อเวจีสีหม่นบนคืนค่ำ
สิ้นตรงจุดนัดพบจบเงื่อนงำ
ใต้ราตรีสีดำหน้าคอนโดฯ

....................................

ตัดใจจบหลบเลี่ยงก่อนเพลี่ยงพล้ำ
ตัดใจจำอำลาหน้าคอนโดฯ

 

จ้อง  เจรียงคำ




* น้องแค่ดอกรักซ้อนซ่อนกลีบช้ำ*


น้องปลูกดอกรักไว้.. ใช่ดอกพุทธ
แม้สายหยุดผุดโคนอยู่โทนโท่
อีกขยับปากร้องท่องนะโม
จิตยังโผลงต่ำ.. ไร้สำนึก

วาสนาเคยสร้างปูทางร่วม
มิท้น, ท่วม, แนบแน่น เป็นแผ่นปึก
ยิ่งมองเห็นเนตรวาว.. พี่ร้าวลึก
ก็รู้..ศึก รักนี้ เห็นทีร้าว

ใช่!!กองเพลิงไฟรานเพียงผลาญพี่
รุกขยี้บีฑาคร่าใจสาว
เห็นกงจักรดุจดั่งบัลลังก์ดาว
เฝ้าโน้มน้าวพันพัวลืมชั่ว-ดี

โยนชื่อเสียงศักดิ์หงส์ทะนงทิ้ง
ทำอ้อยอิ่ง, เอาใจ ไร้ศักดิ์ศรี
หมายสยบอุราแห่งชาตรี
แม้นท่าทีพี่เผย.. คือเฉยชา

แต่กรงเล็บเสือหนุ่ม ฤา ซุ่มพ้น
หากพรานขนกับดัก วางดักหน้า
หว่านเสน่ห์เล่ห์ร้ายใช้มารยา
เว้าวอนวาจาเอื้อนจ้องเฉือนใจ

ทั้งที่รู้ ลูก, เมีย พี่เสียขวัญ
หัวอกหญิงเหมือนกัน ห้ำหั่นได้
แหวกจารีตข่มเหงมิเกรงใคร
ประณามใส่ก็พร้อม ยอมย่อยยับ!

หัวใจดวงเล็กเล็ก ใช่เหล็กกล้า
เมื่อดอกรักโรยราต้องคว้าจับ
แม้แวดล้อมปัญหาคณานับ
มิยอมดับไฟรักยังถักแพร

อาจดูเหมือนร้ายร้ายลืมอายบ้าง
อาจดูต่างประจำทำตัวแย่
ลึกลงไปใจนี้มีรักแท้
แต่ดูแลไม่ได้เพราะสายเกิน

กว่าสำนึกบอกใจให้เริ่มตัด
ก็รู้ชัดพี่วางตัวห่างเหิน
เพราะเสรีรักใช่ใครเชื้อเชิญ
แล้วจักเดินตามทางได้อย่างคิด

น้องแค่ดอกรักซ้อนซ่อนกลีบช้ำ
พลิ้วร่ายรำน้ำตาปราชัยจิต
หักอารมณ์ข่มหลงปลงชีวิต
เลิกล้ำสิทธิ์ผิดศีลคิดปีนงิ้ว

เก็บความรักสีขาว..พร่างพราวไว้
เพียงในใจไม่โทษไม่โกรธกริ้ว
เมื่อกลีบรักสุดท้าย.. ไหว,ร่วงปลิว
ทุกรอยริ้วรวดร้าว.. คงเบาบาง

ยามดอกรักคลี่ออกเป็นดอกโศก
สีของโลกหม่นพร่าแม้ฟ้าสาง
มิอาจเดินเคียงได้ถึงปลายทาง
หักใจห่างตอนนี้.. ดีสุดแล้ว
...                 ...
ตัดใจขายคอนโดฯ แล้วปล่อยวาง
จบทุกอย่างตอนนี้.. ดีสุดแล้ว



 
สาวน้อยเซย์ ฮาโหล
ทักทายพี่อาร์ตี้ค่ะ..
มาหาที่คอนโดฯ ก็ไม่เจอแล้วนะคะ...เพราะขายแล้ว หุหุ
(เคลียร์กับคนข้างๆ เอาเองนะคะ บัวไม่เกี่ยว)
 
จ้อง จะแซวคน โฮ่ะ ๆๆๆ




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 มีนาคม 2011, 12:07:PM
jt
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 42
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 129



« ตอบ #3 เมื่อ: 04 มีนาคม 2011, 12:07:PM »
ชุมชนชุมชน

น้องคือดอก รักซ้อน..เมื่อตอนสาย
ใจพี่ชาย โบยบิน ถวิลหา
อยากชิดชม ดมกลิ่น ปิ่นมาลา
แต่เกินคว้า มาครอง ในห้องใจ

เมื่อดอกรัก ปักแล้ว ไม่แคล้วช้ำ
หกขมำ ถลำเดิน เกินแก้ไข
จำตัดสิ้น มิให้เหลือ แม้เยื่อใย
เพราะพี่ไซร้ (รับ)ไม่ได้หรอก ดอกสีทอง


 โอว์...มายก็อด โอว์...มายก็อด โอว์...มายก็อด

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

04 มีนาคม 2011, 01:40:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #4 เมื่อ: 04 มีนาคม 2011, 01:40:PM »
ชุมชนชุมชน

 
ลาตายดีกว่าตู      ลาตายดีกว่าตู

พี่พร่ำเพ้อละเมอหามานานแล้ว
แต่น้องแก้วมองเมินคิดเดินหนี
หลงรักน้องนงคราญมานานปี
แต่คนดีใจดำไม่นำพา

อยากตามตื๊อถือสิทธิ์เพราะคิดลึก
ไร้สำนึกดีงามด้วยความบ้า
อยากจะบุกถึงบ้านของกานดา
เพียงเห็นหน้านิดหนึ่งคงซึ้งนาน

เมื่อมาคิดอีกทีไม่ดีแน่
ไม่อยากแส่ความเสี่ยวให้เสียวซ่าน
ไม่อยากหลงโง่งมจนซมซาน
จึงต้องคลานกลับคืนขมขื่นทรวง

ณ วันนี้น้องแก้วคงแคล้วคลาด
กลีบช้ำ,ขาด,พลาดสอยจึ่งลอยร่วง
ตกสวรรค์บันดาลวิมานลวง
โถ พุ่มพวง เจอรักซ้อน ตอนสายแล้ว.!!  งอนแล้วด้วย

เสียใจด้วย ต้องรีบเคลียร์ น้องเมียรอ.!!  ยิ้มกวนตีน
 
ขอจีบ...ได้ป่ะ

"ปรางค์ สามยอด"


มาร่วมแซวแบบขำๆ เน้อ แบบว่าฝันเอา อ่ะ   หัวโขมย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

04 มีนาคม 2011, 04:08:PM
ตะวันฉาย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 427
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,159



« ตอบ #5 เมื่อ: 04 มีนาคม 2011, 04:08:PM »
ชุมชนชุมชน



...เมื่อเป็นดอกรักซ้อน...ขอซ่อนเจ็บ...


...ความรู้สึกส่วนลึกบันทึกเก็บ
ส่วนที่เจ็บฝังลงตรงใจฉัน
รู้ตัวดีว่าไร้สิทธิ์ชิดชีวัน
ขอแอบฝันเพียงช่วงไว้พ่วงใจ

...อาจเย็นชาบางครั้งอย่าพลั้งว่า
แต่อุราร้อนรุ่มสุ่มสั่นไหว
แผดเข้าทรวงดวงมาลย์ลานหทัย
เหมือนถ่านไฟเผาคร่าน้ำตานอง

...เมื่อหัวใจคิดเกิน...ยากเดินกลับ...
เลยตั้งรับหักลาพาให้หมอง
หัวใจพี่มีเขาเข้าครอบครอง
แม้เป็นรองยังไร้สิทธิ์ตัดจิตลา

...เมื่อเป็นดอกรักซ้อน...ขอซ่อนเจ็บ...
ขอเพียงเก็บภาพทอนตอนห่วงหา
อดีตคำล้ำพจน์ขอลดพา
ปราถนาให้พี่สุข...เลยหยุดรัก

...แต่ส่วนในลึก-ลึกผนึกแน่น
ทั่วทุกแท่นลานใจใช่จะหัก
ขอเก็บภาพฉาบฉายให้ทายทัก
เข้าประจักษ์ส่วนที่เจ็บ...ก่อนเก็บทอน...


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ว่างเปล่า
04 มีนาคม 2011, 09:08:PM
สุนันยา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 799
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,805


ความรักของฉัน อยู่ในบทวี จบบทกวี ก็ไม่มีความรัก


« ตอบ #6 เมื่อ: 04 มีนาคม 2011, 09:08:PM »
ชุมชนชุมชน





โอ้เจ้าดอกรักเอ๋ยเคยบานชื่น
ชูช่อรื่น สีขาว พราวไสว
งามพิสุทธิ์ เกินค่ากว่าอื่นใด
ดอกรักร้อยมาลัย คล้องใครกัน


โอ้เจ้าดอกรักเอ๋ย ที่เลยล่วง
สุดแสนห่วง เจ้าช้ำ ซ้ำโศกศัลย์
เป็นรักซ้อน ย้อนทรวง บ่วงจาบัลย์
ดอกรักนั้น บานเมื่อสาย...จวนใกล้โรย


สายลมล่อง หยอกล้อ ช่อดอกรัก
กลัวกลีบเจ้า ร่วงหัก คราวแห้งโหย
บานเมื่อสาย กลายซ้อน นอนโอดโอย
น้ำตาโปรย...โรยริน ...ดวงจินต์ตรม


คือ...รักหนึ่ง แอบซ่อน ร้าวรอนนัก
เปรียบดอกรัก กลีบซ้อน ตอนขื่นขม
เป็นรักซ้อน ซ่อนใจ ในอารมณ์
ต้องฝืนข่ม ระทมท้อ...ยากต่อเติม


เป็นเพียง ดอกรักซ้อน บานตอนสาย
สิ้นกลิ่นอาย คลายหวาน จะสานเพิ่ม
เพลงพรหมแผ่ว ผ่านผัน คือฝันเดิม
ดอกรักเริ่ม ร่วงช้ำ...ทิ่มตำทรวง


ไม่อาจปอง ครองใจ ไว้เพียงหนึ่ง
ไม่อาจซึ้ง เชยชิด ดั่งคิดห่วง
ไม่อาจยื้อ แย่งเขา เพื่อเราควง
ไม่อาจท้วง ล่วงล้ำ คำสัญญา....



"สุนันยา"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชะตาชีวิต ลิขิตผกผัน....ดิ้นรนฝ่าฟัน..เพื่อฝันที่มี
11 มีนาคม 2011, 03:09:PM
จ้อง เจรียงคำ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 405
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 636



« ตอบ #7 เมื่อ: 11 มีนาคม 2011, 03:09:PM »
ชุมชนชุมชน


* น้องแค่ดอกรักซ้อนซ่อนกลีบช้ำ*


น้องปลูกดอกรักไว้.. ใช่ดอกพุทธ
แม้สายหยุดผุดโคนอยู่โทนโท่
อีกขยับปากร้องท่องนะโม
จิตยังโผลงต่ำ.. ไร้สำนึก

วาสนาเคยสร้างปูทางร่วม
มิท้น, ท่วม, แนบแน่น เป็นแผ่นปึก
ยิ่งมองเห็นเนตรวาว.. พี่ร้าวลึก
ก็รู้..ศึก รักนี้ เห็นทีร้าว

ใช่!!กองเพลิงไฟรานเพียงผลาญพี่
รุกขยี้บีฑาคร่าใจสาว
เห็นกงจักรดุจดั่งบัลลังก์ดาว
เฝ้าโน้มน้าวพันพัวลืมชั่ว-ดี

โยนชื่อเสียงศักดิ์หงส์ทะนงทิ้ง
ทำอ้อยอิ่ง, เอาใจ ไร้ศักดิ์ศรี
หมายสยบอุราแห่งชาตรี
แม้นท่าทีพี่เผย.. คือเฉยชา

แต่กรงเล็บเสือหนุ่ม ฤา ซุ่มพ้น
หากพรานขนกับดัก วางดักหน้า
หว่านเสน่ห์เล่ห์ร้ายใช้มารยา
เว้าวอนวาจาเอื้อนจ้องเฉือนใจ

ทั้งที่รู้ ลูก, เมีย พี่เสียขวัญ
หัวอกหญิงเหมือนกัน ห้ำหั่นได้
แหวกจารีตข่มเหงมิเกรงใคร
ประณามใส่ก็พร้อม ยอมย่อยยับ!

หัวใจดวงเล็กเล็ก ใช่เหล็กกล้า
เมื่อดอกรักโรยราต้องคว้าจับ
แม้แวดล้อมปัญหาคณานับ
มิยอมดับไฟรักยังถักแพร

อาจดูเหมือนร้ายร้ายลืมอายบ้าง
อาจดูต่างประจำทำตัวแย่
ลึกลงไปใจนี้มีรักแท้
แต่ดูแลไม่ได้เพราะสายเกิน

กว่าสำนึกบอกใจให้เริ่มตัด
ก็รู้ชัดพี่วางตัวห่างเหิน
เพราะเสรีรักใช่ใครเชื้อเชิญ
แล้วจักเดินตามทางได้อย่างคิด

น้องแค่ดอกรักซ้อนซ่อนกลีบช้ำ
พลิ้วร่ายรำน้ำตาปราชัยจิต
หักอารมณ์ข่มหลงปลงชีวิต
เลิกล้ำสิทธิ์ผิดศีลคิดปีนงิ้ว

เก็บความรักสีขาว..พร่างพราวไว้
เพียงในใจไม่โทษไม่โกรธกริ้ว
เมื่อกลีบรักสุดท้าย.. ไหว,ร่วงปลิว
ทุกรอยริ้วรวดร้าว.. คงเบาบาง

ยามดอกรักคลี่ออกเป็นดอกโศก
สีของโลกหม่นพร่าแม้ฟ้าสาง
มิอาจเดินเคียงได้ถึงปลายทาง
หักใจห่างตอนนี้.. ดีสุดแล้ว
...                 ...
ตัดใจขายคอนโดฯ แล้วปล่อยวาง
จบทุกอย่างตอนนี้.. ดีสุดแล้ว



 
สาวน้อยเซย์ ฮาโหล
ทักทายพี่อาร์ตี้ค่ะ..
มาหาที่คอนโดฯ ก็ไม่เจอแล้วนะคะ...เพราะขายแล้ว หุหุ
(เคลียร์กับคนข้างๆ เอาเองนะคะ บัวไม่เกี่ยว)
 
จ้อง จะแซวคน โฮ่ะ ๆๆๆ





รักสามเส้า..เราร้าง..หรือสร่างสิ้น


โอ้แม่ดอกรักซ้อน..น้องร่อนกลีบ
โรยรารีบร่วงลงจำนงแน่ว
สุคนธ์ชื่นรื่นฤดีไร้วี่แวว
สุดท้ายแคล้วคลาดสิ้นเพียงกลิ่นจาง

ดอกรักเอยเคยถนอมให้ยอมงอก
รู้ทั้งรู้ชูดอก..นอกกระถาง
ลืมผิด,ชอบ ครอบงำเร้นอำพราง
แต่สุดท้ายปลายทาง..คือร้างไร้

โอ้อุตส่าห์ทอดต่ำโน้มลำต้น
จากเบื้องบนทิ้งศักดิ์..ถือรักใคร่
คลี่กลีบหอมยอมหาบ..ผิด,บาป ไว้
ยอมถูกไฟตัณหาหลอมอารมณ์

สุขนาฏกรรม...ควรดำเนิน
แต่!มิอาจล่วงเกิน..ความเหมาะสม
ดอกรักซ้อนซ่อนไว้ให้หมายชม
กลีบไหวร่วงควงลมกองถมดิน

โศกนาฏกรรม..แห่งน้ำเน่า
รักสามเส้า..เราร้าง..หรือสร่างสิ้น
ยากตัดห้วงห่วงหวามความเคยชิน
โอ้ทว่า อ้าถวิล..กลิ่นดอกรัก

มิอาจเชยชมชื่นยืนแนบน้อง
มิอาจมองสองดวงเนตรตวงตัก
มิอาจเชยชมชิดพิศดวงพักตร์
มิอาจหักจิตพลัน..ได้ทันที

ยามดอกรักกลีบลิ่วปลิดปลิวร่วง
โลกทั้งดวงเปลี่ยนแปลงหม่นแสงสี
กลีบดอกเกลื่อนเหมือนกรรมบีบย่ำยี
แต่ทุกกลีบล้วนมี..พิสุทธิ์พราว

เผชิญโลกโชคดี..เถิดที่รัก
น้อยบุญนักพรากครองแนบน้องสาว
ทั้งที่รักสุดมานแนบนานยาว
ควรถึงคราวปิดฉาก..จากนี้ไป

แต่ไฉนใจเอ๋ยจึงเผยปวด
โอ้ร้าวรวดเกินนี้มีอีกไหม?
น้องขายต่อคอนโด..โถน้ำใจ
ขายเมียพี่..ทำไม..ไม่บอกกัน

จ้องเจ้าของคอนโด..โถทรามวัย
จะบอกเขาอย่างไร..คิดไม่ทัน
..


โอว์...มายก็อด




ทักทายน้องบัวเช่นกันจ้ะ..ไม่เจอกันนานเลย
เจอที..อิ่มอารมณ์กลอน.. ยิ้มแก้มแดง


จ้อง คิดถึงคนแซว  ยิ้มกวนตีน


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s