Re: O หนาวแรก .. O
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
02 พฤษภาคม 2024, 05:03:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: O หนาวแรก .. O  (อ่าน 4658 ครั้ง)
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« เมื่อ: 16 ธันวาคม 2018, 05:40:PM »



O หอมกลิ่นแก้ว .. O






O รื่นเย็นวรรษกาล .. โลมผ่านผิว
สายลมพลิ้วโปรยปรายพร้อมสายฝน
ขณะความห่วงหา .. ในตาคน-
คล้ายเวียนว่าย-วกวน .. คลุมบนแวว
O พร้อมริ้วลม .. หยาดฝนที่หล่นไหล-
แรงถวิล, อาลัย .. ก็ไหว .. แว่ว
เมื่อหยาดน้ำโลมพลอดตลอดแนว
รูปในแก้วตาวามก็ลามล้อ
O แก้วดอกขาวหอมอ่อน .. กำจรกลิ่น
เมื่อฝนรินหลั่งบท, ความจดจ่อ-
ถึงรูปนาม .. สรรพเสียงก็เพียงพอ-
ให้อยู่รอคอยรับแนบกับใจ
O เจื้อยแจ้วนั้น .. เสียงวิหคเคยผกร้อง
บัดนี้ก้องเสียงว่า .. อยู่ป่าไหน
อาวรณ์ .. รูปแหนหวง .. ความห่วงใย-
ก็ก่อรูปขับไข .. แจ้งนัยน์ตา
O เพราะขอบฟ้าเวิ้งกว้างมาขวางคั่น
ให้ต่างฝันเฝ้าคอยละห้อยหา
มีแสงดาวแสงจันทร์ .. แทนสัญญา-
แห่งฉันทารอบชู้ .. มอบสู่กัน
O ป่านนี้จักละห้อย .. รอคอยพี่-
ให้ราตรีโอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ
หรือคอย-อก .. อ้อมแขน .. ห้อมแหน .. บรร-
ณาการรูปนามฝัน .. เจ้าขวัญน้อย ?
O ฝนหลั่งหล่นหยาดลง .. ที่ตรงหน้า
เหมือนบอกว่า .. ฟ้าเศร้า .. คืนเหงาหงอย-
บนฟ้าไร้ดาวเดือนเคยเลื่อนลอย
ใจรอคอย .. เหงาแท้ .. ไม่แพ้กัน
O อยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน .. พร้อมจันทร์หนึ่ง
แปลกสุดซึ้งเยี่ยงไร .. ช่างไกลขวัญ
ฟ้าบน .. เคยแจ่มแจ้งด้วยแสงจันทร์
บัดนี้พลันเลื่อนดวงจนล่วงลับ
O หรือว่าด้วยดวงจิตอธิษฐาน
ถึงรูปคราญเจ้าเอย .. ไม่เคยดับ
หวังยิ่งกว่าจันทร์ดาว .. แสงวาววับ-
คือแววตาเจ้าพรับ .. ตอบรับรู้ ?
O ฝนหล่นเม็ดเช่นนั้น .. เย็นยันค่ำ
หนาวลมร่ำผ่านริ้ว .. โลมผิวอยู่
สบนัยน์ตาลอบเร้น .. ก็เอ็นดู-
ความขัดเขินรอบชู้ .. เมื่อจู่โจม
O ดูเอาเถิด .. รูปนามผู้ทรามสวาท-
เหนี่ยวภพชาติจบจูบด้วยรูปโฉม
กี่จักขุวิญญาณเมื่อผ่านโลม
อาจหยุดโสมนัสช่วง .. กลางห้วงใจ ?
O หรือเพื่อมาบรรจบด้วยภพชาติ
ตามคำภาษสัตย์ปวงเคยบวงไหว้
จึงเลื่อนล้อมรอยร่างทุกย่างไป
เฝ้าแต่คอยอาลัย .. อยู่ไม่วาง
O หรือคำมั่นสัญญาแต่ครานั้น
จักสำทับลงมั่น .. เกินกั้นขวาง-
ให้ความเหงาโดดเดี่ยวในเที่ยวทาง-
หลีกลี้ห่างรูปเงา .. ทุกก้าวเดิน
O จึงพารูปนามฝันมาผันร่าง
ย่ำรอยทางปฏิพัทธ .. อย่างขัดเขิน
จนเมื่อสบความ .. คำ .. ก็จำเริญ-
การหยอกเอินอาลัยที่ในทรวง
O วิชชุแล่นเลื่อนสาย .. ที่ปลายฟ้า
แววในตา .. รูปเอยหรือเคยล่วง-
ลับเช่นฟ้าครวญคร่ำ .. เมื่อคำบวง-
นั้นคอยหน่วงเหนี่ยวคำ .. ลงนำทาง
O หรือคำบนบอกสรวง .. เคยบวงเซ่น
คอยบีบคั้นบีบเค้นไม่เว้นว่าง
ให้แต่คอยละห้อยเห็นไม่เว้นวาง
ขอรูปคราญเคียงข้างอย่าห่างเลย
O ฝนร้างหยาดสิ้นหยดไปหมดฟ้า
ลมผ่านมาเย็นเยียบ, แววเรียบเฉย-
ของนัยน์ตาหวงชู้ .. ก็รู้เชย-
ชม .. รูปนามยั่วเย้ยอย่างเคยตัว
O เผยรูปนามบรรจบด้วยภพชาติ
ยอสวาดิโหมระลอกขึ้นหยอกยั่ว
แล้วหัวใจใครกัน .. ที่สั่นรัว-
กับเพียงชั่วครู่ยาม .. วาบหวามนั้น
O รู้หรือไม่ใครกัน .. เจ้าขวัญน้อย
ที่ต้องคอยอาลัย .. คอยไหวหวั่น
ทุกพจน์พากย์ความคำ .. ร้อยรำพัน-
เพื่อครอบขวัญเจ้าไว้ .. อยู่ในมือ !

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2014&date=10&group=11&gblog=545&fbclid=IwAR0sQDsrzZer5upfURhrf4Qi4RAhe0bi3RXvHWt4Cir9xdNuUIdHoHarYaA

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, Mr.music, แสนเมือง, ไผ่เดียวดาย

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s