กลอนธรรมะเย็นๆ จากตัวผมเองที่เคยแต่งไว้ครับ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
15 พฤษภาคม 2024, 05:53:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนธรรมะเย็นๆ จากตัวผมเองที่เคยแต่งไว้ครับ  (อ่าน 10132 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 สิงหาคม 2010, 08:48:PM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« เมื่อ: 11 สิงหาคม 2010, 08:48:PM »
ชุมชนชุมชน




ชื่อกลอน ของเรา ใช่ว่าของเรา

เกิด มาทั้งที              ครั้นต้องได้ดี         มีทรัพย์ยศศักดิ์      ให้มากล้น เหลือ
 บน ทางแกร่งแย่ง           ถึง ต้องอยู่เหนือ    เพียงเป็นความเชื่อ       ปิดใจไร้ แสง 
แผ่น ดินกว้างใหญ่          เว ทีแข่งขัน         โลง ศพตามท่าน       ไปทุกหน แห่ง
   ดิน จะกลืนร่าง              ลาร้างจำแลง         ผุ กร่อนเหี่ยวแห้ง     โอ้ว่าเวร กรรม ...

 โต มาพร้อมฝัน             ต้อง ดั้นให้ถึง        ห่อ หักชักดึง        หวังความมั่น คง
ใต้ สิ่งเย้ายวน               ลับ ลวงลุ่มหลง       หุ้ม ลุ้มรุมโทรม     หากเผลอใจ ตาม
แผ่น ฟ้าคงดิน               ดับ สิ้นคือคน        ร่าง ไม่เที่ยงทน      อย่ามัวครวญค ร่ำ
ฟ้า เปิดทางให้               กาย ก่อต่อบุญ        ไว้ เจือเกื้อกูล       ภพชาติต่อ ไป


ที่มา http://www.kaweeclub.com/b21/!-6979/msg45596/#quickreply


ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
13 สิงหาคม 2010, 08:47:AM
กุลมาตา(singlemom99)
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 108
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,710



« ตอบ #1 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2010, 08:47:AM »
ชุมชนชุมชน

รู้เขา..รู้เรา



หลักพรหมวิหารสี่นำชี้ทาง
เมตตากลางวางกรุณามุทิตา
จบครบสี่ที่อุเบกขา
ฝึกจิตพาใช้ให้ชำนาญ

หลักธรรมนำชี้สี่ข้อนี้
ก่อเกิดมีรู้ใจเราให้เท่าท่าน
โลกสันติสงบจบรบราน
เลิกเผาผลาญทำลายทำร้ายกั

(มาแจมหลานบอมด้วยคน..โลกขาดธรรมะ..วุ่นวายเบียดเบียนกัน)
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 สิงหาคม 2010, 10:55:AM
พิกุลแก้ว
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 96
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 298



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2010, 10:55:AM »
ชุมชนชุมชน

๐ ด้วยเกิดมาใช้หนี้ที่เคยก่อ
เกื้อหนุนต่อกงกรรมเข้าห้ำหั่น
หวังสันติที่ใดในคืนวัน
คงเหมือนดื้อดึงดันรั้นเกินไป

๐ มีหลักธรรมนำจิตให้คิดก่อน
ดั่งภาพแสงสะท้อนแลอ่อนไหว
สุขสงบพบทางคือกลางใจ
คือพุทธะหทัยในกลางบึง

๐ หมั่นพากเพียรฝึกฝนค้นศึกษา
ศาสตร์ตำราแห่งตนค้นให้ถึง
มองให้เห็นใต้จิตคิดคำนึง
แล้วจะซึ้งถึงคำสอนตอนเราเรียน

๐ เข้าใจยามสติมาปัญญาเกิด
ไม่เตลิดวุ่นตามความคิดเปลี่ยน
จากจุดน้อยแรกเริ่มคือแรงเทียน
การเบียดเบียนลดหายไปจากเรา.
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 สิงหาคม 2010, 11:23:AM
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« ตอบ #3 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2010, 11:23:AM »
ชุมชนชุมชน




แก้วน้ำไม่เติมเต็ม
-------------------
มีแก้วน้ำใสใบหนึ่ง.....ตั้งผึ่งกลางแดดแผดเผา
เติมน้ำลงไปไม่เบา.....กลับเท่าเดิมไปทุกที
ไม่กว้างไม่ใหญ่กว่าเดิม.....แต่เติมเท่าไหร่หายหนี
เอาน้ำทั่วทั้งปฐพี.....ยังมีที่ให้ได้เติม
แก้วน้ำใบนี้อยู่ไหน.....ใครใคร่ขานไขใส่เสริม
อะไรคือน้ำที่เติม.....แดดเพิ่มเสริมนั้นอันใด
จะทำอย่างไรแก้วนี้.....เต็มปรี่ไม่มีที่ไหล
เทเสริมเพิ่มเติมอย่างไร.....ไม่พร่องไม่ไหลล้นนอง
ปรัชญาถามมาช่วยตอบ.....ผู้รอบผู้รู้ทั้งผอง
แก้วน้ำใยว่างเหลือรอง.....ให้ต้องเทน้ำร่ำไป

ชีวิตดั่งน้ำค้างหาว กรรมสิ้น เวรหมด ใจหลุดพ้น
ตำนานแห่งสายน้ำ


 

วิสัชนา
แก้วใส!   ก็คงคล้ายดั่งใจของมนุษย์
ลึกล้ำหาที่สิ้นสุด ลึกกว่าสมุทร เกินจะหยั่งถึง
จะวางตน ณ. หนใด อยู่ที่ใหน ใจก็ฉุดดึง
อยากจะสัมผัสและเข้าถึง...ทุกห้วง อารมณ์

สิ่งที่เติมลงไปอาจไร้ซึ่งแก่นสาร
ผ่านคืนผ่านวัน ผกผลันระเหย
ขณะเดียวกัน! ก็เทสิ่งใหม่ ลงไปเช่นเคย
ใจนั้นก็เลย...ดูไม่เคยพอ!....

สายน้ำแห่งอาเพส กิเลสและตัณหา
เทลงใจทุกเวลา เติมลงจิตที่ร้องขอ
คือเสี้ยวของอารมณ์ ที่สุขสมไม่เพียงพอ
คือดวงใจเหี่ยวห่อ ร้องขอน้ำ..มาโรยใจ....

แดดที่เผาคล้ายเสียงห้ามและตักเตือน
แผดลงใจที่แชเชือน แต่เสมือนไม่กล้ำกาย
เป็นอีกฝั่งของความมืด คือกำพืดของหัวใจ
ที่อยากซึ้งในความหมาย พร้อมขับไล่สิ่งปะปน.....

น้ำทิพย์ที่เที่ยงแท้ คือสายธรรมที่ใหลเย็น
คงความจริงสิ่งที่เห็น ไม่แฝงเร้นให้สับสน
นิ่งสงบไม่ลดเพิ่ม คงใจเดิมและตัวตน
ไม่เหือดแห้งหรือท่วมท้น....ธรรมคงคน ตนต้องคงใจ!

O สิ่งที่ตอบอาจไม่เห็นกระจ่าง...ขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ O
บอม   ซอง  ดุ๊ก



ที่มา http://www.kaweeclub.com/b21/~-~/msg46822/#quickreply

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s