~รวมบทกลอนของพระอาจารย์จี้กง~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
05 พฤษภาคม 2024, 12:47:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~รวมบทกลอนของพระอาจารย์จี้กง~  (อ่าน 11535 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
29 เมษายน 2011, 02:55:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« เมื่อ: 29 เมษายน 2011, 02:55:PM »
ชุมชนชุมชน




ขอเกริ่นหน่อยนะครับ  โดยส่วนตัวผมนับถือและฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์จี้กงมานานนับสิบปีแล้ว เพราะช่วงหนึ่งผมมีโอกาสได้ร่วมแสวงบุญล้างป่าช้า แล้วได้ฟังธรรมะบรรยายจากอาจารย์ เห็นแล้วต้องบอกว่าทึ่งและนับถืออาจารย์ท่านเป็นอย่างมาก เวลาปกติท่านจะลงประทับทรงอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง ท่านจะเป็นสายบุ๋นครับ ไม่มีการแสดงอิทธิฤทธิ์ใดใดทั้งสิ้น ร่างทรงจะพูดไม่ได้ในขณะท่านประทับ โดยท่านจะสื่อสอนผ่านไม้ง่ามเขียนลงกะบะชุ่มน้ำมนต์(คนจีนเรียกไม้กีครับ) เวลาท่านบรรยายธรรม ท่านจะร่ำสุราโบกพัดไปด้วย แล้วจะเขียนเป็นกลอนซะส่วนใหญ่ ท่านสามารถเขียนกลอนได้แบบไหลโดยไม่หยุด ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสติดตามท่านไปประทับทรง ครั้งนั้นมีชนชาวจีนจากทั่วโลกเกือบ30ประเทศมาร่วม

พอท่านลงประทับ ก็ได้มีผู้คนกว่าร้อยคนทั้งไทยและต่างประเทศ มาเข้าแถวเพื่อถามและให้ท่านชี้ทางสุข แต่ละคนก็มีปัญหาต่างๆกันไป ...แล้วครั้งนั้นผมก็ได้เห็นท่านสาธยายธรรมเป็นกลอนออกมา จากคนแรกจนถึงคนสุดท้าย โดยกลอนที่เขียนออกมาในร้อยบทคล้องจองสัมผัสกันทุกๆคน ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักบ้านกลอนเลยไม่รู้เสน่ห์ของกลอนมากเท่าไร ชาวต่างประเทศที่มาถามท่านก็บรรยายเป็นกลอนภาษาจีน และทุกๆบทมีบันทึกเก็บไว้เพื่อเผยแพร่ต่อ  ก็พอดีทางมูลนิธิได้รวมเล่มแล้วส่งมาให้บทกลอนของท่านเล่มหนาปึ๊กเลยครับ ผมเห็นแล้วเลยอยากเอามาให้เพื่อนๆอ่านกัน

(ตอนแรกผมไม่เชื่อเรื่องการทรงเจ้าเท่าไหร่ครับ จนมาพบท่าน ลงประทับร่างทรงที่เป็นรุ่นน้องผม เด็กคนนี้เรียนไม่จบอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่คล่อง แต่เขาทำสมาธิเก่งและช่วยงานบุญมาตลอด ท่านจึงเมตตาเลือกเป็นร่าง พอท่านเมตตาประทับแล้ว ท่านเอ๋ยเด็กคนนี้กลายเป็นคนละคนไปโดยปริยาย เขียนกลอนออกมาแต่ละกลอน สุดยอดทั้งนั้นครับ ผมจึงเชื่อว่าอาจารย์ท่านยังคงวนเวียนคอยโปรดสัตว์โลกอยู่ตลอด ถ้าใครมาขอหวยโดนไม้เคาะหัวไล่ตะเพิดกลับเลยครับ ครั้งแรกท่านสอนผมว่า "อะไร อะไร ก็คือตน เหตุอะไรก็ใจตน ผลอะไรก็ใจตน อย่าสับสนกับกลโลก" ผมฟังแล้วขนลุกเกิดศรัทธาขึ้นทันทีโดยไม่มีข้อขัดแย้งเลยครับ สาธุๆ)

ที่เอามาลงนี่เป็นเพียงบางบท ไม่รู้จะเลือกบทไหน(กลอนท่านมีมากกว่าหมื่นบทครับ แต่ในหนังสือคัดเพียงพันกว่าบท) แบบสุดยอดมากๆก็มีครับ แต่วันนี้เอาบทอ่านสบายๆก่อนแล้วกันครับ วันหลังเดี๋ยวว่ากันใหม่


บางบทอาจไม่คล้องและดูขัด แต่นี่เป็นกลอนสไตร์จีนครับ เอาสำนวนสำคัญเข้าไว้


~กลอนธรรมดีๆจากพระอาจารย์จี้กง~


แก้ วิบากยากกว่ายากไม่อาจแก้
กรรม เที่ยงแท้ย้อมจะส่งผลสนอง
อย่าง ที่เห็นที่เป็นอยู่รู้ครรลอง
ไร ไรก็เห็นจะต้องรับผลกรรม

ให้ ตะหนักชัดรู้ดูต้นเหตุ
ถูก หรือผิดพิศสังเกตุเป็นฉนำ
วิ เคราะห์เห็นเป็นปัญญาพาแจ้งธรรม
ธี รภาพพึงน้อมนำหมั่นบำเพ็ญ

*******************

ความเคยชินจะนำให้เถลไถล
ความเปลี่ยนแปลงทำให้ไวตื่นตัวเสมอ
ความเชื่อยชาพาให้ใจเราเบลอ
ความรนรานทำให้เจอปัญหาเรื่อยไป
ความสุขุมทำให้ใจนั้นนุ่มนวล
ความผันผวนทำให้ใจเราหวั่นไหว
ความวิตกมักทำให้เราตกใจ
ความกลัดกลุ้มมักทำให้เรากังวล
ความเยือกเย็นทำให้ไม่รนร้อน
ความหนักแน่นทำให้ผ่อนคลายสับสน
ความมั่นใจทำหใ้เรามั่นคง
ความดีงามทำให้ตนเป็นคนดี

****************

อายุ ยืนหมื่นแสนชนมีคนเดียว
ชื่อเสียง ดังประเดี๋ยวก็ดับหาย
เกียรติยศ ปรากฎแล้วไม่แคล้วกลับกลาย
เงิน อยากมีมากมายก็ได้เท่าที่มี

****************
ชอบมากไปย่อมทำให้เราลุ่มหลง
ชังมากล้นก็พาตนเกิดโทสา
ชอบอันใดวางใจไว้กลางมรรคา
ชังผู้ใดคิดกลับมาพาดูตัว

ได้ดังนี้ไม่มีทุกข์ไม่จุกเสียด
ความโกรธเกลียดก็ไม่มาคอยสุมหัว
เป็นผู้ใหญ่ใจต้องใหญ่ให้สมตัว
ไม่หม่นมัวนี้แน่แท้รู้แก่ใจ

**
ชอบคือหลงจงรู้ไว้นั่นโมหะ
ชังคือเกลียดเป็นโทสะพาครวญเห็น
ชอบก็ดีชังก็ดีนี้ชัดเจน
ว่านำพาทุกข์เข็ญให้คนเรา

**
ชอบทำบุญแต่อย่าวุ่นจนหลงบุญ
ชังทำบาปต้องผดุงมุ่งกุศล
นำใจตัวรู้พร้อมอยู่ในตน
คิดระงับรู้ดับข่มความชอบชัง

**
ชอบเล่นหุ้นถ้าหุ้นตกทุกข์อกตรม
ชังไอ้คนทำหุ้นร่วงทุกข์ข่วงเข็ญ
พอเพียงเถิดประเสริฐชัยใจสุขเย็น
ดีเพราะเล่นหุ้นคุณธรรมนำกำไร

******************
มาขอพรนึกว่ามาขอตังส์
ขอพรธรรมนำอำนวยอวยสมหวัง
พรมงคลเกิดตนต้องมุ่งมั่น
ชัยจึงได้ให้สมหวังนั้นแหละพร

***************
มาจากสูญกลับสู่สูญล้วนว่างเปล่า
สรรพสิ่งถ้วนทุกอย่างล้วนเปล่าสูญ
แล้วไยต้องคิดสั่งสมให้เพิ่มพูน
เป็นความสูญเปล่าประโยชน์ของชีวิต

**************
ขาธรมเทียมเพียงสวมใส่เดินได้
ขาธรรมไซร้ใช้แทนใจใฝ่วิถี
ขามนุษย์สุดประเสริฐเลิศชีวี
ขาเดินดีเพราะมีธรรมนำทางไป

***************
มาจากไหนไปสู่ไหนใครเห็นชัด
ไปถึงวัดนับเพียงศพกลบฝังเผา
มาสู้โลกประโยชน์ใดรู้ใจเรา
ไปหนใดทางหนักเบาเราไม่รู้เลย
เพราะฉะนั้นจงตั้งอยู่ในปัจจุบันขณะ
เร่งลดละอคติอน่าอยู่เฉย
ไปให้พ้นความชอบชังหลงกลัวเอย
เช่นนี้เอ๋ยไม่ต้องห่วงทางไปมา

*************
สุญญตาว่าว่างเปล่าเราท่านรู้
ใช่เพียงดูรู้บำเพ็ญเห็นเหมาะสม
อิทัปปัจจัยยตาพาเห็นตน
ความเป็นไปถ้วนทุกคนล้วนเปล่าดาย

มาจากว่างแล้วกลับคืนสู่ความว่าง
ถ้วนทุกอย่างมีความว่างเป็นจุดหมาย
มนุษย์เกิดกำเนิดมาพาสู่ตาย
ล้วนย่างกรายสู่ความว่างความเปล่ากลวง
************

ยึดเอาว่าตัวกู  เลยไม่ดูไม่รู้เห็น
ยึดเอาว่ากูเป็น  ไม่ชัดเจนตนเป็นใคร
ยึดเอาว่าเป็นของกู  ไม่นำสู่ความผ่องใส
ยึดเอาว่ากูใหญ่  เลยจิตใจแคบนิดนิดเดียว
คนเราก็เช่นนี้  อุปาทานมีส่วนเสี้ยว
มีเดินวนคดเคี้ยว  หลงลดเลี้ยวสู่อวิชา
********************

 ขอจุ๊บ..หน่อย พอก่อนเนาะเดี๋ยวเอามาลงใหม่ ใครอ่านแล้วชอบก็รอก่อนนะครับ


ขอขอบพระคุณทุกๆท่านจากใจ นายบอมครับ

บอม ซอง ดุ๊ก

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s