เตือนภัย จากใจที่เป็นห่วง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
08 พฤษภาคม 2024, 12:17:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เตือนภัย จากใจที่เป็นห่วง  (อ่าน 4371 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
14 มกราคม 2012, 10:19:AM
สล่าผิน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 532
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,034



« เมื่อ: 14 มกราคม 2012, 10:19:AM »
ชุมชนชุมชน

  วันนี้วันเด็ก ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปทำงานตามปรกติ  มองฟ้าเห็นฟ้ามืดครึ้ม  ชักเอะใจว่าฝนจะตกหรือนี่ สองวันก่อนมองฟ้ามีแต่เมฆก็คิดว่าเป็นเมฆในหน้าหนาวเท่านั้น
คงไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้วันนี้มีฝนโปรยปรายมาจริงๆ  ลงมาห้องคอมนั่งมองฝนตก ทำให้หวนไปคิดถึงเมื่อปีกราย  ฝนตกเมื่อเดือนเมษายน ตอนวันสงกรานต์จนน้ำเจิ่งนองไปทั่วลานบ้าน  จากนั้นฝนก็ตกมาทุกบ่อยๆ จนเกิดน้ำท่วม น้ำเต็มเขื่อน ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลย  เหตุเพราะว่าดินอุ่มน้ำไม่ไหว ฝนตกมากเกินที่จะรับได้ เขื่อนก็ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้อีก เนื่องจากน้ำมีปริมาณมากเกินที่จะรับแล้ว  น้ำจึงท่วมดั่งปรากฎให้เห็น

  มาปีนี้ แค่มกราคม ฝนก็เริ่มโปรยปรายมาแล้ว  แผ่นดินยังไม่ทันได้แห้ง หน้าแล้งยังไม่ครบเทอมดี ฝนได้หล่นมาพรมผืนดินเสียแล้ว  น้ำในเขื่อนยังไม่ลดไปสักกี่มากน้อย  จึงทำให้ผมเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า หากฝนตกแบบนี้ไปเรื่อยๆ  ทั้งๆที่เป็นหน้าแล้ง ฝนก็ยังตก หากถึงหน้าฝนจริงๆฝนตกมาเพิ่มอีกและจำนวนมากหน่อย  อะไรจะเกิดขึ้น นี่ผมไม่ได้มาพยากรณ์นะครับ ผมเกิดความเป็นห่วงเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวไทยเราทุกท่านที่จะประสบภัย  จึงได้คิดแต่งกลอนเพื่อบอกกล่าวกันให้คิดวางแผนไว้แต่เนิ่นๆครับ  ลองคิดพิจารณาว่า จะเป็นอย่างไร หากฝนปีนี้มากเท่าปีกราย  น้ำเต็มเขื่อนรอก่อนแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นครับ

ด้วยใจที่เป็นห่วงครับ



เห็นน้ำท่วมอ่วมไปไทยเดือดร้อน
เมื่อปีก่อนน้ำบ่าน้ำตาไหล
ปีห้าสี่มีน้ำฉ่ำเมืองไทย
แสนห่วงใยพี่น้องต้องทุกข์ทน

น้ำเพิ่งแห้งแล้งเพิ่งมาในหน้าหนาว
ความปวดร้าวผ่านไปได้หนึ่งหน
ทรัพย์สิ่งของต้องขว้างอย่างจำนน
หลายผู้คนจดจำเรื่องช้ำจินต์

เห็นหน้าหนาวเข้ามาไม่พาหนาว
เห็นเมฆขาวเต็มฟ้าพาหนาวสิ้น
ฝนแทนหนาวคราวฟ้ามาหลั่งริน
ทั่วธาณินทร์ฉ่ำชื้นฝนขืนกาล

อยากเตือนภัยให้รู้คิดดูเถิด
ไทยได้เกิดน้ำล้นปีพ้นผ่าน
เพราะเมษาพาฝนหล่นเป็นนาน
มหาศาลฝนโปรยโรยลงมา

ดินรับน้ำเต็มที่ธรณีชื้น
น้ำไหลลื่นสู่เขื่อนเหมือนน้ำบ่า
เขื่อนทุกเขื่อนเตือนภัยให้ประชา
รับรู้ว่าเขื่อนเต็มอิ่มเอมน้ำ

เพิ่งผ่านไปใช้กาลไม่นานช้า
มกราพาฝนหล่นชุ่มฉ่ำ
นั่งมองฟ้าพาฝนหล่นพรำพรำ
ห่วงยิ่งล้ำห่วงฟ้าไม่ปรานี

ดินนั้นยังไม่แห้งหน้าแล้งแล้ว
น้ำในเขื่อนไม่แคล้วแนวเต็มปรี่
ฝนมาไวกว่าก่อนเป็นค่อนปี
เหตุฉะนี้จึงห่วงใยเพื่อนไทยเรา

สล่าผิน
 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, Prapacarn ❀, Music, sunthornvit, ช่วงนี้ไม่ว่าง, บูรพาท่าพระจันทร์, รการตติ, เมฆา..., plang, คอนพูธน, ♥หทัยกาญจน์♥

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชายใจคอนโด
14 มกราคม 2012, 12:26:PM
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« ตอบ #1 เมื่อ: 14 มกราคม 2012, 12:26:PM »
ชุมชนชุมชน






กลัวจะตก  ต้นปี  เหมือนพี่ว่า
พอถึงหน้า  ฝนนั้น  ก็พลันเหงา
พิรุณเทพ  เล่นกล  ต้องทนเอา
ความแล้งเข้า เกาะกุม สุมโอดโอย

จะหาน้ำ  สักหยด  ก็ซดยาก
มันแห้งผาก  หน้านิ่ว  เพราะหิวโหย
ชาวไร่,นา  หน้าดำ จึงพร่ำโวย
ฝนไม่โปรย  ปรายมา  ทั้งตาปี

ด้วยเกิดการ  สลับ  ขั้วกลับหัน
คราววสันต์  ดินแห้ง  แล้งฝนหนี
ธรรมชาติ  วิปริต  ผิดใดมี
หรือโกสีย์  ลงทัณฑ์  แส้บัญชา

ต้องถึงคราว  อดอยาก  ปากแห้ง
เพราะฝนแล้ง วิปลาส  ขาดภิกษา
นาที่ไถ  ไถดำ  น้ำบ่มา
ดูต้นกล้า  ซีดเซียว  เหี่ยวหัวโต

ทั้งพืชพันธ์  ธัญญา แหล่งอาหาร
เลี้ยงไก่โค  ปลานั้น  พลันพลิกโผ
ชาวประชา  หน้านิ่ว  ต่างหิวโซ
พาร้องโอ้....มายก็อต  จอดไม่แจว

ธรรมชาติ  เล่นกล  ผู้คนทุกข์
สูญสิ้นสุข  จากนาย  ถึงปลายแถว
หรือเวรกรรม  เก่าร้าย  เข้าฉายแวว
สมควรแล้ว  ละหรือ  ถือทนทุกข์

 เธอนั่นแหละจ้ะ     เธอนั่นแหละจ้ะ     เธอนั่นแหละจ้ะ




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, เมฆา..., รการตติ, สล่าผิน, คอนพูธน, ♥หทัยกาญจน์♥, Music

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 มกราคม 2012, 02:57:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #2 เมื่อ: 14 มกราคม 2012, 02:57:PM »
ชุมชนชุมชน



.................................

ธรรมชาติ  เล่นกล  ผู้คนทุกข์
สูญสิ้นสุข  จากนาย  ถึงปลายแถว
หรือเวรกรรม  เก่าร้าย  เข้าฉายแวว
สมควรแล้ว  ละหรือ  ถือทนทุกข์

 เธอนั่นแหละจ้ะ     เธอนั่นแหละจ้ะ     เธอนั่นแหละจ้ะ

เพราะเคยเห็น เป็นห่วง ดัง.ช่วงฯ.ว่า
อีก.สล่าฯ. พร่ำพจน์ เลยหมดสุข
เพื่อนร่วมชาติ อาจสู่ ประตูยุค
ขั้นเอกอุก วิปโยค ถือโศกกำ

จากผลพวง บ่วงบุถ มนุษย์สร้าง
ตัณหาพราง อ้างเพื่อ เครือสัตว์ส่ำ
สิ่งที่ผิด คิดเ้ลียน เพียรกระทำ
โน้มจิตนำ ยิ้มรับ ความอัปรีย์

ซุกเงินตรา ใช้อามิษ แสร้งดีดดิ้น
ทำลายสิ้น พินาศ ธาตุทั้งสี่
รวมดิน.น้ำ ลม.ไฟ.ไสจักรี
ทั่วธานี น้ำตานอง ร้องระงม

แตกระแหง แล้งถิ่น แผ่นดินไหว
เกิดฟืนไฟ ไหม้ป่า.คาม.ถาโถม
น้ำถึงฟ้า ปลากินดาว ชาว.บ้าน.จม
ปรากฎลม แรงพัด กระจัดกระจาย

แพร่สารติด พิษภัย ในอาหาร
ถูกเล่นงาน เจ็บไข้ ไวรัสร้าย
ทั้งข้าวยาก หมากแพง แย่งกันฟาย
จนล้มตาย เป็นเบือ เมื่อฆ่ากัน


คงลำบาก หากแย่ ไม่แก้ไข
เบาบางได้ หยุดราน สมานฉันท์
มอบเป็นทาน กรานศีล จินต์จรัล
วิปัสสนันต์ พ้นทุกข์ พบสุขเอย

 เคารพรัก

รพีกาญจน์ 59

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ช่วงนี้ไม่ว่าง, บูรพาท่าพระจันทร์, plang, สล่าผิน, คอนพูธน, รัตนาวดี, ♥หทัยกาญจน์♥, Music, กฤษการกลอน

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s