เอาขนฉันไปสิ(นิทาน)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
27 เมษายน 2024, 10:33:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เอาขนฉันไปสิ(นิทาน)  (อ่าน 2996 ครั้ง)
บัณฑิตเมืองสิงห์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 378
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 608



« เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2011, 09:27:PM »

เอาขนฉันไปสิ

กาลครั้งหนึ่ง...นิทานเคยขานกล่าว
เป็นเรื่องราวคราวนกวิหคใหญ่
กับเจ้านกตัวน้อยคิดด้อยไป
อิจฉาร้อนฟอนไฟในอุรา

นกตัวเล็กตัวหนึ่งตะบึงว่อน
ในไพรสัณฑ์เร่ร่อนค่อนภูผา
ยิ้มกระหยิ่มอิ่มเอมเปรมปรีดา
ครั้นมองขึ้นบนนภาชะล่าใจ

เห็นอินทรีร่างยักษ์บินหักโหม
โรยชโลมเวหาท้องฟ้าใส
จึงผกผินหวังผลตนพิไล
บินขึ้นไปในหาวพราวอัมพร

ปะทะลมซมซานแหลกลานจิต
ร่างน้อยนิดหล่นมาอุทาหรณ์
ตัวเล็กไปไม่คนึงพึงสังวร
ก็ต้องจรจากลงกลางพงไพร

มีนายพรานเดินมาหวังล่าสัตว์
ผู้เจนจัดพบนก ตกไถล
นกจึงถามนายพรานท่านช้าไย?
โน่นเห็นไหมอินทรีลองฝีมือ

"อยากลองแน่" นายพรานขานชัดแจ้ง
จึงแถลงแจงเหตุเทวศถือ
ขาดขนนกเพียงนึกจะฝึกปรือ
จะยิงไกลได้หรือฝีมือคน

โอ้ท่านนายพรานดูผู้ประเสริฐ
เอาขนฉันไปเถิดจะเกิดผล
เอาไปติดชิดปลายท้ายศรตน
อย่าทุพพลท้อแท้แพ้ใจตัว

"วิเศษมาก" เจ้านกวิหคน้อย
ข้าฯ จะสอยอินทรีปักที่หัว
ว่าแล้วพรานมิเกรงบรรเลงรัว
ฟ้ามืดมัวหม่นหมองมิตรองเลย

ยังกระหยิ่มยิ้มย่องว่าต้องโทษ
เจ้านกโจทก์ไม่คิดชีวิตเผย
ขนของมันปลิวผสมลมรำเพย
แล่นล่องเสยสู่ฟ้านภาลัย

ครั้นแล้วมันคิดบินชีวินหนี
จะจรลีอย่าคิดจิตสงสัย
ขนที่หายเพียงพร่ำคร่ำอาลัย
เหตุปัจจัยอิจฉาคร่าตัวเอง

จิตสับสนขนหายจะกรายย่าง
ถูกพรานฆ่าเพียงร่างร้างโหลงเหลง
หัวขาดห้อยย่อยยับดับโตงเตง
ถูกข่มเหงล้มตายมลายมาน

อันอีสปเรื่องนี้มีข้อคิด
ใครมีจิตชั่วช้าคิดฆ่าผลาญ
ทำร้ายคนอื่นหนามาละลาน
จงประมาณจะตกแก่ตนเอง


อ่านแล้วชอบครับ เลยนำมาแต่งเป็นกลอน
ที่มา : http://board.postjung.com/532052.html



บัณฑิตเมืองสิงห์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

Am arts

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s