
ขอบคุณภาพหนังสือจาก อินเตอร์เน็ต
คนจรเจ็บแผลหน่วงใครห่วงหา
ถามไถ่ถึงดวงดาวคืนหนาวเหน็บ
คนจรเจ็บแผลหน่วงใครห่วงหา
ปันความรักเศษเสี้ยวเพียงเยียวยา
เพื่อเติมไฟศรัทธาให้ร้อนแรง
ช่วยปลอบโยนดวงใจอันไหวหวาด
ขมขื่นขลาดลำเค็ญแอบเร้นแฝง
ความมืดดุจคมมีดคอยกรีดแทง
ท่ามยุคการเปลี่ยนแปลงระแวงกัน
ออกร่อนเร่แรมรอนนครร้าง
มืดทึบทางร้อยแยกช่างแปลกผัน
เหมือนธุลีแห่งดินถวิลจันทร์
เฝ้ากรองกลั่นทอถักสลักคำ
สักเพียงนิดค่าน้อยคือถ้อยวาด
มิหมายมาดใครชิมได้อิ่มหนำ
มิหวังรื่นในรสจนจดจำ
เพียงชุ่มฉ่ำน้ำใจอันใสพราว
ยื่นมือมาเถิดนักเดินทางผู้คว้างเร่ *
ขอถ่ายเททุกข์ร้อนพักผ่อนหนาว
จากห้วงแห่งกาลอันนานยาว
ขอปวดร้าวแบ่งริ้วปลิดปลิวไป
สบตาฉันเถิดมิตรสนิทนิ่ง
ซึมซับสิ่งเลอค่าคลายล้าไหว
ซบหน้ากับตักหนุนเอาอุ่นไอ
ก่อนจากไกลอีกคราวอย่าร้าวลา
ถามไถ่ถึงดวงดาวคืนหนาวเหน็บ
คนจรเจ็บแผลหน่วงใครห่วงหา
ปันความรักเศษเสี้ยวเพียงเยียวยา
เพื่อเติมไฟศรัทธาให้ร้อนแรง
ภัสมะ
คัดมาจากหนังสือ “ดื่มดาวกลางแดด” หน้า 34-35
*ยื่นมือมาเถิดนักเดินทางผู้คว้างเร่ * (ท่อนนี้เขามีสิบคำ ตามหนังสือที่พิมพ์นะ)






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
บันทึกการเข้า