
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://hilight.kapook.com/view/40162
กลิ่นกลอนสาบโคลน
เป็นนักกลอนรากหญ้าจากฟ้าทุ่ง
หมายผดุงถิ่นฐานแดนบ้านป่า
บ่มีเกียรตินักกวีให้ตีตรา
คงคุณค่าเพียงดินโคลนกลิ่นกลอน
อาบน้ำคลองประจำผิวคล้ำหม่น
ตากแดดฝนพึ่งพิงธารสิงขร
ขาดคำรุ้งละมุนรสสุนทร
ทุกอักษรวกเข้าลำเนาไพร
เขียนกลอนหวานกลับนึกถึงพฤกษา
แต่งปรัชญากระหวัดเรื่องสัตว์ใหญ่
มองโลกตื้นบางเบามิเข้าใคร
แง่คิดไหนใครเห็นประเด็นคำ
เพียงเขียนได้ ใช่เป็นดั่งเช่นเขา
สาบโคลนเคล้าแทรกซึมไม่ดื่มด่ำ
กลิ่นกลอนจึงโชยมาให้ระกำ
หวานเลิศล้ำชาตินี้ ไร้วี่แวว!ฯ
อริญชย์
๒๙/๑๐/๒๕๕๕






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า