Re: " บทคารวะบ้านกลอนไทย" (ขออภัยที่พาดพิง)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
04 พฤษภาคม 2024, 09:55:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: " บทคารวะบ้านกลอนไทย" (ขออภัยที่พาดพิง)  (อ่าน 13176 ครั้ง)
ภู กวินท์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 364
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 383


สนสามใบ กับใครหลายคน


« เมื่อ: 10 สิงหาคม 2011, 09:43:PM »



คารวะท่าน victoriasecret เพชรน้ำหนึ่ง
หวานคะนึงถึงกล มนต์อักษร
แต่ละศัพท์จับมาพาอาวรณ์
ถ้อยสุนทรตอนคิด, สถิตใจ

คารวะท่าน ระนาดเอก, เอกบุรุษ
วจีสุดคมคายบรรยายไหว
เป็นทั้งครูผู้สอนตอนอยู่ไกล
เป็นผู้ให้ความรู้, แก่ผู้คน

คารวะท่าน สายใย ไมตรีดั่ง-
อีกฝากฝั่งสังเกตุมีเหตุผล
มีความคิดกล้าแกร่งแห่งตัวตน
อยู่นานจนเชี่ยวชาญ, งานกวี

คารวะลุง ปรางค์ สามยอด ตลอดมิตร
มีหัวจิตหัวใจในวิถี
ดำรงตนประจำคือทำดี
ลูกหลานมีแนวทาง, วางอย่างลุง

คารวะท่าน วฤก ผู้เกริกฤทธิ์
เนรมิตคำไว้ในใกล้รุ่ง
ทุกสำนวนชวนฝันอันจรุง
ไม่ต้องปรุงเสริมแต่ง, จากแหล่งใด

คารวะท่าน พรายม่าน จากงานกล่อม
ขอนบน้อมด้วยจิตสถิตไว้
ด้วยบทกลอนระบิลอยู่ถิ่นไกล
อยากฝากใจเป็นศิษย์, คอยติดตาม

คารวะท่าน Hort39 หนาวหรือสุข
กลอนสนุกครื้นเครงบรรเลงถาม
เพื่อชีวิตเชื่อมโยงกี่โมงยาม
ช่างงดงามความเด่น, ชื่นเย็นทรวง

คารวะท่าน ดาว อาชาไนย
ฉ่ำดวงใจหวงแหนจากแดนสรวง
มธุรสพจน์คล่องผ่องทั้งปวง
บริสุทธิ์ดุจร่วง, สู่ดวงใจ

คารวะท่าน รพีกาญจน์59 เกินกล่าวถึง
เสียงซอซึงถึงดาววับวาวใส
บรรจงร้อยถ้อยคำเด่นอำไพ
จนฝันใฝ่ได้อ่าน, บนลานคำ

คารวะ ป้ากันนา บูชายิ่ง
เป็นทุกสิ่งเป็นครูดูอิ่มหน่ำ
ช่วยลูกศิษย์ลูกหาตาดำดำ
มาชี้นำตัวบท, พจน์กวี

คารวะท่าน เมฆา ศรัทธาเปี่ยม
ไม่มีเหลี่ยม เล่ห์กล บนศักดิ์ศรี
ทุกสำเนียงเสียงดังฟังชัดดี
ต่างก็มีหวานขม, น่าชมเชย

คารวะท่าน จ้อง เจรียงคำ
ให้จดจำสติที่ผลิเผย
หอมไออุ่นกรุ่นรักจักรำเพย
รับรู้เลยตอนจบ, พบความจริง

คารวะท่าน…สียะตรา…อุษาผ่อง
ท่วงทำนองของหลักประจักษ์ยิ่ง
นิมิตคำดำเนินเกินประวิง
ประสิทธิ์สิ่งสื่อสาร, ละลานคำ

คารวะท่าน ทอฝัน ในวันนี้
ด้วยฤดีที่ตื่นของคืนค่ำ
ทุกสำเนียงเสียงบทต้องจดจำ
หลงดื่มด่ำฉ่ำเพลิน, มาเนิ่นนาน

คารวะท่าน กามนิต ลิขิตถ้อย
บรรจงร้อยเรื่องเก่าเขาเล่าขาน
ชื่นสุขสันต์บันเทิงในเชิงกานท์
สุขสำราญงานกลอน, อันอ่อนโยน

คารวะท่าน กายวิน ได้ยินเสียง
เป็นสำเนียงข้างในอันไกลโพ้น
ทุกจังหวะซ่อนซุกเข้าลุกโชน
กวีพจน์รสกระโจน, เข้าโหนฝัน

คารวะท่าน Masapaer แน่วแน่จิต
ด้วยชีวิตสุจริตไม่ไหวหวั่น
ใช้ธรรมะขัดเกลารู้เท่าทัน
พจน์อนันต์พิสุทธิ์, ดุจเมตตา

คารวะท่าน กชนันท์ ลาวัณย์ส่อง
ประทุมคลองสว่างกระจ่างหล้า
ขาวผุดผ่องเด่นดวงพวงมาลา
พจนาปราศรัย, ด้วยไมตรี

คารวะท่าน ตะวันฉาย พร่างพรายเพริศ
งามล้ำเลิศความหวังแผ่รังสี
ไร้มายามาอยู่คู่ราตรี
อย่างมณีล้ำค่า, คราทะนง

คารวะท่าน ปรางทิพย์ โรจน์ลิบฟ้า
สุริยาเพริศแพร้วดั่งแววหงส์
จากกิ่งฟ้าไล่เรียงสำเนียงลง
ให้ใหลหลงภาษา, จนอาวรณ์


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ดิษฐา, ระนาดเอก, ไพร พนาวัลย์, สุนันยา, คันไถ, สะเลเต, รัตติกาล, ไม่รู้ใจ, พี.พูนสุข, hort39, ช่วงนี้ไม่ว่าง, ปรางทิพย์, ทอฝัน, นพตุลาทิตย์, สายใย, เกล็ดนาคา, amika29, ...สียะตรา.., บ้านริมโขง, รพีกาญจน์, กามนิต, สมนึก นพ, ยามพระอาทิตย์อัสดง, เมฆา..., แป้งน้ำ, รุ่งอรุณ, จ.รัตติกาล

ข้อความนี้ มี 27 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 สิงหาคม 2011, 10:14:PM โดย ทำ มะดา » บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s