มะขามยักษ์ฝักใหญ่เปรี้ยวในฝัก
ได้ชื่อมะขามยักษ์เพราะฝักใหญ่
สวนเมืองกาญจนบุรีมีทั่วไป
แปรรูปได้ :แช่อิ่ม: น่าชิมเอย ฯ


                    อริญชย์



ปล.บทกลอนไม่มีสาระอะไร นอกจากมะขามยักษ์ฝักใหญ่ 5 5 5 5  (เมื่อวาน 21 เป็นยังไงกันบ้างน้อ)




พลโทรวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ เป็นผู้เพาะได้จากมะขามกระดาน โดยแกะเอาเมล็ดมาเพาะใส่ถุงไว้และแจกคนอื่น ๆ บ้าง ชักชวนให้เอาไปปลูกไว้ สำหรับของท่านพลโทรวมศักดิ์มีอยู่ 6 ต้น ต้นที่ออกฝักดกที่สุดและใหญ่ที่สุดวัดเฉลี่ยแล้วมีขนาดโตกว่าต้นแม่ที่เอาเมล็ดมาปลูกเสียอีก หลังจากนั้นท่านได้เพาะกล้าแจกหน่วยราชการต่าง ๆ เป็นที่น่าเสียดายที่ส่วนมากไม่สนใจปลูกกัน ครูนิเวชก็ได้รับแจกผ่านมาเป็นลำดับที่ 4 ซึ่งก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นมะขามยักษ์ พอปลูกได้ 3 ปี มะขามออกฝักมาทั้งหมด 11 ฝัก มีขนาดใหญ่โตมาก ครั้งแรกที่พบนั้น ฝักมีขนาดยาว 33 ซม. กว้าง 5 ซม. ขนาดฝักที่เคยวัดได้ใหญ่ที่สุด มีความยาว 47 ซม. น้ำหนัก 4 ฝัก/กก. จึงทดลองส่งเข้าประกวด ปรากฏว่าได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดผลไม้ยักษ์ในงานวันเกษตรแห่งชาติปี 2538

          ทางคณะวิจัยพืชสวนจังหวัดศรีสะเกษได้นำไปเปรียบเทียบกับงานที่ทำวิจัยไว้ ผลปรากฏว่า “ มะขามยักษ์ของครูนิเวชนี้ เป็นมะขามยักษ์ฝักใหญ่ที่ให้เนื้อมากและมีความเปรี้ยวดี เหมาะที่จะนำไปทำเป็นผลไม้แปรรูป ” มะขามเปรี้ยวยักษ์ ปลูกง่าย ตายยาก อายุยืนเป็นร้อยปี ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจได้ดีมาก เมื่อเปรียบเทียบกับพืชตัวอื่น ๆ โรคและแมลงรบกวนน้อย ปัจจุบันโรงงานผลิตน้ำพริกเผา ซึ่งต้องใช้มะขามเปรี้ยวเป็นวัตถุดิบ ต้องไปซื้อจากพม่า ลาว เขมร เพราะมะขามเปรี้ยวในประเทศไทยเราไม่พอ โรงงานใหญ่ ๆ ต้องใช้มะขามเปรี้ยวเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตน้ำพริกเผาปีหนึ่งหลายร้อยตัน มะขามเปรี้ยวเป็นพืชที่หลายคนมองข้ามความสำคัญ ตอนฝักดิบนำมาแช่อิ่มขายได้ราคาดี เคยมีคนทดลองทำแช่อิ่มแล้วส่งขายประเทศญี่ปุ่นคิดเป็นเงินไทยกิโลกรัมละสองพันกว่าบาท (ทดลองตลาด) แต่น่าเสียดายเพราะสินค้ามีจำนวนไม่พอ อนาคตถึงแม้จะช่วยกันปลูกมากๆ ก็ยังไม่น่าเป็นห่วงเรื่องตลาดเพราะแปรรูปได้มากมายหลายชนิด และทางตะวันออกกลางก็ต้องการมะขามเปียกจากไทยมาก พลโทรวมศักดิ์ เคยพูดกับเกษตรกรว่า “ ทำไมเราไม่ปลูกมะขามเปรี้ยวไปแลกกับน้ำมันของทางตะวันออกกลางบ้าง ” คำพูดนี้น่าคิดนะครับ !


http://www.kanchanaburi.com/makam.htm






ที่ชลบุรี (หนัก 5 กิโล)

ตะลึง!! พบมะขามยักษ์หนัก 5 กิโลกรัม ที่สัตหีบ
   


ดาราหนังแสดงเรื่อง "ทอง 5" ค่าย ฉลอง ภักดีวิจิตร เก็บฝักมะขามยักษ์ไม่รู้ที่มาที่ไป เนื้อแน่น น้ำหนักมาก ผ่าชิมรสจืด กลิ่นรสเหมือนมะขามแต่จืด ตามพบต้นตอ อดีตจ่าทหารเรือรุ่นปู่นำมาปลูกไว้ในบ้าน มีฝักทั้งปี ขนานนามมะขามยักษ์ ยังไม่ปรากฏว่าพบที่ไหนในประเทศไทย

(1ก.ค.) นายสุขกิจ ถาวรตระการ อายุ 54 ปี ดาราค่ายดังแสดงหนังเรื่องทอง 5 ได้นำผลไม้รูปลักษณ์คล้ายฝักมะขามของไทยมาให้ผู้สื่อข่าว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตรวจสอบว่า เป็นมะขามพันธุ์อะไรกันแน่ เนื่องจากฝักมะขามดังกล่าวได้มีคนเอามาโชว์ในงานเลี้ยงสังสรรค์อาสาสมัครตำบลพลูตาหลวง จำนวน 1 ฝัก และนำไปถวายให้กับ พระปลัดธีรศักดิ์ จันทวังโส เจ้าอาวาสวัดป่ายุบ อีก 1 ฝัก โดยไม่มีใครทราบที่มาที่ไปว่าเป็นของใคร รู้แต่เพียงว่าเป็นมะขามยักษ์ที่ไม่เคยพบเห็นในประเทศไทยมาก่อน   

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รุดไปสอบถาม พระปลัดธีรศักดิ์ จนทราบว่าได้มีคนเก็บฝักมะขามยักษ์มาจากบ้านตระกูลเก่าแก่พื้นที่สัตหีบ ในซอยวิคเอนด์ แล้วนำมาถวายไว้ให้หลายวันแล้วแต่ไม่ยอมเน่า มีน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัมต่อ 1 ฝัก ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปติดตามหาบ้านหลังดังกล่าวจนพบว่าภายในขอบรั้วของบังกะโลวิคเอนด์ เลขที่ 104 หมู่ 7 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีต้นไม้ไม่ทราบชนิดปลูกคู่อยู่กับต้นมะขามพันธุ์ไทยขนาดใหญ่ บนต้นมีลูกขนาดใหญ่ห้อยระย้า โคนต้นมีฝักตกอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นฝักชนิดเดียวกับที่ ดาราหนังได้นำมาให้ดู   

นายกิจชัย อุดมดี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่  7 ต.สัตหีบ บุตรชายของ จ่าโท ชุน นางประจบ อุดมดี เปิดเผยว่า พ่อเป็นจ่าทหารเรือรุ่นเก่าชอบออกล่าสัตว์ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว เปิดเผยว่า ต้นมะขามยักษ์ พ่อเป็นคนนำมาปลูกไว้ในที่ดินคู่กับต้นมะขามพันธุ์ไทยเพื่อให้มีการเปรียบเทียบฝักกัน ได้ประมาณ 30 กว่าปีแล้ว ออกฝักเมื่อตอนปลูกได้ประมาณ 10 ปี และออกฝักตลอดทั้งปี ซึ่งไม่มีใครทราบว่าพ่อนำพันธุ์มาจากที่ใด เคยเห็นในหนังสารคดี ซิงเกอร์เวิล์ล ช้างชอบกินฝักชนิดนี้ ส่วนดอกเป็นช่อปลายกิ่งคล้ายดอกกล้วยไม้ลิงชอบกิน แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่   

นายกิจชัย กล่าวต่อว่า  ต้นไม้ต้นนี้มักจะไม่มีใครได้เห็นเพราะพ่อนำมาปลูกไว้ในรั้วที่ดิน นอกคนที่เข้ามาเช่าห้องพักเท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนนอกพื้นที่ ส่วนคนในพื้นที่สัตหีบไม่มีใครเคยเห็นต้น เห็นแต่เพียงฝักที่หล่นแล้วมีคนเก็บไปดู และเป็นของแปลกนำฝากเพื่อน ตั้งชื่อกันเองเรียกว่ามะขามยักษ์เรื่อยมาเพราะเนื้อมีรสจืด กลิ่นเหมือนมะขาม ฝักก็เหมือน ผิวเปลือกก็เหมือน และเนื้อยังมีเส้นเหมือนอีกด้วย

-`๏'- มิสเกรนเจอร์ -`๏'-