สยบฟ้าท้ามาร
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
13 พฤษภาคม 2024, 08:38:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สยบฟ้าท้ามาร  (อ่าน 3182 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
17 มีนาคม 2011, 10:18:PM
note16026
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 95



« เมื่อ: 17 มีนาคม 2011, 10:18:PM »
ชุมชนชุมชน

แค้นใดไม่ฝังใจเท่าแค้นรัก เพราะ รัก ไม่ใช่ หรือ จึงมีแค้น รักมากแค้นมาก ยากแยะ นี้แหละ มนุษย์
หิมะในปกคลุมแผ่ไปทั่วเมืองเทียนอัน หรืออีกนาม เทือกขาหิมะกรัง จนเป็นสีขาวสะอาดตา ดูบริสุทธิ์ .......บริสุทธิ์เกินไป สมบูรณ์แบบเกินไปจนน่ากลัว เพราะ โลกนี้ ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบโดยธรรมชาติ

ภายใต้ศาลเจ้าเก่า ที่ร้าง เปลี่ยวผู้คน ยิ่งในยามวิกาลหนาวเหน็บแล้ว แม้แต่ สุนัข ยังไม่กล้าย่างกราย มาเหยียบเยือน ศาลเจ้า ชางซิน (เศร้าระทม) อยู่มาก่อน ชาวบ้านเมืองเทียนอัน ทุกคน จึงไม่มีใครรุ้ว่าศาลเจ้านี่เกิดมาได้อย่างไร อยู่ เป็นเวลาหลายร้อยปี แต่ไม่มีคนกราบไหว้ บูชา ยังจะนับเป็นศาลเจ้าได้หรือ?

ยามนี้กับมีเสียงหายใจแช่มช้าและยาวนาน ดังมาจาก ศาลเจ้าที่ทุกคนปล่อยร้าง ยามวิกาลนี้กับมีคนผู้หนึ่งอยู่จริงๆ
คนในหมวกหญ้า และชุดเก่าซอมซ่อ เช่นขอทาน กำลังนั่งขัดสมาธิ บรรจงกัด หมั่นโถเย็นแข็งอย่างเชื่องช้า คล้ายกลับว่ากลัวจะหมดไป คำแล้วคำเล่า โดยไม่รู้จักอิ่ม ... ขอทาน บรรจงหยิบชิ้นหมั่นโถก้อนถัดไปเข้าปากฟันกับกระทบกัน เขากัดได้เพียงอากาศธาตุ หมันโถใบนั้นเล่า อยู่ที่ใด ? ขอทานจ้องมองที่มือพบเพียงฝุ่นแป้ง !!! แป้งหมั่นโถ !!! หมั่นโถ เป็นก้อน กลาย เป็น ฝุ่นผง เป็นฝีมือผู้ใด ? น่าตระหนกเกินไปแล้ว
ขอทานทำท่าทางสงสัย พลันปรากฏเงา คนผู้หนึ่ง ชุดคลุมลายมังกรสีเขียว บุคลิกองอาจ เข็มขัดตราหยกลายมังกร ต่อให้ คนตาบอดเป็นไบ้ ยังจำแนกออกว่าเป็นใคร คนของของพรรคมังกรเทพ

พรรคมังกรเทพ เกิดในยุธทภพได้เพียงสิบกว่า ปี แต่ ณ ขณะนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ประมุค พรรค งัก เกียฮุ้น
เป็น 1 ใน 3 ที่ได้รับการถ่ายทอด ฝ่ามือสยบมังกร18 ท่า ของเส้าหลิน เดิมที ฝ่ามือสยบมังกรนั้น มี 8 ขบวนท่า แต่ปรมจารย์ เฉียวฟง ผุ้สืบทอดวิชา จาก เสียนขู่ ไต้ซือ มีทักษะและไหวพริบเป็นเลิศ ได้บัณยัติ เพิ่มเป็น 18 ท่า แต่ หลังจากรุ่น ของ ปรมจารย์เอี้ยก้วยก็รักสงบ เพียงถ่ายทอดให้บุตรสองสามท่าเท่านั้น ดังนั้น ฝ่ามือทั้งสิบแปดชุด ก็เลยหายไปใจยุทธภพ ภายหลังมีผู้เยี่ยมยุทธ ท่านหนึ่ง เสาะหา คำภีร์ ฝ่ามือสยบมังกรชุดเก่า ทั้งแปดท่า พบ ใน หุบเขา เดียวดาย ฝึกจนแตกฉาน ใช้ฝีมือผดุงคุณธรรม จนเป็นที่ชื่นชมของชาวยุทธ ต่อมาได้ ถ่ายทอดวิชาให้แก่ศิษย์ สามคน ภายหลังเป็นผู้เยี่ยมยุทธ หนึ่งในนั้นก็ เป็นประมุขพรรคมังกรเทพ งัก เกียฮุ้น ด้วย ความดำมืดในจิตใจ ที่เห็นแต่เยาวัย จึงได้รับถ่ายทอดเพียงแค่หกกระบวนท่า แม้จะสำเร็จเพียง หกหระบวน ท่า แต่ แค่นั้นก็เพียงพอจะสะเทือนบูลิ้ม ภายหลังดัดแปลง ลักษณะวิชา ตามจิตใจของตน เพิ่มความดุดันดัน อมหิต ปกติ ฝ่ามือพิชิตมังกรนี้ เป็นฝ่ามือจับ แต่ในขบวนท่า ที่เกียฮุ้นดัดแปลงนั้น เน้นขย้ำ โจมตีและทำลาย สร้างชื่อ ในยุทธจักร รวบพรรคพวกฝีมือดีเจ็ดคน ตั้งเป็นเจ็ดองค์รักษ์ตั้งพรรคมังกรเทพ กระเดื่องยุทธจักรในช่วงสิบปีมานี้ ไฉนยามนี้ คนของพรรค มาอยู่ในศาลาร้าง ธรรมดาแห่งหนึ่ง?


ขอทานไม่แสดงอาการอันใด เพียงแค่ล้วงมือลงในย่ามเพื่อขว้าหมั่นโถลูกใหม่ขึ้นมากัดกิน คล้ายกับไม่เห็น บุคคลเสื้อเขียวตรงหน้า และ มองเพียงการแตกสลายของหมั่นโถเป็นเรื่องประจำธรรมดา

ชายชุดเขียวกล่าวขึ้นทำลายความเงียบ "ขอทานเฒ่า เจ้ามาทำอะไรสถานที่นี้"

ขอทานเฒ่ามิเพียงมิตอบคำ กับคว้าหมั่นโถกัดกินอย่างเฉื่อยชา สร้างความพิโรธ ให้กับชายชุดเขียวเป็นอันมาก

พริบตานั้น คนสำนักมังกรเทพ ตวัดกระบี่ พุ่งตรงไปที่ขอทานเฒ่า หวังเอาชีวิต ปกติพรรคมังกรเทพ ไม่เคยเห็นชนชั้นใดอยู่ในสายตา จะฆ่า คือ ฆ่านับประสาอะไรกับขอทานเฒ่าคนเดียว ชายชุดเขียวไม่ลังเลที่จะปลิดชีวิต

กระบี่พุ่งออกเป็นสี่สาย เพียงฆ่าชายชราคนเดียว ยั่งทุ่มมืออย่างอัมหิต นี่คือพรรค มังกรเทพ!!! มิคาด พอกระบี่แทงถึงจุดคอหอย พริบตา กับแทงเข้ากับอากาศธาตุ ชายชุดเขียงรั้งกระบี่กับด้วยความตระหนก กับพบ หมั่นโถวติดปลายกระบี่ มาก้อนหนึ่ง


" นายท่านโปรดเห็นใจเถิด ข้าน้อยเป็น ขอทาน เงินก็ไม่มีเพียงพอจะซื้ออาหารใด พอดีได้หมั่นโถวขึ้นรา จากอาซ้อใจดี มาสามลูก รับทานไปแล้วลูกหนึ่งยังไม่รู้สึกอิ่ม ลูกที่สองก็โดนกระบี่ท่านฟันเจ็ดสอบสองครั้ง จนกินไม่ได้ ลูกสุดท้ายนี่ ท่านก็ช่วงชิงไปอีก หรือท่านก็นิยมชมชอบหมั่นโถวขึ้นรา?"

คนพรรคมังกรเทพ ทั้งแตกตื่น ทั้งเดือดดาน ฟันออก ด้วย เคล็ดกระบี่ท่าที่สองของ พรรคมังกรเทพ นาม มังกรกระชากวิญญาณ กระบี่แทงออกอย่างรุนแรง เพียงกระบี่เดียว พอไกล้ถึงตัวขอทาน กลับ ปรากฏ กระบี่ เป็น สามสาย ออกที่ดวงตาสองข้าง และปาก กระบวนท่านี้ แท้จริงหรอกให้ตายใจ แล้วใช้ความว่องไว ของกระบี่ พลิกแพลงตอนไกล้ถึงศัตรู นับว่าน่ากลัวนัก ในยุทธภพนี้ คาดว่า ชาวยุทธระดับ สร้างชื่อ ยังยากจะต้านรับ เพราะความเจ้าเล่ห์ และอัมหิต ของกระบวนท่า

นึกไม่ถึง กระบี่คนชุดเขียวแทงอากาศเป็นครั้งที่สอง กระบี่ค้างอยู่ แต่หมั่นโถวปลายกระบี่หายไป หมั่นโถวถึงกลับอยู่ในมือขอทานแล้ว!



"ขอบคุณจอมยุทธ ที่คืนหมั่นโถวให้แก่ขาพเจ้า ขาพเจ้าหิวแทบตายแล้ว"

คนพรรคมังกรฟ้าเดือดดาลถึงขีดสุด เงื้องกระบี่หมายฟาดฟันอีกครา
กลับมีเสียงดังจากหน้าต่างศาลเจ้า"ช้าก่อน องค์รักษ์ เจ็ด!!"

ปรากฎร่างชายชุดเขียวอีกคน ร่างกายโปร่งสูง ผิวขาวหมดจด ดั่งนักตำรา แต่ทว่า ความเร็วที่เข้ามานั้น ระดับ ตัวมาก่อนเสียงมาที่หลัง ชายผู้นี้ คาดได้ว่าวิชาตัวเบาบรรลุถึงขั้น สยบเสียงตามเงา แล้ว ในยุทธจักร มีไม่เกินยี่สิบคน จะมีความเร็วระดับนี้

ที่แท้สองคนนี้เป็น คนในเจ็ดองค์รักษ์ ของพรรคมังกรเทพ

"ท่านองค์รักษ์หก ไฉนห้ามข้า ปลิดชีวิตขอทานกวนโมโหผู้นี้ "

" ไฮ้ ลำพังเจ้า สามารถกระทำได้??? "

องค์รักษ์หก กล่าวจบ หันหน้ามาคารวะ ขอทาน พลางกล่าว

"ขออภัย ท่านยากจกกิเลน ที่เด็กน้อย อย่างพวกเราล่วงเกิน"

" ยาจกกิเลน!!! " องค์รักษ์เจ็ดอุทานอย่างลืมตัว

น้อยคนนักที่ได้ยินชื่อนี้แล้วจะไม่หวาดผวา ยาจกกิเลนนิสัยพิกล ฆ่าคน ไร้ไมตรี เคยถล่มพรรค ใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ว่า คนใช้ประจำพรรค ไม่ยอมแบ่งข้าวเหลือที่จะให้หมาให้กับ ตน ถึงกับใช้ฝ่ามือโลหิต ชำแรกสิ่งมีชีวิตในพรรคจนหมดสิ้น ฝ่ามือสุดท้าย ได้ใช้กับสุนัขที่มากินข้าวเหลือ ตนหนึ่ง ภายหลังมาสำนึกเสียใจต่อการกระทำนั้น จึงปฏิญาณ ไว้ว่า จะให้อภัยคนแย่งอาหารตนถึงสองครั้ง ก่อนลงมือ

"ฮึ!!! อย่ากล่าวให้มากความ เลย จิ้งจอกลอยลม อันเลื่องลือ น่าเสียดาย ที่ยอมก้มหัวให้ตาเฒ่า งัก ลูกเต่าเบอร์เจ็ดของเจ้า แย่งอาหารของข้าถึงสอง ตามกฏแล้ว ใครแย่งอาหารของข้า มันต้องตาย แม้แต่เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่มีข้อยกเว้น!"

องค์รักษ์เจ็ดหน้าซีดเผือก เขาทราบความเหลื่อมล้ำ ด้านฝีมือจากสองดาบแรก หนำซ้ำ ยาจกกิเลนยังมิได้ใช้ออกซึ่งฝ่ามือโลหิตด้วยซ้ำ

ยาจกกิเลนลงมือ ด้วยฝ่ามือโลหิตอันดุดัน พริบตา ซัดฝ่ามือสีเลือด แผ่กระจายคลุมศาลเจ้า ร่วมยี่สิบฝ่ามือ เสียงระเบิดดังติดต่อกัน ต่อเนื่อง
ศาลเจ้ากลางหิมะ ตอนนี้ คละคลุ้งไปด้วยเศษซากศาลร้าง

ควันเริ่มจางตา กลับไม่พบกับผู้ใด

" ฮึ่ม จิ้งจอกน้อย เร็วสมคำล่ำลือจริงๆ "


............................................................



"ท่านหก ไฉนเราต้องหนีมา ของเพียงเราท่าน หกเจ็ด ประสานพลัง มิแน่ว่าอาจจะ หยิบยื่นความตายแก่ตาเฒ่าได้ อีกอย่าง ภารกิจ สำคัญนั่นเล่า หากหนีออกมา จะพลาดโอกาส ชิง กระบี่ไร้รัก ท่านประมุขคงไม่พอใจแน่"

"จริงอยู่ เราท่านร่วมมือกัน ย่อมร้ายกาจ เพียงแต่ ยาจกกิเลน พลังพิสดารลึกล้ำ เกรงว่า เราสองยังไม่ใช่คู่มือ อีอย่าง ยามนี้ ชาวยุทธล้วนทราบ ผู้ถือครองกระบี่ไร้รัก จะ มา ที่ศาลร้าง แถวนั้น มีแต่ยอดฝีมือซุ่มรอโอกาส
แม้นจะชนะยาจกกิเลน ได้ สภาพเราคงบอบช้ำ พอเจอผู้ถือครองกระบี่แล้วไหนเลยจะเอาพลังใดไปแย้งชิง ยังไม่นับพวกที่ซุ่มรอฉกชิง อีก นับร้อย
เราควรรอให้พวกมันฆ่าแกงกันเอง รอตอนท้ายแล้ว เราค่อย ไปชิงกระบี่นั่นมา"

จิ้งจอกลอยลม เร็วดั่งลม เจ้าเล่ห์เยี่ยงจิ้งจอก ...........................



ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s