Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง...ตัวอย่าง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
15 พฤษภาคม 2024, 07:35:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง...ตัวอย่าง  (อ่าน 10357 ครั้ง)
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2012, 02:30:PM »


อืมม์.... งอนแล้วด้วย จะว่าไปก็เป็นคำพูดที่มีเหตุและผล
เพราะมีที่มาที่ไป  อ้างอิงหลักฐานตำรา  แต่อย่างไรก็ดีก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า
คำที่นำมาใช้นั้นต้องเป็นคำคู่กันที่ใช้พูดจนเป็นปกติอยู่แล้ว มีการได้ยินได้ฟังจนชินหู
ก็คือคำที่คนพูดกันติดปากจนเป็นปกตินั่นเอง  อาทิเช่น ตะเกียกตะกาย  ทุรนทุราย  กระวนกระวาย  สม่ำเสมอ  สว่างไสว  กระหืดกระหอบ
กระแอมกระไอ  กระปรี้กระเปร่า  ทุลักทุเล   ลมเพลมพัด(ซึ่งคำทียกตัวอย่างมานี้คือคำพูดทั่วไปที่ใช้พูดจนติดปากชินหูนั่นเอง
มิใช่คำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่)   ผู้แต่งจำต้องอาศัยไหวพริบในการสรรหาคำเหล่านี้แหละ
มาประกอบในการแต่งกลอน  มิใช่มาประดิษฐ์หรือใส่เข้าไปตามใจชอบพอแต่ให้ถูกหลักการ
จึงจะถือว่าเป็นกลบทแท้   ไม่เช่นนั้นคำจะเป็นแค่คำที่ถูกยัดเยียดเข้าไปพอให้ถูกต้องตามตำราเท่านั้น
หาความเป็นธรรมชาติมิได้  และไม่เข้าถึงแก่นแท้ของความเป็นกลบท(เป็นแค่ข้อคิดเห็นส่วนตัว) ยิ้มให้จ้ะ


เหตุผลประกอบการคิดเห็น   เราจะต้องมาวิเคราะห์กันว่าคนโบราณเขาคิดกลบทนี้มาเพื่ออะไร ?
คงไม่ใช่อยู่ๆจะมาบัญญัติหลักการขึ้นมาเป็นแน่  คนโบราณจะต้องเล็งเห็นแล้วคำคู่เหล่านี้สามารถนำมาประกอบ
เป็นการเล่นคำได้  จึงบัญญัติกลบทชนิดนี้ขึ้น  จุดมุ่งหมายอยู่ที่การประลองไหวพริบว่าใครจะสามารถค้นคว้าและสรรหา
คำประเภทนี้มาใช้ในกลอนได้มากที่สุดและกลมกลืนที่สุดคนนั้นก็จัดเป็นผู้เต็มเปี่ยมด้วยไหวพริบ
ตรงกันข้ามผู้ประดิษฐ์และใส่คำตามใจชอบของตนโดยไม่คำนึงถึงคำคู่ที่มีอยู่จริงย่อมไม่แสดงถึงเชาวน์ปัญญา
เปรียบอุปมาเหมือนเพชรแท้กับเพชรสังเคราะห์  เพพชรแท้คือสิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติเป็นสิ่งที่หาได้ยากและมีราคา
ส่วนเพชรสังเคราะห์นั้นประดิษฐ์ตามใจตัวเอง  จะทำมากเท่าไรก็ได้
อีกประการหนึ่งอยากให้คำนึงถึงธนบัตรแท้กับการผลิตธนบัตรเอง  ความยากและง่ายต่างกันให้เห็นชัดเจนอยู่
คนผลิตแบงค์ใช้เองเป็นเช่นไรย่อมรู้กันอยู่
      ที่กล่าวทั้งหมดนี้ใช่ว่าจ้ำจี้จ้ำไชต้องการเพียงชนะ  แต่อยากให้คำนึงถึงหลักการและความเป็นจริง
ตลอดถึงที่มาที่ไป  การเล่นกลบทนี้จึงจะเข้าถึงแก่นแท้  หากทำแบบลวกๆ กลบทจะกลายเป็นแค่กลอนพิกลพิการบทหนึ่งเท่านั้น
ไม่มีความแปลกและพิศดารชวนอัศจรรย์เหมือนเช่นที่กลบทควรจะเป็น

                 หากการแสดงความคิดเห็นนี้เป็นการล่วงเกินแต่ประการใดต้องขออภัยิย่างสูง
ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาโดยแท้จริง มิได้มีเจตนาอื่น   เคารพรัก





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

sunthornvit, รพีกาญจน์, ..กุสุมา.., พี.พูนสุข, ค.คนธรรพ์, รการตติ, ปู่ริน, สมนึก นพ, บูรพาท่าพระจันทร์, Thammada, สะเลเต, ลมหนาว, อริญชย์, รัตนาวดี, แป๊ะยิ้มคุง, toshare

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 กุมภาพันธ์ 2012, 03:05:PM โดย บุคคลทั่วไป » บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s