รู้จักพอก็เป็นสุข
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
10 พฤษภาคม 2024, 05:24:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จักพอก็เป็นสุข  (อ่าน 5252 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
29 กุมภาพันธ์ 2012, 02:34:PM
sunthornvit
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 777
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,076



« เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2012, 02:34:PM »
ชุมชนชุมชน




โภไคย  ในโลกา         
คือมายา  อย่ายึดติด
ไม่แท้  แม้ชีวิต               
อย่าหลงผิด  คิดว่าจริง
 
เรือนร่าง  ต่างสมมุติ         
ท้ายที่สุด  ล้วนหยุดนิ่ง
วางวาย  มิไหวติง            
ต้องละทิ้ง  ทุกสิ่งไป

            วันคืน  ฝืนดิ้นรน         
เคยถามตน  สักหนไหม
เคี่ยวขัน  เพื่ออันใด            
เอาไปได้  หรือไรกัน

            วิวาท  ขาดสติ            
ถือทิฐิ  มิผ่อนผัน
วิถี  ที่ผูกพัน               
กลายเป็นทัณฑ์  ตามบั่นทอน   

            กังวล  จนป่วยไข้         
แล้งน้ำใจ  ไม่โอนอ่อน
คือภาพ  บาปถาวร            
คอยกัดกร่อน  รอนปัญญา

            หันเหียน  เปลี่ยนหนทาง      
ยอมปล่อยวาง  บ้างเถิดหนา
ขจัด  แรงอัตตา               
สู่ธรรมา  อย่าดึงดัน

            เพียงอยู่  อย่างรู้พอ         
เลิกจดจ่อ  ต่อโมหันธ์
ปลงได้  ใจสุขพลัน            
ทุกข์สากรรจ์  ก็บรรเทา
                        
สุนทรวิทย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ค.คนธรรพ์, บัณฑิตเมืองสิงห์, รัตนาวดี, D, บูรพาท่าพระจันทร์, คุณไสย, hort39, สะเลเต, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, พี.พูนสุข, รการตติ

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 กุมภาพันธ์ 2012, 04:35:PM
คุณไสย
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 26
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55


งดรับคะแนนกลอน


« ตอบ #1 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2012, 04:35:PM »
ชุมชนชุมชน



คำว่าพอ  นั้นย่อมก่อ  สันติสุข
ไม่โรมรุก   เพิ่มพูนทุกข์  ให้ปวดเศียร
รู้จักพอ  ไม่เกิดก่อ  การเบียดเบียน
ผลพากเพียร  ไร้ติเตียน  จากผู้ใด

คำว่าพอ  ไม่เกิดก่อ  การเข่นฆ่า
เรื่องบีฑา  อย่างชั่วช้า  จะหาไหน
รู้จักพอ  ย่อมเกิดก่อ  สุขทางใจ
โลกสดใส  เหตุไร้ภัย   บนระแวง

คำว่าพอ  ย่อมเกิดก่อ  มิตรภาพ
สิ้นตราบาป  ให้ซึมซาบ  ธรรมสีแสง
คำว่าพอ  ย่อมเกิดก่อ  การร่วมแรง
เพราะหยุดแย่ง  หยุดขันแข่ง  เพื่อคะคาน

คำว่าพอ  นั้นย่อมก่อ  ให้โอกาส
สิ้นอาฆาต  หยุดความหวาด  เลิกสังหาร
คำว่าพอ  ย่อมเกิดก่อ  สุขตระการ
ดุจบันดาล  พรประทาน  สู่โชคชัย






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, ค.คนธรรพ์, sunthornvit, hort39, สะเลเต, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, พี.พูนสุข, รการตติ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ระลึกถึง ความตาย  สบายนัก
มันหักรัก  หักหลง  ในสงสาร
บรรเทาโง่  โมหันต์  อันธกาล
ให้อาจหาญ  หายสะดุ้ง  ไม่ยุ่งใจ
--จากหังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง--
29 กุมภาพันธ์ 2012, 05:09:PM
ค.คนธรรพ์
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 145


คำ คำ คำ ค่ำ ค่ำ คำ คำ


« ตอบ #2 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2012, 05:09:PM »
ชุมชนชุมชน


  โภไคยในโลกา         คือมายาอย่ายึดติด
ไม่แท้แม้ชีวิต             อย่าหลงผิดคิดว่าจริง
 
  โภไคยหลากหลั่งล้น   โลกา
สินทรัพย์หยาบมายา     หลอกใช้  
คนร่วงหล่มกามา         ยึดติด
หลงผิดลวงตาให้        ทรัพย์แท้ของจริง          

 
  เรือนร่างต่างสมมุติ    ท้ายที่สุดล้วนหยุดนิ่ง
วางวายมิไหวติง         ต้องละทิ้งทุกสิ่งไป
  
  เรือนกายงามร่างนี้     สมมุติ
จุดจบมิอาจฉุด           หยุดได้
วางวายนั่นท้ายสุด       เถ้ากระดูก
ทุกสิ่งต้องทิ้งไว้         ใช่ได้สักอัน
 

  วันคืนฝืนดิ้นรน       เคยถามตนสักหนไหม
เคี่ยวขันเพื่ออันใด     เอาไปได้หรือไรกัน

   วันคืนชีพไป่สิ้น     ดิ้นรน
ถามไถ่มิถามตน        สักครั้ง
เพื่อใดเล่าพ้องชน     เพื่อนมนุษย์
เบียดแข่งไม่ยับยั้ง     อวดได้เอาดี  


  วิวาทขาดสติ      ถือทิฐิมิผ่อนผัน
วิถีที่ผูกพัน          กลายเป็นทัณฑ์ตามบั่นทอน  

  วิวาทวาทะโต้          มีดี
ถือทิฐิยโสมี              เก่งโอ้
ผ่อนผันบ่ายหน้าหนี      วิถีถูก
ทัณฑ์โทษอกร้อนโร่     กลัดกลุ้มบั่นทอน


  กังวลจนป่วยไข้    แล้งน้ำใจไม่โอนอ่อน
คือภาพบาปถาวร    คอยกัดกร่อนรอนปัญญา

  กังวลจนเจ็บไข้           เจ็บใจ
น้ำขอดแห้งหทัย           จิตแล้ง
ขาดผ่อนพักผ่อนใจ        โอนอ่อน
บาปทุกข์เข้ากลั่นแกล้ง    กร่อนสิ้นปัญญา


  หันเหียนเปลี่ยนหนทาง    ยอมปล่อยวางบ้างเถิดหนา
ขจัดแรงอัตตา               สู่ธรรมาอย่าดึงดัน

  หันเหทิศเปลี่ยนหลู้       ปล่อยวาง
ปล่อยว่างสู่หนทาง         ปลดเศร้า    
อัตตามิเจือจาง             เร่งขจัด
ตามตัดตัวรุมเร้า            สู่ห้วงธรรมา                  


  เพียงอยู่อย่างรู้พอ     เลิกจดจ่อต่อโมหันธ์
ปลงได้ใจสุขพลัน       ทุกข์สากรรจ์ก็บรรเทา

  เพียงระลึกรู้อยู่         เพียงพอ
เพียงเลิกใจจดจ่อ        เข่นเขี้ยว
เพียงปลงข่มใจรอ        จิตสงบ
ทุกข์พิษฉกรรจ์งูเงี้ยว    เจ็บร้ายบรรเทา




อ่านกาพย์ของคุณสุนทรวิทย์จบปุ๊บ
แล้วเห็นมุมเล่นโคลงฮะ

แต่งเป็นกาพย์ห่อโคลงเสียเลย

 เคารพรัก

ทัน




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : sunthornvit, สะเลเต, บูรพาท่าพระจันทร์, ratikal, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, พี.พูนสุข, รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คำ คำ คำ ค่ำ ค้ำ   คำ คำ
29 กุมภาพันธ์ 2012, 05:52:PM
sunthornvit
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 777
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,076



« ตอบ #3 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2012, 05:52:PM »
ชุมชนชุมชน


คำว่าพอ  นั้นย่อมก่อ  สันติสุข
ไม่โรมรุก   เพิ่มพูนทุกข์  ให้ปวดเศียร
รู้จักพอ  ไม่เกิดก่อ  การเบียดเบียน
ผลพากเพียร  ไร้ติเตียน  จากผู้ใด

คำว่าพอ  ไม่เกิดก่อ  การเข่นฆ่า
เรื่องบีฑา  อย่างชั่วช้า  จะหาไหน
รู้จักพอ  ย่อมเกิดก่อ  สุขทางใจ
โลกสดใส  เหตุไร้ภัย   บนระแวง

คำว่าพอ  ย่อมเกิดก่อ  มิตรภาพ
สิ้นตราบาป  ให้ซึมซาบ  ธรรมสีแสง
คำว่าพอ  ย่อมเกิดก่อ  การร่วมแรง
เพราะหยุดแย่ง  หยุดขันแข่ง  เพื่อคะคาน

คำว่าพอ  นั้นย่อมก่อ  ให้โอกาส
สิ้นอาฆาต  หยุดความหวาด  เลิกสังหาร
คำว่าพอ  ย่อมเกิดก่อ  สุขตระการ
ดุจบันดาล  พรประทาน  สู่โชคชัย


รู้จักพอ  ก็เป็นสุข  ทุกข์คลายสิ้น
ดลชีวิน  สันติ  อดิศัย
รู้เตือนตน  รู้วาง  ทางวินัย
มโนมัย  ย่อมเกิด  ประเสริฐครัน

ละงวยงง  หลงใหล  ในอามิส
ชั่วชีวิต  มนุษย์  สุดแสนนั้น
ถึงมั่งมี  อุตมะ  สารพัน
ไม่กี่วัน  ก็ต้องพราก  พรัดจากไป

สุนทรวิทย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ค.คนธรรพ์, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, รพีกาญจน์, Thammada, พี.พูนสุข, รการตติ

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 กุมภาพันธ์ 2012, 06:17:PM
sunthornvit
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 777
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,076



« ตอบ #4 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2012, 06:17:PM »
ชุมชนชุมชน


  โภไคยในโลกา   คือมายาอย่ายึดติด
ไม่แท้แม้ชีวิต       อย่าหลงผิดคิดว่าจริง

  โภไคยไหลหลั่งล้น   โลกา
ล้วนสิ่งหยาบมายา      หลอกใช้  
คนร่วงหล่มกามา        ยึดติด
หลงผิดลวงตาให้       ทรัพย์แท้ของจริง          

 
  เรือนร่างต่างสมมุติ   ท้ายที่สุดล้วนหยุดนิ่ง
วางวายมิไหวติง        ต้องละทิ้งทุกสิ่งไป
  
  เรือนกายงามร่างนี้     สมมุติ
จุดจบมิอาจฉุด           หยุดได้
วางวายนั่นท้ายสุด       เถ้ากระดูก
ทุกสิ่งต้องทิ้งไว้         ใช่ได้สักอัน
 

  วันคืนฝืนดิ้นรน    เคยถามตนสักหนไหม
เคี่ยวขันเพื่ออันใด   เอาไปได้หรือไรกัน

   วันคืนชีพไป่สิ้น    ดิ้นรน
ถามไถ่มิถามตน       สักครั้ง
เพื่อใดเล่าพ้องชน    เพื่อนมนุษย์
เบียดแข่งไม่ยับยั้ง    อวดได้เอาดี  


  วิวาทขาดสติ      ถือทิฐิมิผ่อนผัน
วิถีที่ผูกพัน          กลายเป็นทัณฑ์ตามบั่นทอน  

  วิวาทวาทะโต้          มีดี
ถือทิฐิยโสมี              อวดโอ้
ผ่อนผันบ่ายหน้าหนี     วิถีถูก
ทัณฑ์โทษเจ็บร้อนโร่   กลัดกลุ้มบั่นทอน


  กังวลจนป่วยไข้    แล้งน้ำใจไม่โอนอ่อน
คือภาพบาปถาวร    คอยกัดกร่อนรอนปัญญา

  กังวลจนเจ็บไข้           เจ็บใจ
น้ำขอดแห้งหทัย           จิตแล้ง
ขาดผ่อนพักผ่อนใจ        โอนอ่อน บาปนา
หนักทุกข์เข้ากลั่นแกล้ง   กร่อนสิ้นปัญญา

  หันเหียนเปลี่ยนหนทาง    ยอมปล่อยวางบ้างเถิดหนา
ขจัดแรงอัตตา                สู่ธรรมาอย่าดึงดัน

  หันเหทิศเปลี่ยนหลู้      ปล่อยวาง
ปล่อยว่างสู่หนทาง         ปลดเศร้า    
อัตตามิเจือจาง             เร่งขจัด
ตามตัดตัวรุมเร้า            สู่ห้วงธรรมา                  

  เพียงอยู่อย่างรู้พอ     เลิกจดจ่อต่อโมหันธ์
ปลงได้ใจสุขพลัน      ทุกข์สากรรจ์ก็บรรเทา

  เพียงระลึกรู้อยู่        เพียงพอ
เลิกคิดใจจดจ่อ         ขบเขี้ยว
ปลงได้ข่มใจรอ         จิตสงบ
แผลพิษฉกรรจ์งูเงี้ยว  เจ็บร้ายบรรเทา


อ่านกาพย์ของคุณสุนทรวิทย์จบปุ๊บ
แล้วเห็นมุมเล่นโคลงฮะ

แต่งเป็นกาพย์ห่อโคลงเสียเลย

 เคารพรัก

ทัน


จิตสงบ  พานพบสุข
จิตประอุก  ทุกข์ผลาญเผา
มักได้  ไม่บรรเทา
พามัวเมา  เฉาชีวี

สกัด  ตัดต้นตอ
รู้จักพอ  ก็สุขศรี
วิญญู  รู้ถ้อยที
แยกชั่ว,ดี  ที่กมล

สุนทรวิทย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ค.คนธรรพ์, บูรพาท่าพระจันทร์, panthong.kh, รพีกาญจน์, hort39, Thammada, พี.พูนสุข, รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 กุมภาพันธ์ 2012, 10:14:PM
Lida
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8



« ตอบ #5 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2012, 10:14:PM »
ชุมชนชุมชน


ฝึกเอย ฝึกใจจิต
ฝึกดูคิด ให้ฝึกฝน
ฝึกไป ฝึกไม่บ่น
ฝึกทุกข์จน พ้นสุขไป

ฝึกแล้ว ฝึกแน่วแน่
ฝึกถ่องแท้ ฝึกแก้ไข
ฝึกจน ละอยากได้
ฝึกนี้ไซร้ ได้รู้พอ

อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang, Thammada, sunthornvit, รพีกาญจน์, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข, รการตติ, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 มีนาคม 2012, 02:16:PM
sunthornvit
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 777
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,076



« ตอบ #6 เมื่อ: 01 มีนาคม 2012, 02:16:PM »
ชุมชนชุมชน



เตือนตน  ดลกระจ่าง
มองสู่ทาง  สว่างหนอ
แยงยล  ถึงต้นตอ
รู้เพียงพอ  ก็สุขใจ

ละโมบ  โลภไม่สิ้น
ชั่วชีวิน  กินแค่ไหน
ท่วมท้น  ล้นโภไคย
ตายแล้วใช่  ได้ติดมือ

สุนทรวิทย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, รการตติ, panthong.kh, Thammada, บูรพาท่าพระจันทร์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s