“ธรณีนี่นี้....................เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์.........หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร..........เราชอบ เราบ่ ผิดท่านมล้าง..........ดาบนี้คืนสนอง” (ศรีปราชญ์) “เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า………ดาดาว จรูญจรัสรัศมีพราว…….…..พร่างพร้อย ยามดึกนึกหนาวหนาว….…เขนยแนบ แอบเอย เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อย…..…….เยือกฟ้าพาหนาว“ [นิราศสุพรรณ” : สุนทรภู่ ] ครืนครืนใช่ฟ้าร้อง……...เรียมครวญ หึ่งหึ่งใช่ลมหวน………….พี่ไห้ ฝนตกใช่ฝนนวล………….พี่ทอด ใจนา ร้อนใช่ร้อนไฟไหม้……….พี่ร้อนกลกาม” [ พระยาแสนหลวง เจ้าเมืองเชียงใหม่ ] “ก้านบัวบอกลึกตื้น..........ชลธาร มารยาทส่อสันดาน..........ชาติเชื้อ โฉดฉลาดเพราะคำขาน.....ควรทราบ หย่อมญ่าเหี่ยวแห้งเรื้อ.......บอกร้ายแสลงดิน” [โคลงโลกนิติ] “กูชายชาญชาติเชื้อ...…..ชาตรี กูเกิดมาก็ที.................หนึ่งเฮ้ย กูคาดก่อนสิ้นชี-............วาอาตม์ กูจักไว้ลายเว้ย..............โลกให้แลเห็น” [ป๋วย อึ้งภากร] คืนวันนับเคลื่อนคล้อย......นานปี มิอาจแม้นาที...........…...กลับย้อน สูงต่ำสุขทุกข์ดี-........….…เลวผ่าน เพียงหนึ่งทรวงสะท้อน.......เก็บไว้ในคะนึง [Soul Searcher] ผินคลื่นซัดสาดย้อน……...ครืนโครม กลืนกลบทุกสิ่งโหม……….หักล้าง มลายสุขทุกข์โทม-………..นัสทั่ว ดำดิ่งมิดมืดม้าง…………...สู่ห้วงลำสินธ์ุ ยินคำรักเปลี่ยนเว้า-……...วอนไว เผยผ่านเพี้ยงหัวใจ….…….เหว่ว้า จริงเท็จอยากรู้ใคร….….…วานบอก ว่ารักกันจวบฟ้า……….…..ดับสิ้นดินสลาย ความตายมิอาจรั้ง………..รอกาล เกลียวคลื่นโถมสุดทาน……เหนื่อยร้อง ยังเวียนวัฏสังสาร…………..หาหน่าย แหนงเฮย หวนผูกใจเกี่ยวคล้อง………โศกเศร้า-หรรษา [Soul Searcher] …เอาตัวอย่างโคลงที่ ลุงชอบ และที่มีแต่งเองบ้าง มาวางให้อ่านเล่นละกันครับ การแต่งโคลงยากกว่าแต่งกลอน นอกจากต้องให้ถูกฉันทลักษณ์ แล้วสำคัญคือต้องสื่อความหมายตรงตามที่ อยากจะสื่อ ในความเห็นของลุงการเขียนโคลง ต้องพิถีพิถันในการเฟ้นคำที่ไม่เยิ่นเย้อ และได้ความหมายตรงใจ ตอนหัดเขียนแรกๆ มันจะใช้แต่ คำเดิมๆ โดยเฉพาะคำเอกโท เพราะคลังคำมีน้อย ดังนั้นเวลาอ่านเจอคำเอกโทที่ไหน ดูเข้าท่า ก็จะจดจำไว้ เอามาใช้เวลาเขียนโคลง บางทีก็แค่คำพื้นๆ แต่เราอ่านผ่านเลยไป แต่ถ้าเราเฝ้าสังเกต ก็จะเริ่มเก็บฐานข้อมูล ของเราเอาไว้ใช้ อีกอย่างที่ใช้ประจำคือ เวลาเขียนแล้วอ่านทวน ให้อ่านออกเสียง แล้วจับจังหวะ บางทีเรายังหาคำไม่ได้ แต่จังหวะมันลง ว่าอยากได้เสียงประมาณนี้ ก็ใช้วิธีเปิดพจนานุกรมเอา มีคำเสียง แบบนี้ไหม บางทีก็เจอ บางทีเปิดไปเปิดมา เจอคำที่เข้าท่ากว่า ก็เอามาใช้ อีกอย่างคำลงท้ายโคลงถ้าจบด้วยเสียง จัตวา บางครั้งจะฟังดูดีกว่าเสียงสามัญ และการใช้สัมผัสอักษรเป็นเสน่ห์ ของการเขียนโคลงมากกว่าสัมผัสสระ แต่หลักๆคืออ่านเจอโคลงไหนที่ชอบ ก็ลองวิเคราะห์ดูว่า ทำไมโคลงนี้ถึง ไพเราะกว่าโคลงอื่น ที่พบคือ น้องจากเสียงสูงต่ำที่ลงตัวแล้ว คือความหมายของคำที่ใช้ อ่านแล้วมันจะต้องโดนใจ… …ก็จะประมาณนี้ครับ… …อยากปล้นความรู้….ปล้นเลยครับ เพราะลุงก็ปล้นเขามา อีกทอดเหมือนกัน…แหะๆ ![]() โซ…เซอะเซอ 22 ธันวาคม 2568 |
| ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
|
23 ธันวาคม 2025, 02:12:AM
|
|||
|
|||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: …มืด-สว่าง… (อ่าน 9877 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email:






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า