Re: O ปริภาษวาจก O
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
27 เมษายน 2024, 09:46:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: O ปริภาษวาจก O  (อ่าน 2591 ครั้ง)
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2018, 08:28:AM »



O โอ - อึกทึก .. ! O





-1-
O อึกทึกความเป็นมีในที่นั้น
ผูกเป็นพันธะให้คนได้เห็น
เผยบทบาทโหมเร้าอยู่เช้าเย็น
สร้างเรื่องราวโลดเต้นไม่เว้นวัน
O ดิ้นรนขวนขวาย .. เช้า-สาย-เที่ยง
เพื่อบ่ายเบี่ยงถูกผิดให้บิดผัน
วาทกรรมกล่อม"เขลา" .. แว่ว, เมามัน-
ที่เชื่อเชื่องฝูงนั้น .. หมอบ-วันทนา

-2-
O โอ-นั่น-ภาพพจน์ .. การมดเท็จ
ค่อยสร้างกรวดเป็นเพชร .. สำเร็จค่า
ชั่วเพียงการจับจ้องด้วยสองตา-
กลับเห็นภาพเบื้องหน้า .. นั้น-พร่ามัว
O แม้ดวงวันปลงเปลื้อง - รุ่งเรื้อง-ผ่าน
กลับเหมือนม่านห่าฝนอันหม่นหลัว
ลงปกคลุมแสงวันให้ผันตัว
เก็บโอภาส-เกลือกกลั้วด้วยราตรี
O มืดคลุ้ม-คลุมหาวแต่คราวนั้น
สิ้นดาวจันทร์จำรูญ-ในพู้นที่
แต่ละครั้งลมโกรก .. เข้าโยกตี
ก็ทุกทีไม้แกว่งด้วยแรงลม
O สายฟ้าเฟื้อยวาบเคล้า .. เมฆเทาทึม
ลมก็ฮึมถั่งโถม-แรงโหม-ห่ม-
กดกิ่งก้านคู้ค้อมลงจ่อมจม
กับเรี่ยวแรงพัดพรมของลมเลี้ยว
O หลากไม้ยืนต้นอยู่ .. ไม่รู้ค้อม
ลงนอบน้อมรับข่ม-จากลมเกรี้ยว
แผ่กิ่งก้านปัดป่ายอยู่ดายเดียว
ในค่ำเปลี่ยวเปล่าหมองครึ้มครองแดน

-3-
O แว่ว-นั่น-ล้วนภาพพจน์ .. แห่งบทบาท-
ของข้าทาสหมู่เขลา .. ผู้เฝ้าแหน
นกขมิ้นร้องร่ำ .. ยูงรำแพน-
เหยียดขน .. แอ่น-อกร้องเสียงก้องไกล
O โอ-งามเคยงดงามอยู่ท่ามกลาง-
ขนปีก, หาง-แดดจับ .. แววขับไข-
ลายขาบเขียวแผ่วงกลางพงไพร
บัดนี้เหลืองามใด .. รอให้มอง
O โอ-งามเคยงดงามมาทรามสิ้น
จากเพชรนิลน้ำระยับให้จับจ้อง
เหลือเพียงเม็ดกรวดทราย .. ให้ปรายมอง
รอ-หมู่ผองตีนต่ำ .. เขาย่ำเย้ย
O แว่วนั้น-ล้วนโป้ปด-ความมดเท็จ
ยังไม่เสร็จแต่งสร้างรีบวางเผย
โอหนอ-สุจริตหวังชิดเชย
กลับล่วงเลยคุณค่า ต่อตานี้
O สิ้นดวงวันปรุงเปลื้องแสงเรื้องรุ้ง
พร้อมขอบคุ้งโค้งฟ้า .. เสื่อมราศี
คือใจคนแฝงเร้นความเป็น .. มี
เพื่อเขียนรอยวาดสี .. แต้มลีลา
O สิ้นแล้ว-เกณฑ์กรอบความชอบธรรม
จะหนุนค้ำเรื่องราวข้อกล่าวหา
ฝุ่นฝนมัวคลุ้มครึ้ม-เมฆทึมทา
จำต้องลาลับช่วง .. แสงดวงวัน
O เมื่อแสงริบหรี่ลงไม่คงเดิม
จากควรเพิ่มพูนแรง .. แต้มแต่งสวรรค์
ด้วยเมฆทึมทอดทับ .. ในฉับพลัน-
การปิดกั้น .. ก็ลับสิ้นจากดินแดน

-4-
O อึกทึกความเป็นมีในที่นั้น
ผูกเป็นพันธะลวงให้หวงแหน
ปลุกเร้าจิตทุรชาติผู้ขาดแคลน-
เฝ้า-รำแพนแฉกหางเอาอย่างยูง
O อึกทึกความเป็นมีในที่นั้น
ล้วนคำมั่นสัญญาของจ่าฝูง
และเชือกยาวสำหรับ .. ไว้จับจูง-
ผูกล่ามทั้งต่ำสูง .. รวมฝูงเดิน
O เห็นความเป็นความมี .. ในที่นั้น
รวบรวมฝันซุกอก .. อยู่งกเงิ่น
ภาพหัวหูค้อมต่ำ .. ยังดำเนิน-
อวด-จำเริญแห่งจริต .. ที่บิดเบือน

-5-
O แรง-บ่ายเบี่ยงถูกผิดให้บิดเบี้ยว
ย่อม-กรากเชี่ยว, เป็นสายลงป่ายเปื้อน-
จิตผู้ตาปริบปรอย - เพื่อคอยเตือน-
ว่า-ทุกการขยับเขยื้อน - ต้องเหมือนกัน !

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2013&date=22&group=41&gblog=44&fbclid=IwAR1GfNZagRWWtGerkFsBddnJY1gdTXG1c_diangUaTCBYuRSG64_ox6bhcg


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s