นั่งร่ำไห้ ปลายสวน จวนใกล้พลบ
เสียงเขียดกบ อืดอาด หวาดผวา
เงาตะคุ่ม พุ่มไม้ แกว่งไปมา
เหลียวซ้ายขวา พาหวั่น กายสั่นเทา
ฝนตกพรำ ซ้ำปอน เปียกฟอนเฟะ
กายเละเทะ แฉะเฉอะ เปรอะผมเผ้า
อยากกลับบ้าน หวานชื่น คืนเรือนเรา
ห่วงหรือเปล่า เล่านี่ ที่หายมา
แต่ก่อนนั้น ฉันงอน เธออ้อนห่วง
กาลเลยล่วง ช่วงนี้ มิมีค่า
มิมาง้อ เหมือนเก่า เหงาอุรา
รู้ไหมหนา หนาวจัง ทนนั่งคอย
เสียงเขียดกบ อืดอาด หวาดผวา
เงาตะคุ่ม พุ่มไม้ แกว่งไปมา
เหลียวซ้ายขวา พาหวั่น กายสั่นเทา
ฝนตกพรำ ซ้ำปอน เปียกฟอนเฟะ
กายเละเทะ แฉะเฉอะ เปรอะผมเผ้า
อยากกลับบ้าน หวานชื่น คืนเรือนเรา
ห่วงหรือเปล่า เล่านี่ ที่หายมา
แต่ก่อนนั้น ฉันงอน เธออ้อนห่วง
กาลเลยล่วง ช่วงนี้ มิมีค่า
มิมาง้อ เหมือนเก่า เหงาอุรา
รู้ไหมหนา หนาวจัง ทนนั่งคอย
"ดิน"
ละอองฝนโปรยปรายกายหนาวสั่น
เห็นเธอนั้นนานเนื่องดูเงื่องหงอย
ไม่ไหวติงตากฝนที่หล่นปรอย
อาบริ้วรอยความเศร้าเคล้าพิรุณ
จะขอเช็ดน้ำตาที่บ่าไหล
ด้วยสองมือหนึ่งใจไว้แนบหนุน
โอบกอดเธอด้วยฝันอันละมุน
ให้อบอุ่นเร็วพลันวันฝนซา
เห็นเธอนั้นนานเนื่องดูเงื่องหงอย
ไม่ไหวติงตากฝนที่หล่นปรอย
อาบริ้วรอยความเศร้าเคล้าพิรุณ
จะขอเช็ดน้ำตาที่บ่าไหล
ด้วยสองมือหนึ่งใจไว้แนบหนุน
โอบกอดเธอด้วยฝันอันละมุน
ให้อบอุ่นเร็วพลันวันฝนซา