Re: นานเท่าไหร่แล้ว
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
08 พฤษภาคม 2024, 05:42:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: นานเท่าไหร่แล้ว  (อ่าน 4584 ครั้ง)
เทโพ
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 58
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 130



« เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2013, 01:27:PM »

นานแล้วที่ผมไม่ได้ใส่รองเท้า....
....รองเท้าพรากฝ่าตีนผมออกจากแผ่นดินโลก ที่จริงตีนผมก็ไม่ได้เหมาะกับทุกสถานะหรอกครับ เวลาไม่ใส่รองเท้าตีนผมเดินไปได้แค่บางพื้นที่ ..หรือว่าวิวัฒนาการจากบรรพชนผม เปลี่ยนให้คนทั้งโลก มีฝ่าตีนที่บางกว่าหมา(แต่ผมอาจมีใบหน้าที่หนากว่าควาย)....
....ชีวิตเหนือฝ่าตีนเป็นชีวิตที่ชอบแสวงหา ..หน้าผมไม่ได้หล่ออะไร แต่ใจผมแม่งไม่เคยอยู่นิ่งๆมาก่อนเลย ..ก็ใจนี่แหละที่บังคับให้ตีนผมไม่เคยหยุดเดิน.. ..ที่จริงผมว่าผมไม่ได้ใช้ตีนเดิน ผมใช้ใจเดินมากกว่า....
....ผมตัดสินใจ "ไม่ใส่รองเท้า" มาตั้งแต่สี่ปีก่อน ผมแค่อยากลองดูว่า เวลาเดินตีนเปล่า มันจะเดินได้ไกลสักแค่ไหน.. ..แล้วผมก็เริ่มเดินทาง....
....ผมเที่ยวประเทศไทยโดยลำพังทุกครั้ง ..เหนือก็เคยไป ใต้ก็เคยมา....
....จนกระทั่งตีน พาตัวผมไปเจอกับนางฟ้า.... เธอเป็นช่างถ่ายภาพที่สตูดิโอเล็กๆที่พังงา ..ผมว่าเธอถ่ายภาพสวย ..แต่พอผมกลับมามองในสายตาเธอ ภาพที่เธอถ่ายก็กลายเป็นความงามระดับขี้ตีนไปเลย....ใบหน้าเธองามอย่างที่ไม่มีอักษรใดบรรยายครบ สายตาเหมือนจะหยดลงท่วมทั้งโลก....เธอน่ารัก ขี้เล่น ..และไม่รังเกียจที่ผมเดินตีนเปล่า....
....ผมว่าผมรักเธอ....
ความรักคืออะไรกันหนอ ..เวลารัก ตีนผมจะไม่รู้ตัวว่ามันกำลังเดินไปที่ไหน มันรู้แค่ว่าเดินอยู่กับใครเท่านั้น....
เธอถามผมว่า ทำไมไม่ใส่รองเท้า ..ผมแค่บอกเธอว่า "ผมอยากเหยียบโลกของผมด้วยตีนตัวเอง ไม่ใช่เหยียบผ่านแผ่นยาง"..
..เธอคงชอบผมที่ประโยคนั้น....แม้เธอจะไม่รังเกียจที่ผมไม่ใส่รองเท้า แต่เธอยังเรียกร้องให้ผมใส่รองเท้าเสียที คนอื่นเห็นจะมองไม่ดีเอา.... ผมสัญญากับเธอว่า "แต่งงานกันเมื่อไหร่ ใส่ชัวร์" เธอหัวเราะ....
....ความรักคืออะไรหนอ....เรารักกันนานเหมือนนิรันดร์..กำหนดแต่งงานเป็นวันจันทร์ก่อน ..ที่จริงเราน่าจะได้แต่งงานกันมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว ..ตอนนี้ผมน่าจะได้ใส่รองเท้าแล้ว....
....แต่โลกเรามักกวนตีนเสมอ..
ผมเสือกติดเชื้อที่ส้นตีนขวา ต้องตัดขาทิ้ง ..ตั้งนานก็ไม่มีวี่แวว ต้องมาตัดขาวันแต่งงานตัวเอง....
....ที่น่าเสียดายคือ ....ผมยังไม่มีโอกาสได้ใส่รองเท้าเลย!
ที่รักของผมก็อยู่ที่ห้องผ่าตัด..เธอร้องไห้....เธอบอกว่าเธอไม่รังเกียจที่ผมต้องตัดเท้าไป กลายเป็นพิการ และจะยังคงแต่งกับผมเมื่อผมออกจากโรง'บาล.... นี่ผมประทับใจเลย....
ที่จริงผมก็เศร้านะ ..ตีนที่อยู่กันมาตั้งนานนม ไปไหนมาไหนด้วยกัน วันนี้ต้องมาโดนตัดทิ้ง....
....ผมถามเธอไปด้วยรอยยิ้มกวนๆ "นี่เธอร้องไห้ทำส้นตีนอะไรครับ๕๕"....
..เธอเกือบยิ้มได้แล้วเชียว.... แต่ก็ร้องไห้ต่อ ..ผมไม่รู้จะทำไงดี....แค่อยากให้เธอยิ้ม....
..ในคราบน้ำตา เธอถามผม "แล้วนพไม่เสียดายเหรอ เท้าของนพจะพาไปไหนต่อไหนไม่ได้อีกแล้วนะ?".... เธอขอบตาแดงก่ำ....
....ผมมองตาคู่งามของเธอที่กำลังเปียกน้ำตา....
"ก็แค่สบายขึ้น..ไม่ต้องเดินเอง มีคนเดินให้ไง"
....เธอยิ้มออกแล้ว....
....ผมว่าผมยอมขาขาด แต่มีคนมาคอยเดินข้างๆทุกๆที่ ดีกว่าที่ขาครบ แต่ต้องเดินอยู่คนเดียว....
..
....ทุกวันนี้ผมไม่ได้ใส่รองเท้าอีก....และไม่ว่ารองเท้าหรือแม้แต่ตีนผมก็ไม่สามารถพรากผมจากแผ่นดินโลกนี้ได้อีกแล้ว....
..
..
..
อิสระที่แท้จริงคืออะไรหนอ.... การไม่ใส่รองเท้า.... การท่องเที่ยวคนเดียว....
....
หรือแท้จริงมันเป็นเพียงการที่ลืมพื้นที่โลกไป....แล้วใช้ใจเดินไปกับคนที่เรารักแทน..ผมว่ามันเดินได้ไกลกว่าใช้ตีนแน่นอน.... ....ใช่ครับ ผมเห็นเธอยิ้มออกแล้ว....

..เทโพ..

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

อริญชย์, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s