Re: กลอนเขา เอามาเล่าใหม่
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
30 เมษายน 2024, 02:39:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนเขา เอามาเล่าใหม่  (อ่าน 43504 ครั้ง)
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 685


เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย


« เมื่อ: 04 มกราคม 2011, 02:32:PM »

นิราศเดือน

เดือนสาม


   ภาพนิราศเดือนที่หลังปกฉบับนี้"เหม  เวชกร" เขียนตามเค้ากลอนที่ว่า "พี่นั่งชมจันทร์เพ็งเปล่งโพยม
ดูแวววาวเวหาล้วนดาเรศ  เหมือนดวงเนตรนุชนางสำอางโฉม"  เมื่อนายมีแต่งนิราศเดือนนี้  เข้าใจว่ายัง
บวชอยู่  แต่จะเขียนรูปนายมีเป็นพระนั่งมองดวงหน้าผู้หญิงลอยอยู่บนฟ้าก็ดูไม่เข้าที  การที่คนหนุ่มๆนั่งดู
เดือนดูดาวแล้วเห็นเป็นภาพนางที่รักลอยอยู่นั้น เขาว่าเป็นได้ ถ้าใครไม่เชื่อ ก็แปลว่า คนนั้นยังไม่มีความ
รักอย่างแรงกล้า
   ในเดือนสามนี้มีพิธีที่สำคัญคือ  มาฆบูชาเป็นทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฏร์  แต่นายมีไม่ได้กล่าวถึง เอาแต่
คร่ำครวญเรื่องผู้หญิง  ถ้าบวชอยู่จริง  ก็คงใกล้จะสึกเต็มที


ถึงเดือนสามความโศกไม่เสื่อมสูญ      จันทร์จำรูญแสงงามยามปฐม
ดารารายพรายพร่างน้ำค้างพรม          พี่นั่งชมจันทร์เพ็งเปล่งโพยม
ดูแวววาวเวหาล้วนดาเรศ                  เหมือนดวงเนตรนุชนางสำอางโฉม
ดูกะพริบลิบแดงดังแสงโคม               ลอยพโยมล้อมจันทร์พรรณราย
พี่นั่งชมตรมตรึกดึกสงัด                     น้ำค้างหยัดเยือกเย็นกระเซ็นสาย
บุปผาเผยกลีบก้านบานกระจาย          ต้องพระพายหอมกระถินดังกลิ่นนาง
พี่เคลิ้มคลั่งนั่งอยู่ดูมะลิ                     ลืมสติหลงพลอดกอดกระถาง
ฟังเป็นเสียงสายสมรวอนให้วาง          จึงปลอบนางทางว่าอย่าอาลัย
พี่นั่งคอยนอนคอยน้อยไปหรือ            ขอถูกมือยอดรักอย่าผลักไส
พอรู้สึกนึกเขินเดินออกไป                 ถ้าแม้นใครเห็นฉันแล้วขันจริง
ราวกับถูกยาแฝดสักแปดโถ                จนซูบโซเสียศรีดังผีสิง
พระอภัยหลงรูปวาดหวาดประวิง         เรากลับยิ่งกว่าพระอภัยไป
ถ้ามิได้นวลหงฉันคงม้วย                   ใครจะช่วยดับเข็นเห็นไม่ไหว
หรือจะเหมือนมดแดงน่าแคลงใจ         ให้สงสัยวิญญาเป็นอาจิณ
ดูตำราว่าพฤหัสเป็นปัตนิ                   ตามลัทธิว่าคู่อยู่ทักษิณ
ช่างพูดจาตาดำดังน้ำนิล                   ก็สมสิ้นเหมือนตำราสารพัน
เออก็ขัดด้วยกระไรไฉนหนอ               แต่รีรอรักนุชสุดกระสัน
เห็นที่อื่นดื่นดาษไม่ขาดวัน                จะรักกันก็ประเดี๋ยวเมื่อเกี้ยวพาล
เหมือนแสบท้องต้องขืนกลืนข้าวตาก   ระคายปากไม่ละมุนเหมือนวุ้นหวาน
เหมือนอดข้าวกินมันยามกันดาร          กว่าจะพานพบของที่ต้องใจ
กระแจะจันทร์คันธาบุปผาสด              ไม่เหมือนรสมิ่งมิตรพิสมัย
ประเวณีมีจบภพไตร                          ไม่ว่าใครทุกตัวทั่วโลกา


ตำรา  ณ เมืองใต้     เขียน
เหม   เวชกร            ภาพ
จากนิตสารปี2507

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, yaguza

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มกราคม 2011, 04:24:AM โดย ฉันเอง » บันทึกการเข้า

ขอแต่งโลกสวย  ด้วยคำกลอน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s