Re: <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
09 พฤษภาคม 2024, 01:54:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: <<อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ>>  (อ่าน 2719 ครั้ง)
ตรีประภัสร์ โสม
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 117
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 192


บุปผา ลอยลิ่ว พลิ้วไหว


« เมื่อ: 23 ธันวาคม 2013, 04:18:AM »




< อักษรพยศ..จรด..กลอนไฟ >

บรรจงจด บทฝัน อันอ่อนหวาน
เข้าสู่กานท์ จินตนา พาสุขสม
อยากขับถ้อย ความคิด จิตภิรมย์
ชวนชื่นชม ความเชื่อ เหนือมายา

จะกลั่นกรอง คล้องคำ ลำนำสร้อย
ขอเรียงร้อย กิเลส เหตุตัณหา
ให้รู้ถึง นิยาม รูปนามมา
ณ.พสุธา จรดขึ้น พื้นโพยมาน

จักร่ายพจน์ รสกวิน จินต์หลั่งไหล
กระทบใจ แกร่งกร้าว น้าวสังหาร
หมายโรมรัน พยัญชนะ ประจัญบาน
สระคาน สอดกด ลดความแรง

เมื่อสัดส่วน เรรวน กวนสับส่าย
กระจัดจาย หวานบ่ม ขมเคลือบแฝง
สัณชาตญาณ เกรี้ยวกราด สาดสำแดง
ความรุนแรง บุกโจม โหมบทกลอน

ส่งให้ไฟ บรรลัยกัลป์ พลันบรรจบ
เสียงกลองรบ ดุดัน อันกระฉ่อน
โหม่งฉาบฆ้อง บรรเลง เพลงประลอง
ปี่พาทย์มอญ ร้องย้ำ รำมะนา

รินวจี กวีกานท์ ผลาญร้อนเร่า
พระเพลิงเผา ลมพัดกลืน คืนสู่หล้า
กลอนลุกไหม้ ไล่ลาม ตามมรรคา
ห้วงนภา เวหาหน จุรณไป..

หนึ่งโสม
๑๘.๑๒.๒๕๕๖


อาตาปีเร่งเร้าเผากิเลส
เฝ้าสังเกตุตัณหาพาเคลื่อนไหว
สติรู้ตัวทั่วพร้อมทั้งกายใจ
ธรรมฝ่ายใดรินวจีกวีกานท์

กุสลาธัมมาว่ากลอนพจน์
ย่อมหมดจดจากจิตคิดสื่อสาร
มีความเย็นแห่งวจีเป็นสายธาร
ใจห้าวหาญด้วยจินตพระกวี

ขอเป็นแรงช่วยหนุนคุณหนึ่งโสม
ช่วยประโคมกลองธรรมนำวิถี
ฝ่าวงล้อมแห่งกิเลสเพื่อโจมตี
ยึดพื้นที่แห่งธรรมนำมาครอง

รื้อวัฎฎะที่ขึงตรึงชีวิต
ยึดเข็มทิศมรรคคาไม่มีสอง
ทางอันเอกแห่งพุทธะชนะปลอง
เพื่อครอบครองมรรคผลพ้นภัยพาล

         m1 เคารพรัก

        21/12/56



 เคารพรัก       เคารพรัก      เคารพรัก

กรรมสืบต่อสืบกอแห่งกิเลส
ปกป้องเขตเขียนย้ำนำสืบสาน
วิบากซ้ำกรรมซัดวิบัติปาน
ร้อยเรียงกานท์ผสานค่าภาษากวี

โลกอาเพศรวนรุมให้รุ่มร้อน
รินร่ายกลอนดับทุกข์สุขเสริมศรี
วรรณศิลป์จินต์สรวงบ่วงความดี
ใจเปรมปรีดิ์ปลอดโปร่งโลงในธรรม

อยู่ตราบกาลเนิ่นนานกี่กาลกัลป์
รู้ระงับในผิดบาปหยาบอย่าถลำ
ให้จารจดบทถ้อยถักสร้อยคำ
เลี่ยงทุกข์กรรมพ้นห้วงดั่งดวงตะวัน

คนเขียนกลอนอ่อนใจในบางบท
ที่สลดเจ็บแปลบและแสบสันต์
ใช้คารมคมคายทำร้ายกัน
หวังฆ่าฟันด้วยบทกลอนสะท้อนมาน

หนึ่ง"หิริ"รู้ละอายฝ่ายบาปช้า
เพราะบาปพาร้อนเร่าให้เผาผลาญ
"โอตตัปปะ"เกรงกลัวชั่วสาธารณ์
เกรงกลัวปานอสรพิษคิดหลีกไกล

จิตวิญญาณคนเขียนกลอนไม่อ่อนล้า
สื่อภาษาคล้องจองสวยผ่องใส
ชำนาญศิลป์รินระบือลายสือไท
เพื่อรักษ์ไว้ร้อยรสบทกวี..

ดั่งฤทัยก้าวสู่จุดพิสุทธิ์ใส
กระจ่างใจเพียรปลงส่งสุขี
แม้นแจ้งในไตรลักษณ์ประจักษ์ดี
พบมณีดวงแก้วเพริดแพร้วไป..

หนึ่งโสม
๒๓.๑๒.๒๕๕๖

 เคารพรัก
๐ โสมหาที่ลงเกือบไม่เจอค่ะ ๐
๐ บทไหนวรรคไหนไม่รับสัมผัส ๐
๐ ขออภัยด้วยค่ะ ชี้แนะได้ค่ะ ๐
 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, m1, ชลนา ทิชากร, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 ธันวาคม 2013, 11:58:AM โดย หนึ่งโสม » บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s