Re: @. บทกวี..ของ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์..@
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 เมษายน 2024, 02:41:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: @. บทกวี..ของ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์..@  (อ่าน 110954 ครั้ง)
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2012, 05:07:PM »


วารีดุริยางค์

           แทบฝั่งธารที่เราเฝ้าฝันถึง
เสียงน้ำซึ่งกระซิบสาดปราศจากเสียง
จักรวาลวุ่นวายไร้สำเนียง
โลกนี้เพียงแผ่นภพสงบเย็น

           เพื่อชื่นชมรมณีย์กับชีวิต
ที่จะคิดที่จะทำตามคิดเห็น
ระเรื่อยเรื่อยเฉื่อยฉ่ำลืมลำเค็ญ
ลืมความเป็นปรัศนีของชีวิต

           หางนกยูงระย้าเรี่ยคลอเคลียน้ำ
แพนดอกฉ่ำช้อยช่อวรวิจิตร
งามดั่งเปลวเพลิงป่ามานิรมิต
สร้อยโสภิตอภิรุมพุ่มหัวใจ

           เพรชน้ำค้างค้างหล่นบนพรมหญ้า
เย็นหยาดฟ้ามาฝันหลงวันใหม่
เคล้าเคลียหยอกดอกหญ้าอย่างอาลัย
เมื่อแฉกดาวใบไผ่ไหวตะวัน

           มโหรีจากราวป่ามาเรื่อยรี่
ราชินีแห่งน้ำค้างจะห่างหัน
ฝักต้อยติ่งแตกจังหวะประชันกัน
จักจั่นจี่เจื้อยรับเรื่อยร้อง

           ลมระเริงลู่หวิวพลิ้วระลอก
สัพยอกยอดไม้ไปลิ่วล่อง
แล้วใบไม้ก็ไหวส่าย ขึงข่ายกรอง
ทอแสงทองทอดประทับซับน้ำค้าง

           ดอกไม้ป่าปรุงกลิ่นประทิ่นป่า
อบบุหงามาลัยทั่วไพรกว้าง
หอมจนหอบหัวใจไปเคว้งคว้าง
เคลิ้มถวิลกลิ่นปรางอบกลางทรวง

           ผีเสื้อสวยแต้มสีที่กลีบแก้ม
ชมพูแย้มแดงระยับสลับม่วง
ก้านเกสรอ่อนฉ่ำน้ำผึ้งรวง
หยาดหยดพวงพุ่มระย้าจากคาคบ

           และเราลิ้มรสหวามของความหวาน
จากสายธารที่ไหลไม่รู้จบ
จากสายใจไหลย้อนซอกซอนซบ
เงียบสงบระงับลงตรงมุมนี้

           เลิกความคิดขันเข่งปรุงแต่งจิต
เลิกชีวิตวุ่นวายในทุกที่
เลิกเดือดร้อนดิ้นรนคนไยดี
ไม่ต้องมีปรารถนาในอารมณ์

           ฟังต้นไม้สายน้ำย้ำให้หยุด
หยุดเสียทีเถิดมนุษย์หยุดสะสม
หยุดปรุงแต่งแสร้งตามความนิยม
สร้างสังคมโสโครกโลกจึงร้อน

           จงหยุดชมชื่นใจในใจเถิด
ทุกสิ่งเกิดก่อไว้ในใจก่อน
สมมติจากหัวใจไปทุกตอน
ใจจึงซ่อนทุกสิ่งจริงลวงไว้                               
           
           สงสารใจ ใจเจ้าเอ๋ยไม่เคยนิ่ง
วนและวิ่งคืนและวันหวั่นและไหว
เหมือนถูกกายกำบังกักขังใจ
ใจจึงได้ดิ้นรนทุกหนทาง

           กลางคืนคอยเป็นควันอั้นอัดไว้
ครั้นกลางวันก็เป็นไฟไปทุกอย่าง
ร่างกายถูกผูกพันสรรพางค์
เป็นสื่อกลางแก่ใจรับใช้การ

           เมื่อใจทุกข์กายก็ต้องทนครองทุกข์
ครั้นใจสุขกายก็สุขสนุกสนาน
วนเวียนหว่างทุกข์สุขทุกวันวาร
แล้วสะสมสันดารการเป็นคน

            ทุกวิถีที่ใจได้เที่ยวท่อง
ล้วนขึ้นล่องอยู่ระหว่างกลางปลายต้น
ที่โคจรของใจไม่เคยจน
ไม่เคยพ้นไม่เคยพรากจากวงจร

           ใจจึงหน่ายจึงเหนื่อยจึงเมื่อยล้า
วุ่นผวาว่อนไหวถูกไล่ต้อน
เกิดแล้วก่อล่อแล้วเร้นเย็นแล้วร้อน
ไม่พักผ่อนเพียงสักคราวเฝ้าแฟบฟู

           รู้และเห็นเป็นไปตามใจอยาก
จึงเหมือนฉากขวากขวางกำบังอยู่
หยุดเสียทีหยุดเสียเถิดเปิดประตู
เพื่อได้รู้และได้เห็นตามเป็นจริง

           ขอกายเจ้าจงเป็นเช่นต้นไม้
ยืนอยู่ได้โดยภพสงบนิ่ง
เพื่อแผ่ร่มและเป็นหลักให้พักพิง
แต่งดอกพริ้งผลัดฤดูอยู่ชั่วกาล

           และใจเจ้าจักเป็นเช่นสายน้ำ
ใสเย็นฉ่ำชื่นแล้วไหลแผ่วผ่าน
เพื่อเลี้ยงชีพชโลมไล้ให้เบิกบาน
เพียงพ้องพานผิวแผ่วแล้วผ่านเลย

           อิสระเสรีที่จะไหล
ด้วยเพลงไพเราะล้ำร่ำเฉลย
ชมดอกไม้สายลมพรมรำเพย
และชื่นเชยกับชีวิตทุกทิศทาง

           วงของน้ำทำประกายกับสายแดด
ร้อนจะแผดเผาทรายพริบพรายพร่าง
ราวกากเพชรเกล็ดโปรยโรยระวาง
หาดกรวดกว้างกลางน้ำเริ่มคร่ำครวญ

           ไม่ใยดีปรีดาประสาโลก
ไม่ทุกข์โศกเสียใจหรือไห้หวน
มีความสุขอยู่ทุกยามตามที่ควร
ไม่ปั่นป่วนไปตามความเร่าร้อน

            รู้จักเพียงพอดีที่จะรับ
ความเกิดดับธรรมดาอุทาหรณ์
พร้อมรู้สึกตามวิสัยไปทุกตอน
เหมือนทุกก้อนกรวดทรายย่อมคล้ายกัน

(ขอบคุณ : อ. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
พันทอง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, รพีกาญจน์, อริญชย์, พี.พูนสุข, Music

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s