วาดลีลาด้วยถ้อยคำ
หมอกเช้าลอยเอื่อยเกียจคร้าน
แสงแดดเผยร่างเมื่อยามเช้าตรู่
สายลมจากทิศบูรพาไม่หวนกลับ
ทะเลหมอกบนยอดเขา
ความเหน็บหนาวจากแผ่นดินใหญ่แผ่คลุม
ผู้คนหวั่นไหวไร้โอบกอดแอบกระซิบ
ติดปีกหนีอาญาแผ่นดินบนถิ่นเกิด
หลบเลียแผลกายบนดินแดนไร้สรรพนามเมื่อทุกคนเอ่ยถาม
ทิ้งรอยร้าวกลิ่นไหม้แม้นอยู่ในที่ห่างไกลยังแลเห็น
เหนื่อยล้าสักเพียงใดหาได้หยุดหย่อนครุ่นคิด
อาฆาตเคียดแค้นแม้นตัวตายสรรพสิ่งคือความย่อยยับ
จ้องมองเผาทำลายบ้านเมืองศรัทธาท่ามกลางฝูงชน
ในขณะนักปกครองที่ทดลองเถลิงอำนาจ
กลับฉีกขาดมิตรภาพกัดกินทุกอย่างที่ประชาชนทำหล่น
ด้วยคมวาจาประดุจอาวุธประทุษร้ายเข่นฆ่า
มิเคยเหลียวหลังแหงนมองท้องฟ้าที่อยู่เบื้องบน
ในยามหลังคาซุกร่างช่องทะลุผุพังเรือนชานแดดเลีย
หวั่นเพียงบัลลังก์สั่นสะท้านโยกคลอนไหวเอน
เอาแต่เพ่งมองห่วงใยที่ปลายเท้าด้วยเหม็นคาวกลิ่นโชย
ท้องนารวงข้าวแล้งน้ำขาดฝน
ทิวหญ้าไร้พู่กันแต่งแต้มหลากสี
ท้องฟ้าแห้งขอดหยดน้ำค้างในยามราตรี
ท้องทะเลสีครามฉาบใสกลับขุ่น
ใบหน้าผู้คนหมองคล้ำพลบค่ำย่ำอรุณ
ความรักคือถ้อยคำแห่งความว่างเปล่า
ความโศกเศร้าชันเข่าร่ำไห้บนซากศพเกลื่อนตายกองพะเนิน...
สกินเฮด
20/11/52
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
29 เมษายน 2024, 03:14:AM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: ก วี เ ดี ย ว ด า ย (อ่าน 79085 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: