ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต google.com
หูกับคอ
เป็นไข้หวัดรันทดนั่งอดสู
แสบคอลามถึงหูปวดอยู่ได้
สองอย่างมาพร้อมกันนั่นกระไร
จำต้องไปตรวจดูทั้งหู-คอ
บอกปวดมาหนึ่งวันหูด้านซ้าย
กลับถูกฉายไฟหาหูขวาหนอ
ส่องตรวจดูทันทีไม่รีรอ
จากนั้นหมอจึงดูด้านหูซ้าย
พร้อมกล่าวคออักเสบจึงเจ็บหู
หลังตรวจดูคอเราคือเป้าหมาย
จากนั้นหมอพูดป้อนให้ผ่อนคลาย
ไม่สบายทานยารักษาตัว
สอง สามผ่านไป ก็ได้ผล
เมื่อฟื้นตนจากหวัดรุมรัดหัว
หูกับคอพอกัน เลิกพันพัว
หายหม่นมัวเพราะหมอดีต่อเรา!ฯ
อริญชย์
๕/๑๐/๒๕๕๕
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://www.school.net.th/library/create-web/10000/technology/10000-421.html
เรื่องปวดหัวนี้ เขาว่าเป็นกันมากถึงร้อยละ 90 ของประชากรทีเดียว
สาเหตุที่ทำให้ปวดหัว ส่วนใหญ่ก็มักอยู่นอกหัวทำงานเครียดก็ปวดหัว ทะเลาะกับแฟนก็ปวดหัว ฯลฯ
แต่ส่วนที่อยู่ในหัวเราก็มีสมอง และส่วนที่ใกล้เคียงกับสมอง ก็คือ หู คอ จมูก ซึ่งมีผลทำให้เกิดการปวดหัวอย่างรุนแรงได้น่าดู บางอย่างก็เป็นเพราะตัวของมันเอง บางครั้งก็เข้าไปสัมพันธ์กับโรคของสมองได้
ที่เรารู้จักกันดีก็คือ ไซนัส
คำว่า ไซนัส เป็นชื่อเรียกส่วนหนึ่งที่เป็นโพรงอากาศรอบ ๆ จมูก อยู่ในกระดูกของใบหน้าและกระโหลกศีรษะ ภายในไซนัสมีอากาศอยู่ และถ่ายเทได้โดยช่องนี้ติดต่อกับโพรงจมูก บางทีช่องนี้ปิดจากการอักเสบ หรือมีเนื้องอกเกิดขึ้นทำให้จมูกบวมไปปิดรูเปิดของไซนัส ก็ทำให้ความดันในไซนัส และในโพรงจมูกไม่เท่ากัน คราวนี้แหล่ะคุณเอ๋ย..ปวดอย่าบอกใครทีเดียว นอกจากนี้ ก็พบได้ในคนเป็นหวัด หรือคนคัดจมูกนิดหน่อยแล้วขึ้นเครื่องบินเดินทาง เวลาเครื่องบินร่อนลงเปลี่ยนระดับจะปวดบริเวณหน้าผากอย่างรุนแรง เป็นเพราะสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว บางคนต้องกินยาลดบวมของเยื่อบุจมูกป้องกันไว้ก่อน
นอกจากนั้น การอักเสบที่รุนแรงผ่านเข้าไปในไซนัส ทำให้ไซนัสอักเสบอย่างเฉียบพลัน มีหนองในไซนัสและออกไม่ได้ บางทีจะเห็นบวมแดงที่แก้มหรือหน้าผาก จะมีอาการปวดบริเวณที่บวมแดงนั้นอย่างรุนแรง และเสียวร้าวไปที่ขมับข้างเดียวกัน การปวดมักเป็นในเวลาเช้า ถ้าเป็นไซนัสที่หน้าผาก หรือบ่าย ในรายที่เป็นไซนัสที่โหนกแก้ม เวลาเย็นมักจะมีอาการดีขึ้น การปวดจะปวดแน่น ๆ รอบ ๆ หน้าผากและเบ้าตาเวลาเปลี่ยนท่า เช่น ก้มศีรษะจะทำให้ปวดถ่วงมากขึ้น
อาการเช่นนี้แก้ไขได้โดยใช้ยาพ่นจมูกให้โล่งขึ้น การถ่ายเทอากาศระหว่างไซนัสและภายนอกเป็นไปได้ดี หนองออกได้บ้างจะบรรเทาปวดไปได้มาก และให้ยาอื่นร่วมด้วยเพื่อรักษาอาการอักเสบของไซนัสต่อไป ในรายที่เป็นไซนัสอักเสบเรื้อรังหนองสามารถออกได้ทางหลังจมูก มักจะไม่มีอาการปวดศีรษะเพราะความดันในไซนัสไม่เปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ยังมีโรคที่สำคัญที่สุดที่ทุกคนกลัวกันนักกันหนาก็คือ มะเร็ง ในตำแหน่งนี้ก็มีมะเร็งของโพรงหลังจมูก หากเกิดขึ้นแล้วในระยะหลัง ๆ จะทำให้ปวดศีรษะได้มาก ๆ เพราะว่าตำแหน่งจะอยู่บริเวณหลังจมูกใกล้ชิดฐานสมอง หากลุกลามขึ้นไปอีกนิดเดียวก็ถึงส่วนของสมองแล้ว ในรายเช่นนี้มักมีความผิดปกติของลูกตา ตาเหล่ ชาที่หน้าหรือหน้าเบี้ยว จากการแทรกซ้อนของเนื้องอกกดทับเส้นประสาทสมอง
ในรายที่เป็นหูน้ำหนวก เป็นนานถ้ามีหนองไหลเป็นประจำ หากมีอาการปวดหัวข้างเดียวกับที่เป็นหูน้ำหนวก และมีไข้ขึ้นคอแข็ง ให้พึงระลึกว่าหูน้ำหนวกนั้นไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว อาจเป็นหูน้ำหนวกร้ายแรงและแทรกเข้าไปทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองหรือเป็นฝีในสมองได้ สาเหตุที่เกิดหูน้ำหนวกร้ายแรง ก็อาจจะเป็นเพราะมีสารกินกระดูก ทำลายกระดูกรอบ ๆ ให้กว้างออกไป จนถึงเยื่อหุ้มสมองได้โดยตรง และเชื้อแพร่เข้าไปในสมองได้
นอกจากการอักเสบของหูแล้วเนื้องอกของช่องหู หรือประสาทหูหากโตใหญ่มากขึ้นจะกดส่วนของเนื้อสมองและทำให้เพิ่มความดันในสมองขึ้น จะทำให้ปวดหัวได้มาก เพราะฉะนั้น การตรวจระบบหู รวมทั้งทดสอบการฟังเสียงก็มีความจำเป็น ในรายที่มีเสียงดังในหู หูอื้อหรือเวียนศีรษะหมุนร่วมด้วย ถ้ามีอาการปวดศีรษะก็จะเป็นระยะหลัง ๆ ของโรคที่มีอาการมากแล้ว
โรคที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สามารถวินิจฉัยและรักษาได้อย่างแน่นอน เมื่อเจ้าของเรือนที่ปวดศีรษะนั้นไปพบแพทย์ หู คอ จมูก
จัดทำโดย
น.ส.เกศิณีย์ ชายกุล,น.ส.วิมล ยุคุณธร,นางชยุดา ไตรบุญ
วิทยาลัยบรมราชชนีจักรีรัช
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า
