Re: กลอนเขา เอามาเล่าใหม่
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
30 เมษายน 2024, 04:26:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนเขา เอามาเล่าใหม่  (อ่าน 43511 ครั้ง)
ฉันเอง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 182
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 685


เป็นตัวเองดีกว่า..วุ้ย


« เมื่อ: 03 มกราคม 2011, 02:47:PM »

แหล่เทศน์และแหล่เครื่องเล่น

    สมัยก่อน  เมื่อหนังสือพิมพ์ยังไม่แพร่หลาย  วิทยุยังไม่มี  ยังร้องแต่เพลงไทย  แหล่เทศน์มีคนนิยมกันมาก
คู่ๆกับลำตัดก็ว่าได้  แหล่เทศน์มักจะมีเวลาเทศน์มหาชาติ  แต่อาจจะว่ากันเฉยๆเวลามีการทำบุญที่วัดก็ได้
ผู้ว่าจะเป็นคฤหัสถ์ก็ได้  พระภิกษุก็ได้  แหล่เทศน์บางทีก็เป็นเรื่องประกอบข่าวไปเลย เช่น แหล่เรือพระร่วง
(รูปจะสรรกลั่นเนื้อความ ถึงเรือสยามที่เข้ามาใหม่ เป็นเรือรบที่ออกเรี่ยไร กับชนหญิงชายข้าราชการ......)
แหล่ย่ามแดง (เรื่องผู้ร้ายฆ่าคนสะพายย่ามแดง  เที่ยวลอบฆ่าผู้หญิง...)  แหล่บ้านพานถม  (เรื่องไฟไหม้-
บ้านหลวงโภคา บ้านพานถม..) เหล่านี้  พวกนักแหล่แต่งขึ้นทันเหตุการณ์  มีคนชอบฟัง  ถึงกับพิมพ์เป็นเล่ม
เพื่อให้พวกนักเทศน์เอาไปว่าแหล่กัน
    ส่วนแหล่เครื่องเล่นนั้น  ไม่ใช่เรื่องเหตุการณ์  แต่เป็นการแกะบายศรี เป็นแหล่ที่นิยมเทศน์ประกอบในกัฌฑ์
มหาราช  เช่นแหล่บายศรีแก้วบายศรีทอง  แหล่บายศรีหิมพานต์  แหล่บายศรีเจ็ดชั้น  ผู้แต่งเป็นกวีฝีปากสูง
สำนวนจึงเรียบร้อยไพเราะกว่า  ที่พวกราษฎรสามัญแต่ง
    แหล่นี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเทศน์ มหาเวสสันดรชาดก จึงขอยกมาให้ท่านเห็นเป็นตัวอย่าง

สูงโดดทรงดี                   คีรีเขาเรียง
งอกกลมเงื้อมเกลี้ยง         แทรงเคียงแซงข้าง
เอิ้งเวิ้งอ้างว้าง                 กรวยทางโกรกธาร
โดดพุดุพล่าน                  ฟุ้งซ่านฝอยเซ็น
ดูเปี่ยมดังเป็น                  แลเห็นลายหิน
ดูทะโมนดำทมิฬ              เหมือนนิลม่วงแนม
เขียวกาบคาบแถม           ยอดแซมหลายสี
ข้างริมคีรี                        ดูทีดังทำ
วุ้งแถวเวิ้งถ้ำ                   แกะว้ำก้อนเวียน
สีทองแสงเทียน              แลเตียนเลี่ยนตา
โขดหินคูหา                   เงื้อมผางอกภู
สยามพุ่มสยุมภู               กระจัดฟูกระจายฟอง
สีเทียนแสงทอง              หินปล่องเห็นเปลว
ชันห้วยช่องเหว              หินเลวหินลาย
ม่วงแซมมึกสาย              ดูคล้ายดำคลับ
แกะสลอนก้อนสลับ         งอกทับเงื้อมธาร
ดูสะอาดดาษสะอ้าน        แลตระหง่านลอยตระง้ำ
มีแท่นแม้นทำ                 แลขำลายเขียน
เขาวงโคกเวียน              ดูเลี่ยนดังลาน
หลืบถ้ำลำธาร                ริมชานร่มชัด
บุษบงใบสะบัด               บ้างกลัดบานกลีบ
ภุมรินผินรีบ                   แทรกกลีบไซ้กลาง
ผักแขงแฝงข้าง             ใบล่างบัวหลวง
กลีบโรยกลับล่วง           ลอยช่วงหลังชล
ปลาว่ายปลายวน           พุ่งด้นพ้นดิน 
หางกิ่วหากิน                  กัดหินกะโห้     
ช่อนดุกชะโด                 เทโพเทพา
ปลาสร้อยปลอมซ่า         เค้าบ้าคางเบือน
ตะเพียรตอดเพื่อน          ว่ายเชือนวิ่งโชน
ไอ้ด้องออกโดน             เผ่นโจนโผนจร
หมู่สลิดมาสลอน           เนื้ออ่อนนวลอ่อง
ปลอมแถวปลาทอง        ลอยท่องลำธาร

เปลื้อง    ณ นคร    เขียน
จากนิตสารปี 2506




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มกราคม 2011, 05:06:AM โดย ฉันเอง » บันทึกการเข้า

ขอแต่งโลกสวย  ด้วยคำกลอน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s