Re: กลอนกลบทยัติภังค์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
27 เมษายน 2024, 09:56:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนกลบทยัติภังค์  (อ่าน 10486 ครั้ง)
บอม ซอง ดุ๊ก
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 457
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 589


เสกสรรกลั่นอักษร พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์


« เมื่อ: 28 ธันวาคม 2010, 05:17:PM »




ร่วมด้วยช่วยกัน

กลบท ยัติภังค์

                                   ฟังดูดู รู้เหตุ สังเกตสัง

สังขารา ราคะ ให้มาวัง          วังเวงนั่ง นั่งเหงา สุดเศร้ากัน

กันดารดอน ดอนแล้ง ดินแห้งเหือด   เหือดแห้งเดือด เดือดจิต มาคิดสรร
สรรหาน้ำ น้ำฝน หาจนวัน               วันทาฝัน ฝันว่า พนาไพร

ไพรสณฑ์เฉา เฉาใบ พาใจรัน          รันทดขวัญ ขวัญหาย สลายไหว
ไหวหวั่นจิต จิตพา ระอาภัย              ภัยพิษไหน ไหนเปรียบ มาเทียบกัน

กันภัยแล้ง แล้งสุด มนุสสา              สาครา ราโค โอ้ร้อนขวัญ
ขวัญจิตคิด คิดไป ใจร้อนกัน            กันทั่วหวั่น หวั่นจน ขาดฝนเท

เทพารักษ์ รักษา เมตตาเผ่า             เผ่าพันธุ์เจ้า เจ้าป่า พนาเส
เสวนา นาพันธุ์ สวรรค์เท                 เทวาเท เทฝน ลงบนนา

นานาพันธุ์ พันสรวล สุขถ้วนน้ำ         น้ำฝนตาม ตามเขา ลำเนาหนา
หนาหนูหนู ดูน้ำ ตกตามนา              นาคินทร์ร่า ร่าเริง เถลิงไกร

ไกรลาสเย็น เย็นน้ำ ตามลำเขา         เขาว่าเรา เราสุข หมดทุกข์ใส
ไสยาสน์นอน นอนหลับ ประดับไพร   ไพรสัณฑ์ใส ใสสด ลงจดกิน

กินนรโหย โหยหวน คร่ำครวญหวั่น    หวั่นไหวสั่น สั่นหนาว เพราะเจ้าสินธุ์
สินธุ์ไหลซ่า ซ่าเลี้ยว คดเคี้ยวพิน      พินทุสิ้น สิ้นหยด เพราะหมดกัน

กันดารแล้ง แล้งทั่ว ทุกหัวแห่ง          แห่งหนแจ้ง แจ้งร้อน จึงนอนฝัน
ฝันผิดผิด จิตลอย มาคอยวัน           วันคืนสัน สันเศร้า ให้ร้าวฤๅ

ฤๅทัยทุกข์ ทุกข์หนัก จักจดจำ จำใจช้ำ ช้ำชอก สุดบอกหรือ
หรือว่าใคร ใครทำ ให้ล่ำลือ             ลือเลื่องถือ ถือเล่ห์ เจรจา

จารกรรม กรรมชั่ว น่ากลัวจักร          จักรหมุนหัก หักเห สิเน่หา
หายนะ นะคน ให้จนพา                   พาราว้า ว้าวุ่น ครุ่นคะนึง

คะนึงคิด คิดจน รำพนผัน                ผันแปรกัน กันทั่ว มืดมัวถึง
ถึงจะห้าม ห้ามใคร ใจรำพึง             พึงคิดถึง ถึงหลัง มานั่งซึม

ซึมเศร้าโศก โศกจิต นั่งคิดสะ          สลดละ ละเลย นั่งเฉยขรึม
ขรึมเคร่งเครียด เครียดจน มาบ่นพึม   พึมพำอึ้ม อึ้มอั้ม มารำพัน

พันผูกป่า ป่าผูก ทุกยุครุ่ง                รุ่งโรจน์สูง สูงยูง เป็นฝูงขวัญ
ขวัญใจสัตว์ นานา สารพัน               พันเหมือนสรรค์ สรรค์ชอบ ระบอบธรรม

ธรรมชาติ ชาติงาม ไปตามส่วน        ส่วนถูกถ้วน ถ้วนงาม ไปตามสัม
สัมมาชีพ ชีพดี ชี้ชักคำ                   คำคมขำ ขำจัง มาฝังใจ

ใจสงบ จบจบ สงบจิต                    จิตไม่คิด คิดฟุ้ง ให้ยุ่งไหน
ไหนจะเรื่อง เรื่องราว ไม่เข้าใจ         ใจใสใส ไขขาน นิพพานเอย.


                                                           ...หยาดกวี...

                                                        ๕ ตุลาคม ๒๕๕๑

*******************************

มองเห็นน้ำ น้ำที่ เป็นสีน้ำ-
เงินเข้มลำ ลำจะ กะพลันโผน-
เผ่นลงหวัง หวังแช่ใ ห้ชื่นโชน-
โชกฉ่ำโหน โหนเกาะ ก้อนหินมี-

ยื่นมา พอพอให้ไม่ ต้องจ่ม-
จมไปขม ขมกลืน กินน้ำสี-
เขียวเข้าท้อง ท้องน่า กลัวว่าชี-
วิตเรานี้ นี้ต้อง ลับดับไป

จากท่าน สุกรวดี

*******************************

ขอบคุณที่มา:http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/10/05/entry-1


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

[Love], อริญชย์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสกสรรกลั่นอักษร....พลิ้วโอนอ่อนตามอารมณ์

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s