จอมราชัน ฟังความ พานอึดอัด
เอ่ยดำรัส ตรัสแจง แถลงไข
บอกทดสอบ ครอบครบ หมดนางใน
แต่ไฉน ไร้ทายาท ยากกล่าวคำ
เหล่าทวยราษฎร์ ทราบคำ ดังดำรัส
ให้ข้องขัด หนักจินต์ สิ้นความหวัง
ยากจักเชื่อ หน่อเนื้อ เชื้อเทวัญ
จะมาสั้น สะบั้นไป กระไรฤา
จึงระดม พลคิด ดำริเหตุ
แห่งอาเพศ ธเรศมี ที่ใดหรือ
จึงไร้ซึ่ง หนึ่งนาง กระนั้นฤา
สืบวงศ์ชื่อ เลื่องลือ ระบือไกล
หลังปรึกษา หาความ พานสรุป
เหล่านงนุช ยุพาน นางทั้งหลาย
ล้วนทุศีล สิ้นถ้วน มวลนางใน
ถึงจึงไร้ สามารถ ยากตั้งครรภ์
เนื่องทายาท มากบุญ สกุลรุนชาติ
จุติจาก ฟากฟ้า เทวาสวรรค์
ห่อนฝังจิต ติดแนบ แทรกในครรภ์
หญิงไม่มั่น คงธรรม ยากนำพา
จึงน้อมทูล ภูบาล หนทางใหม่
หากไท้ใคร่ สมมาด ปรารถนา
ได้ทายาท สืบพงศ์ วงศ์ราชา
โปรดบัญชา พระชายา สีลวดี
ด้วยโฉมฉิน ศีลลออ บริสุทธิ์
งามประดุจ อินทุเพ็ญ เปล่งราศี
เกินหญิงใด ในหล้า บรรดามี
เป็นแม่ศรี มิ่งแดน แคว้นพวกเรา
หากองค์อร ยอมทำ ต้องสำเร็จ
ได้แก้วเพชร เม็ดงาม อร่ามเสลา
สืบครองราชบัลลังก์ มัลละเรา
ขอผ่านเผ้า เจ้ามหิ ตริตรองดู
เมื่อนั้น…โอกกากราช ฟังคำ พลันอึดอัด
ผินหน้าผละ เมินไป ใจอดสู
ให้ลำบาก ยากบอก ยอดพธู
มิ่งเมียชู้ คู่ขวัญ ทำอย่างไร
แต่เพื่อชาติ ประชา ได้ผาสุก
แม้ต้องทุกข์ ระกำ จำยิ้มใส่
หวังทวยราษฎร์ สมคาดหวัง ดั่งตั้งใจ
ถึงอกตรม ขมใน หมองไหม้ทน
จึงบัญชา เสนา มหาอำมาตย์
ติดประกาศ แยกแพร่ง ทุกแห่งหน
ศาลากลาง ร้านค้า แน่นหนาคน
ตรอกถนนรนแคม แจ้งทั่วกัน
นับเวลา เจ็ดวัน จากวันนี้
พระเทวี สีลวดี นารีขวัญ
จะออกเวียง เสี่ยงทาย ชายฉกรรจ์
เพื่อฝากฝัง สัมพันธ์ชู้ คู่ฤทัย
เลือกชายชาติ อาชาไนย ให้ทายาท
สืบต่อราชย์ ชาติพงศ์ วงศ์ฤาสาย
ให้ยืนยง คงอยู่ คู่ไผท
เป็นหน่อเนื้อ เชื้อไข ไชยราชา
ชายใดใคร่ ได้ครอง อรนุช
ผู้งามผุด ผ่องพักตร์ ยากจักหา
หญิงใดเปรียบ เทียบทัน กัลยา
ให้จงมา รอลาน ทวารวัง
สิ้นประกาศ ราชโองการ ภูบาลแจ้ง
ทุกแยกแพร่ง แหล่งชน คนมากฝัน
ทั้งหนุ่มอ่อน ค่อนเฒ่า เฝ้าโจษจัน
ต่างมุ่งหวัง กัญญา ต้องตาตน
จึงเมื่อถึง ซึ่งกาล ตามกำหนด
เหล่ามานพ หมดแดน หนาแน่นถนน
ยืนยัดเยียด เบียดออ รออนงค์
จากทุกหน ทุกแห่ง แย่งกันมา
ณ เวลา เดียวกัน เบื้องชั้นหาว
องค์จอมเจ้า ท้าวสุรินทร์ ตาวติงสา
อยู่อยู่เกิด ร้อนใจ ให้สงกา
จึงเพ่งหา ที่มา ปัญหาใด
ฉับพลันทราบ พิลาสถี ผู้มีศักดิ์
นารีรัตน์ จักรี ศรีสมัย
สีลวดี ยอมพลีตน เพื่อทรงชัย
จักเลือกชู้ คู่ใจ ให้บุตรา
เพื่อสืบราชบัลลังก์ จำสละ
ศีลปฏิบัติ ตัดใจ ไม่รักษา
หวังราษฎร์ไท้ ได้ดัง จินตนา
แม้อุรา ตรอมตรม ทนจาบัลย์
มเหสักขเทวัญ ครั้นทราบเหตุ
ให้นึกเวทนา พาหุนหัน
นั่งไม่ติด คิดการ ช่วยนางพลัน
ให้สมหวัง ดังใจ ไม่ทุกข์ตรม
จึงตริตรอง มองหา เทวาแถน
ในเมืองแมน แดนสรวง ล่วงเวหน
ผู้ใดควร นวลนาง อร่ามองค์
เป็นทายาท ชาติพงศ์ วงศ์ไพบูลย์
บัดนั้น วัชเรนทร์ เห็นนิมิต
ภาพอดิเทพครรไล ไปเบื้องสูง
ทิ้งดาวดึงส์ ขึ้นฟ้า ตุสิตาภูมิ
เนื่องบุญหนุน ผดุงส่ง องค์เทวา
ท้าวสุเรนทร์ เกรงไม่ทัน พลันเร่งรุด
พร้อมเทพบุตร ผุดผ่อง คล่องแกล้วกล้า
ยังสำนัก โพธิสัตว์ เลื่องศักดา
เพื่อสกัด ดักหน้า อมราไคล
ถึงวิมาน มัฆวาน พานรวบรัด
ไม่เอ่ยทัก เกริ่นนำ กันสงสัย
สั่งอมร พร้อมจรัล ยังกรุงไกร
จุติฟ้า ลาไป ในภูวดล
ณ แว่นแคว้น แดนดิน ถิ่นมนุษย์
เกิดเป็นบุตร สุทธิกานต์ ตามประสงค์
โอกกากราช ราชา ผู้อ่าองค์
เทวีพ้น มลทิน ศีลสมบูรณ์
โพธิสัตว์ สดับคำ มิทันแย้ง
พันตาแจ้ง แถนสนิท ติดตามหนุน
ลงกำเนิด เกิดข้าง พุทธางกูร
คอยเกื้อหนุน จุนเจือ เมื่อจำเป็น
จบความมี วัชรี ก็ตีจาก
ทิ้งเวหาส จากลา หาไม่เห็น
สองเทวัญ ยังงันงง องค์วัชเรนทร์
มาหลีกเร้น เผ่นลับ คับข้องใจ
ฝ่ายองค์อินทร์ ทิ้งหาว ลงด้าวดิ่ง
ถึงแผ่นดิน ผินมา พาสงสัย
แปลงรูปลักษณ์ พักตร์เฒ่า เคราสั่นไกว
หัวเอียงส่าย กลายชรา พาพิกล
เดินยักแย่ ยักยัน มาวังไท้
หอบหายใจ ติดขัด อึดอัดสับสน
ถึงทวาร ลานวัง พลันก้มลง
โก่งก้นโค้ง ผายลมคั่ง ลั่นทั่วลาน
เหล่าบุรุษ กระจุกออ พอยินเสียง
ปู้ดป้าดเปรี้ยง เสียงท้องลั่น พลันแตกซ่าน
บ้างสำลัก กระอักไอ รากไหลยาน
บ้างถูกหาม ออกพ้น เป็นลมไป
หลากฉกรรจ์ หันมอง จ้องผู้เฒ่า
เย้ยหัวขาว คราวปู่ ดูไม่ไหว
อุตส่าห์ หอบสังขาร มาทำไม
เหตุไฉน ไม่อยู่เหย้า คอยเฝ้าเรือน
บ้างดรุณ หนุนตาม ประจานซ้ำ
พูดเหน็บหยัน ซ้ำมอง จ้องเชือดเฉือน
จวนกลายฟอน นอนไฟ ไยเลอะเลือน
แม้ย่างเยื้อง กระย่องกระแย่ง แรงไม่มี
เฒ่าจำแลง แสร้งโกรธ พิโรธขึง
หน้าบึ้งตึง ขมึงฟัง คำเสียดสี
พูดติดขัด ตะกุกตะกัก กลับทันที
เจ้า..พวก..นี้ นี่..ยังเยาว์ เขลา..เหลือ..ทน
ขิง..จะ.เด็ด เผ็ด..จริง เพราะ..ยิ่งแก่
หมอ.มือ..แน่...เพราะแก่.วัย ไม่..ฉงน
ไม้..จะ..แกร่ง แก่น..แก่…แน่แท้...ทน
ชาย..เหมาะ..สม หญิง.งาม..นับ..ตาม..วัย
เหล่าบุรุษ สุดกลั้น ขันทั่วหน้า
ฟังวาจา ชราอ้าง ช่างเหลวไหล
เปรียบเทียบเอา ข้างสี ดีกว่าใคร
ชายใดไม่ เหมาะเท่า ขรัวเจ้าเอง
| ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
|
05 ธันวาคม 2025, 02:27:PM
|
|||
|
|||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: กุสติณราช ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย (อ่าน 20048 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email:





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า