Re: แชร์หนังเรื่องโปรดให้ได้หามาดูกัน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
18 พฤษภาคม 2024, 04:31:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: แชร์หนังเรื่องโปรดให้ได้หามาดูกัน  (อ่าน 15171 ครั้ง)
~ นายใบชา ~
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 267



« เมื่อ: 30 กันยายน 2013, 01:45:AM »


                    “สงครามอาจจะนำมาซึ่งวังวนแห่งความสับสนวุ่นวายกับการอเสียสละ แต่ทว่าปลายทางกลับนำมาซึ่งความหวัง ดังนั้นเราอาจจะบอกได้ว่าสงครามคือช่วงชีวิตที่ขาดไม่ได้ของวัฒนธรรมของมนุษย์ได้หรือไม่? ถ้าหากสงครามนั้นจบลงแต่ยังไม่จบซึ่งความหวังล่ะ มนุษย์ควรจะทำเช่นไรต่อไป จะทำสงครามครั้งใหม่เพื่อหาข้อสรุปที่ดีกว่า หรืออยู่เฉยๆรอให้วังวนแห่งความสับสนนั้นจบลงเองตามกาลเวลา”           
 
บทนำ: หรือมนุษย์ใช้สงครามเป็นทางออกของปัญหา?
                  คำว่า “สงคราม” คำๆนี้เมื่อผู้อ่านได้อ่านแล้วอาจจะจินตนาการไปตามๆกันต่างๆนาๆบ้างก็นึกถึงความโหดร้าย ความรุนแรงบ้าง การต่อสู้ฆ่าฟัน ซึ่งกันและกันบ้าง เป้าหมายอาจจะเพื่อชัยชนะหรือเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่หลากหลายมากมายเหล่านี้ ที่พวกเขาใช้ในการกล่าวอ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่พวกเขาต้องการ ดังจะเห็นได้จาก เมื่อสงครามโลกครั้งที่2 ที่เกิดจากความตึงเครียดเกี่ยวกับชาตินิยม ที่สืบเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่1 รวมทั้งผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ด้วย จึงก่อให้เกิดเป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้น  ซึ่งก็ยากเกินกว่าที่จะแก้ไขกับปัญหาเหล่านี้พวกเขาจึงตัดสินปัญหาลงด้วยคำสั้นๆที่เรียกว่า  “สงคราม”

                 จากเนื้อความข้างต้นอาจจะเชื่อมโยงกับได้ภาพยนตร์แนวสงครามเรื่อง “Saving Private Ryan   ฝ่าสมรภูมินรก” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เล่าย้อนกลับไปเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2ที่ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะได้ก่อประทุสงครามกันขึ้น เมื่อวันที่6 มิถุนายน 1944 หลังจากการบุกหาดโอมาฮ่า ซึ่งกองทับอเมริกันประสบกับความสูญเสียเป็นอย่างมาก ทหารหลายคนบาดเจ็บ พิการ ล้มตาย เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อทหารที่เหลือรอดชีวิตกลับมาได้เพียงไม่กี่วันพวกเขากลับต้องไปฝ่าสมรภูมิสงครามอีกครั้งเพื่อที่จะต้องไปช่วยเหลือ พลเอก เจมส์ ไรอัน ที่ตกอยู่ในแนวข้าศึกโดยไม่ทราบชะตากรรมว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตไปแล้ว โดยภารกิจครั้งนี้จึงตกอยู่แก่กองกำลังของ ร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์ ซึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชา 7 คนที่จะต้องฝ่าสมรภูมินรกครั้งนี้ไปกับเขาด้วย ซึ่งแต่ละคนก็ต่างตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมต้องเสี่ยงชีวิตคนส่วนใหญ่เพื่อชีวิตคนๆเดียวด้วย
              และภาพยนตร์เรื่อง “Saving Private Ryan   ฝ่าสมรภูมินรก” ยังให้ข้อคิดที่มากมายหลายแง่มุม ได้เห็นถึงการสูญเสียและการเสียสละ ในการทำสงครามครั้งนี้ว่าเพื่อประโยชน์ของตัวพวกเขาหรือเพื่อประโยชน์ของใครกัน และในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้ท่านผู้ชมได้ตั้งข้อสงสัยไปต่างๆนาๆว่า “ทำไม” ต้องมีสงคราม และทำไมต้องเสี่ยงชีวิตของคนส่วนมากเพื่อช่วยคนๆเดียวด้วย บทสรุปอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาหวัง ในเมื่อมนุษย์ทุกคนไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ก่อสงครามไม่ได้  อีกทั้งถ้าพวกเขายังเห็นว่าสงครามเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิตและยังใช้สงครามเป็นทางออกของปัญหาอยู่ร่ำไป

เนื้อเรื่องย่อ
                    เกิดจากการนึกคิดถึงภาพในอดีตของ พลเอก เจมส์ ไรอัน เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังการบุกหาดโอมาฮ่า เมื่อวันที่ เมื่อ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1944  จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นกองทัพอเมริกันประสบความสูญเสียเป็นอย่างมาก ทหารหลายคนบาดเจ็บ พิการ และล้มตายเป็นจำนวนมาก การสูญเสียในครั้งนี้ ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์ ผู้นำกองทหารกองหนึ่งก็ด้วยเช่นกัน ที่ต้องพบกับความสูญเสียของผู้ใต้บังคับบัญชาในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
    แต่ในยุทธการยกพลขึ้นบกครั้งนี้ของฝ่ายสัมพันธมิตร นำมาซึ่งความสูญเสียของบุตรชาย 3 คนแห่งตระกูลไรอัน ซึ่งกองทัพสหรัฐได้ส่งจดหมาย แสดงความเสียใจมาแก่คุณนายไรอัน แต่ทว่า ในการพิมพ์จดหมายนั้น เสมียนผู้พิมพ์พบถึงความสูญเสียของตระกูลไรอันแล้ว 3 คน ซึ่งยังเหลือเพียงบุตรชายคนสุดท้อง คือ พลทหาร เจมส์ ไรอัน ที่ตกอยู่ในแนวข้าศึกโดยไม่ทราบชะตากรรม ผู้นำกองทหารจึงได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาถึงเรื่องนี้ ผู้บังคับบัญชาจึงได้ตัดสินใจให้พวกเขาพาพลทหารไรอันกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย
       ภารกิจนำพลทหารไรอันกลับบ้านในครั้งนี้จึงตกแก่กองกำลังของร้อยเอกมิลเลอร์ และผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 7 คน ที่พวกเขาเพิ่งกลับจากสนามรบเมื่อครั้งก่อนพียงไม่กี่วันพวกเขาแต่ละคนต่างก็ตั้งข้อสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเสี่ยงชีวิตคนส่วนมากเพื่อช่วยชีวิตคนๆเดียวด้วย โดยที่ระหว่างการเดินทางพวกเขาต้องประสบกับความสูญเสียเป็นอย่างมาก เหล่าทหารที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ต้องมาจบชีวิตลงทีละคนจากการทำสงครามกับฝ่ายเยอรมันนีเพื่อบุกเข้าไปช่วยตัว ไรอัน  แต่เมื่อพวกเขาเจอตัวของ ไรอัน พวกเขาก็ได้เล่าถึงความสูญเสียของพี่ชายทั้งสามคนที่เสียชีวิตในสมรภูมิรบและบอกถึงจุดประสงค์ที่พวกเขามาในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะช่วยไรอันและนำตัว ไรอันกลับบ้าน  แต่ ไรอัน กลับปฏิเสธการช่วยเหลือจากพวกเขา เพราะไรอันเลือกที่จะต่อสู้อยู่ที่สมรภูมิรบแห่งนี้เหมือนกับที่พี่ชายของเขาได้ทำ ไรอันบอกกับทุกคนว่าถึงแม้ว่าชีวิตของเขาเสียไปเขาก็ไม่เสียดายถ้าได้ทำเพื่อชาติ    มิลเลอร์ จึงได้ตัดสินใจที่จะพูดถึงมารดาของเขาที่เสียใจกับการจากไปของพี่ชายและยังคงมีความหวังที่จะรอพบเจอหน้าของลูกชายคนสุดท้องที่ยังหลงเหลืออยู่และเป็นสิ่งเดียวในชีวิตของเขา ไรอัน สงสารมารดาจึงได้ยอมกลับแต่โดยดี แต่ทว่าการเดินทางกลับในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเท่าไหร่นัก ร้อยเอกมิลเลอร์และกองกำลังที่เหลือก็ต้องมาพบกับจุดจบของชีวิตในที่สุด จากกการต่อสู้กับกองทัพเยอรมันนี อีกครั้ง  แต่ก่อนตาย มิลเลอร์ได้บอกแก่ไรอันว่า ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า คุ้มกับสิ่งที่พวกเขาต้องเสียไป ซึ่งไรอันได้จดจำและสำนึกในบุญคุณของมิลเลอร์ไปตลอด


 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

~ขลุ่ยกันแสง~, Prapacarn ❀, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s