ตื่นตน.. ตื่นตาม..
อักษราคราพิศ.. ลิขิตผัน
บ้างจำนรรจ์เนืองนิตย์.. ลิขิตเผย
บ้างอาทรห่วงใย.. ไม่ละเลย
บ้างคุ้นเคยอาลัย.. ไม่ละเลือน
ร้อยคำคมคลอเคียง.. สำเนียงหมาย
สร้อยคมคายสุ้มเสียง.. สำเนียงเหมือน
พร้องไพเราะปริ่มเปี่ยม.. ยามเยี่ยมเยือน
เสนาะเรือนลออเอี่ยม.. ยามเยี่ยมยล
ประกายคำพร่างพราย.. เพชรสายฝัน
พรั่งพรูพลันโปรยปราย.. เพชรสายฝน
กรุ่นไอรักอวลละออง.. ดั่งต้องมนต์
ปลุกชีพชนม์สมสนอง.. ดั่งต้องมาน
พร้อมตื่นตนมิรู้สิ้น.. ถวิลหวาม
ได้ตื่นตามอาจิณ.. ถวิลหวาน
ประสบซึ้งคารม.. ชื่นชมปราณ
ทรวงสบซ่านอภิรมย์.. ชื่นชมปรีดิ์
ดั่งสายธารรินรด.. งามสดใส
สายธารใจผ่องพจน์.. งามสดศรี
ดั่งฟ้าโปรยมวลลดา.. พรมาลี
พรมดอกคลี่อวลผกา.. พรมาลัย ฯ
พี.พูนสุข
๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
เมื่อหม่นหมองมองไหน หมองไปหมด
เมื่อรันทดเอื้อนอ้า หมองปราศรัย
ให้อ้ำอึ้งไม่ถึง ซึ่งหลักชัย
รู้วิสัยไม่ถึง ซึ่งหลักชาญ
ด้วยรักกลอนผ่อนปรน ทนไขสือ
ใจบอกมืออย่าหล่น ทนไขขาน
รับมาลัยใส่มือ คือชื่นบาน
รับแก้วกานท์มาคล้อง คือช้องนาง
เนิน จำราย
เมื่อรันทดเอื้อนอ้า หมองปราศรัย
ให้อ้ำอึ้งไม่ถึง ซึ่งหลักชัย
รู้วิสัยไม่ถึง ซึ่งหลักชาญ
ด้วยรักกลอนผ่อนปรน ทนไขสือ
ใจบอกมืออย่าหล่น ทนไขขาน
รับมาลัยใส่มือ คือชื่นบาน
รับแก้วกานท์มาคล้อง คือช้องนาง
เนิน จำราย