Re: ชื่นชมจากใจ ให้ "นายขนมต้ม"
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
02 พฤษภาคม 2024, 06:39:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ชื่นชมจากใจ ให้ "นายขนมต้ม"  (อ่าน 13453 ครั้ง)
rit sriduang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 65
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 39



« เมื่อ: 03 ธันวาคม 2011, 10:22:PM »

เคยได้ยินเรื่องราวของ มหาเทพ ตั้งแต่ยังเด็ก
ประทับใจมากและไม่เคยลืม

มหาเทพ วีรบุรุษผู้ถูกลืม

๑.ผ่านมาหลายสิบปีแล้วพี่น้อง
ชเวดากองเจดีย์ถูกฟ้าผ่า
แผ่นทองคำจารึกหล่นลงมา
เป็นเรื่องของผู้กล้าแห่งชาติไทย
……………………...........…

๒.มหาเทพจึงมุ่งจากกรุงศรีฯ
หลังถูกตีพ่ายแพ้เกินแก้ไข
รวมทหารดาบคู่ที่รู้ใจ
แล้วฝ่าไปมุ่งออกนอกประตู

ตีพม่าที่รุมเข้าล้อมจับ
จนตายยับราบคาบด้วยดาบคู่
หนึ่งทหารกำจัดสิบศัตรู
กลิ่นเลือดผู้รุกด้าวจึงคาวดิน

ยิ่งถาโถมทะลุทะลวงด่าน
ผู้รุกรานยิ่งยับยิ่งดับดิ้น
คราสองดาบคมจัดตวัดบิน
ก็ดื่มกินเลือดปร่าแห่งรามัญ

มือที่จับศาสตราอย่างสามารถ
เคยตักบาตรหวานคาวทั้งข้าวฉัน
บัดนี้ต้องปราบถ่อยเป็นร้อยพัน
คนหยิบมือจะยันได้ฉันใด

เหงื่อรินอาบดาบชุ่มชโลมเลือด
จะแห้งเหือดสักคราก็หาไม่
พอล้าโรยแรงแล้วทแกล้วไทย
ก็พลาดให้ตีกลับจนอับจน

มิอาจต้านทานทัพคนนับหมื่น
ธนูปืนซัดมาเป็นห่าฝน
ยังยืนหยัดจนหมดแรงอดทน
แต่ละคนร่วงไปเหมือนใบไม้

เหลือเพียงมหาเทพทหารแกร่ง
แหวกกำแพงวงล้อมออกมาได้
รีบมุ่งหน้ากลับบ้านแห่งวานวัย
ที่อาศัยเกิดมาจนหย่านม

เห็นเรือนชานบ้านไหม้เพราะไฟเผา
วันที่เขามายืนอย่างขื่นขม
วันที่เขาถูกผลักลงปลักตรม
แหละจะจมรามัญผู้จัณฑาล

มาเถิด..พม่าชะตาดับ
จะชั่วกัปถึงกัลปาวสานต์
กูจะป้องอโยธยา..ขอสาบาน
ต่อหน้าดวงวิญญาณวีรชน…


๓.ควันไฟไหววับพยับแดด
เสียงแผดพม่าโกลาหล
เมื่อไพร่ไพรีและรี้พล
ตามจนจวนติดประชิดตัว

มหาเทพยืนพิงกำแพงวัด
จะยืนหยัดสู้ตายถวายหัว
ขอพระผู้พิสุทธิ์ดุจดอกบัว
โปรดเป็นรั้วป้องกันอันตราย

สามคืนวันผ่าน ณ ลานร้าง
ก็ถมร่างนับร้อยไพรีร้าย
ทุกขยับคมดาบอันปลาบปลาย
เรียกความตายพม่าทุกคราฟัน

ศพขุนทัพนายกองก็กองเกลื่อน
ข่าวสะเทือน..หนึ่งชื่อก็ลือลั่น
ดั่งไฟลามทุ่งทองสู่สองกรรณ
ของราชันย์นักรบ..บุเรงนอง
………………………...........

๔.บุเรงนองหยุดม้าที่หน้าวัด
เงียบสงัดไร้นกจะผกร้อง
ศพพม่ามากมายนอนก่ายกอง
เกิดจากสองคมดาบกำราบฤๅ

เหลือทหารสองนายยังกายสั่น
เขาหวาดหวั่นกลัวใครที่ไหนหรือ
บุรุษนั่นหรือเปล่าที่เล่าลือ
ดาบสองมือสองแขนยังแน่นกำ

ดาบข้างหนึ่งปลายชี้ไปที่ฟ้า
ราวบอกว่าข้าน้อยผู้ต้อยต่ำ
ทำหน้าที่ครบถ้วนอย่างควรทำ
เหมือนดั่งคำวาจาที่สาบาน

อีกหนึ่งดาบปลายชี้ไปที่พื้น
ราวบอกคืนร่างกายนายทหาร
กลับสู่พื้นแผ่นดินเมื่อสิ้นปราณ
ตลอดกาลใต้พระธรณี

ดาบยังยันร่างไว้มิให้ล้ม
สองตาคมยังจ้องสุรีย์สี
ราวอาลัยในพื้นปฐพี
หวังกรุงศรีฯหลุดพ้นจากโพยภัย

พลธนูเล็งง้างที่ร่างนั้น
หวังรางวัลหากยิงผู้ยิ่งใหญ่
บุเรงนองฟันควับอย่างฉับไว
หัวคนไพร่หล่นพื้นพสุธา

ฟังคำกูให้ดีพวกขี้ขลาด
ใครบังอาจทำร้ายร่างชายกล้า
หัวมึงจะถูกบั่นในทันตา
กูจะจารึกเขาในเจดีย์

กูจะเผาร่างเขาราวขุนศึก
กูยังนึกหวาดหวั่นท่านผู้นี้
หากมีแค่ร้อยคนในธานี
คงไม่มีวันกูจะกำชัย….


กลอนเก่า ๒๘ เมษายน ๒๕๕๐
เกลาใหม่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๔

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

Thammada, amika29, hathaichanok, รัตนาวดี, ธันวาคม, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s