Re: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ" "สามเสือแม่ลูก"
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
29 เมษายน 2024, 07:22:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: "บทกวีที่ใครก็คงไม่ชอบ"  (อ่าน 24493 ครั้ง)
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2011, 07:19:PM »

    ๐สามเสือแม่ลูก๐

๐สามเสือโคร่งถูกฆ่าในป่าใหญ่
โดยพรานไพรใช้เนื้อเก้งเหยื่อล่อ
วางยาพิษฤทธิ์ร้ายดักไว้รอ
หลอกสาม ส.เสือป่าให้มากิน

๐อำมหิตพรานโหดใจโฉดชั่ว
น่าหวาดกลัวกว่าสัตว์ป่าพนาสิ้น
ถ่อยสถุลเหลือแสนหนักแผ่นดิน
ใช่ฆ่ากินแล้วก็รู้พอเพียง

๐นี่มันฆ่าเพื่อให้สัตว์ไพรสูญ
ฆ่าพอกพูนสันดาน ฆ่าผลาญเกลี้ยง
ซากเก้ง เสือ นอนตายอยู่รายเรียง
พรานชั่วเพียงถลกหนังยกไป…

๐คิดแล้วให้อิจฉาแพนด้าหมี
แสนสุขีในสวนสัตว์ที่จัดให้
มีคนมาเที่ยวเดินชมเพลินใจ
สัตว์ป่าไทยหลายเผ่า คนเขาลืม!ฯ
 
                      อริญชย์
                        ๑๒/๓/๒๕๕๓

พรานวางยาฆ่าเสือโคร่ง 3 ตัวแม่ลูก เจอเก้งอาบยาพิษที่’ห้วยขาแข้ง

http://www.thaiwildlife.org/main/news/tigers_kill

อนาถพรานใจโหดวางยาพิษฆ่า เสือห้วยขาแข้ง อุทัยธานี 3 ตัวแม่ลูก ใช้เนื้อเก้งผสมยาพิษชนิดรุนแรงวางล่อตามด่านสัตว์ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนป่าไปเจอในสภาพถูกถลกหนัง เลาะเอากระดูกไปหมด และยังเผชิญหน้า 3 คนร้ายใจเหี้ยมที่วิ่งเตลิดหนีเข้าป่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่า  และพันธุ์พืชสั่งล่าตัวมาลงโทษเรื่องราวพรานใจโหดฆ่าเสือ 3 แม่ลูกของป่าห้วยขาแข้ง เป็นที่น่าสลดใจ ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสุนทร ฉายวัฒนะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ว่า จากการที่ชุดตรวจลาดตระเวนป่าได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่กลางป่าลึกของห้วย ขาแข้ง พบซากเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว ถูกวางยาเบื่อตาย โดยเสือ 1 ตัว คาดว่า น่าจะเป็นเสือตัวแม่ สภาพถูกถลกหนัง เลาะเอากระดูกไปหมดแล้ว ถูกทิ้งไว้เหลือแต่ซากเนื้อที่มีอุ้งเท้าติดอยู่ เมื่อตรวจรอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบเสือโคร่งขนาดเล็กอีก 2 ตัว คาดว่าอายุประมาณ 1 ปี นอนตายอยู่ใกล้กัน สันนิษฐานว่าเสือทั้ง 3 ตัวเป็นเสือแม่ลูก ถูกนายพรานวางยาเบื่อชนิดรุนแรง จนทำให้เสือตาย เมื่อกินเหยื่อที่พบคือซากเก้งที่เจอไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบตัวเหี้ยก็โดนยาเบื่อตายอยู่ในบริเวณนั้นด้วย
 
นายจตุ พรกล่าวต่อว่า ได้ขนซากเสือโคร่งทั้ง 3 ตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาส่งให้สถาบันสุขภาพสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานฯ เร่งตรวจสอบพิสูจน์ซากเสือ และได้กำชับให้หน่วยลาดตระเวนออกสแกนพื้นที่ล่าตัวเพื่อเตรียมเข้าจับกุมผู้ต้องหา มาลงโทษแล้ว เนื่องจากทราบว่าก่อนหน้าที่จะพบซากเสือ เจ้าหน้าที่ได้เผชิญหน้ากับคนร้ายจำนวน 3 คนที่วิ่งหนีไป
ด้านนาย ชัชวาลย์ พิศดำขำ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบพื้นที่ พบว่าคนร้ายมีการวางแผนฆ่าเสือโคร่งในห้วยขาแข้งมาเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการฆ่าเก้งโดยนำขาและเนื้อเก้ง ผสมยาพิษมาวางไว้ตามด่านสัตว์ เจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวนไปเจอเนื้อและขาเก้งที่ริมทางด่านสัตว์ มีเถาวัลย์พันอยู่ และมีตัวเหี้ยนอนหงายท้องตายผิดปกติ จึงได้ระวังตัว จนกระทั่งได้เผชิญหน้ากับพราน 3 คนพร้อมอาวุธครบมือ ที่วิ่งหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไป ขณะนี้ กำลังตรวจสอบว่ายังมีซากสัตว์อื่นๆ ที่หลงกินยาพิษเข้าไปหรือไม่ เพื่อเก็บนำมาเผาทำลายก่อนที่สัตว์ชนิดอื่นๆ จะตายเพิ่มจากยาดังกล่าว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเสือ 3 ตัว ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ ยังไม่ทราบว่าเสือแม่ลูกที่ตายไปอยู่ในโครงการวิจัยเสือที่ทีมวิจัยเสือได้ ติดปลอกคอวิทยุส่งสัญญาณไว้หรือไม่ เพราะหลักฐานจากลายของแม่เสือก็ไม่หลงเหลือแล้ว
นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน ประจำกรมอุทยานแห่งชาติฯ และว่าที่ ร.ต.ไชยพร ซารีแสน หัวหน้า กลุ่มจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ร่วมกันเปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากนายสัตวแพทย์ไปศิลป์ เล็กเจริญ นายสัตวแพทย์ประจำสถานีวิจัยสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ว่าพบเสือโคร่งตาย 3 ตัว จึงเดินทางไปชันสูตรซากเสือในที่เกิดเหตุพบซากเสือโคร่ง 3 ตัว ตัวแรกเหลือเพียงเศษเนื้อเศษหนัง ไขมัน และกระดูก คาดว่าถูกนายพรานแล่เอาไปแล้ว ห่างกันไม่ไกลพบซากเสืออีก 2 ตัว เป็นตัวเมียโตเต็มวัย และลูกเสือเพศผู้ น่าจะเป็นแม่ลูกกัน ทั้ง 2 ตัว นอนตายในสภาพชักเกร็ง ม่านตาขยาย อ้าปากค้าง กล้ามเนื้อผิวหนังบางจุดมีสีแดง ลักษณะการตายผิดธรรมชาติ ตายมาประมาณ 5-7 วัน

 
นายสัตวแพทย์ภัทรพลกล่าวต่อว่า บริเวณพื้นที่พบซากเสือโดยรอบ ยังพบร่องรอยการดิ้นอย่างทุรนทุรายเพราะความเจ็บปวดเป็นวงกว้าง จากยาพิษในเนื้อเก้งที่กินเข้าไป และยังมีร่องรอยการกัด ข่วนต้นไม้ ก่อนที่นายพรานจะแกะรอยตามแล่เอาหนัง เนื้อ กระดูก อวัยวะเพศไปขายทำยาโด๊ป ส่วนเสือลูกอีก 2 ตัวคงมากินเหยื่อแล้วดิ้นตาย แต่พรานหาไม่เจอจนเริ่มเน่า นับว่าเป็นครั้งแรกที่พบว่านายพรานล่าเสือ เปลี่ยนวิธีการล่าจากการใช้ปืน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับสัตว์อื่นที่มากินเหยื่อที่พรานทิ้งไว้ อีกหลายชนิด ส่วนผู้ที่นิยมบริโภคอาจได้รับสารพิษเข้าไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารในกระเพาะ กล้ามเนื้อ ผิวหนัง ไขมัน และหนอนที่มากินซากเสือ ตัวเสือ เพื่อพิสูจน์ยืนยันผลทางพิษวิทยาทางสัตวแพทย์ ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติกรมปศุสัตว์
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ภาพโดย: ขวัญชัย ไวยธัญญการ

 ซึ้งจัง โอว์...มายก็อด ซึ้งจัง




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

♥หทัยกาญจน์♥, พี.พูนสุข, ...สียะตรา.., พิมพ์วาส, สุนันยา, Thammada, รัตนาวดี, Prapacarn ❀, กามนิต, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s